"ฉีดวัคซีน" เด็ก ผู้ปกครองอนุญาต ยี่ห้อไหน สูตรไหน ถูกเลือกมากสุด 1 ใน 4 ไม่รับ
"ฉีดวัคซีน" ใน เด็ก ท่ามกลาง โอไมครอน ระบาด พบ 1 ใน 4 ผู้ปกครองไม่อนุญาต ส่วนที่เหลือเลือก ยี่ห้อไหน สูตรไหน มากที่สุด ลองดูเป็นแนวทางด้วยความสมัครใจ
เกาะติด "ฉีดวัคซีน" ใน เด็ก ท่ามกลางการแพร่ระบาดของ โอไมครอน (โอมิครอน) โควิด-19 กลายพันธุ์ โควิดสายพันธุ์ใหม่ ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดในช่วงเวลานี้ ล่าสุด หมอยง ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ Yong Poovorawan การรับวัคซีนป้องกัน COVID-19 ในประเทศไทย เป็นไปตามความสมัครใจ เปิดผลโพลล์ ผู้ปกครอง อนุญาต ให้ฉีดยี่ห้อไหนกี่เปอร์เซ็นต์ ไปไล่เรียงดูกันได้เลย
หมอยง โพสต์ระบุ การศึกษาการ "ฉีดวัคซีน" ใน เด็ก นี้ ให้นักเรียนมัธยมปลาย 4 ท่าน ฝึกการทำวิจัย แบบสอบถาม และวิเคราะห์ข้อมูล เป็นการสอนให้คิดและวิเคราะห์เป็น โดยเราเริ่มให้วัคซีนในเด็ก อายุ 5 - 11 ปี ได้เริ่มขึ้นแล้ว ดังได้เคยกล่าวมาแล้วว่า เด็กจะเป็นกลุ่มท้าย ๆ ที่ควรจะได้รับวัคซีน
"จากแบบสอบถามความสมัครใจในผู้ปกครองที่มีบุตรหลาน อายุ 5 ถึง 11 ปี ถึงความสมัครใจในการรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในประเทศไทย โดยผ่านทางสื่อสังคม ในช่วงวันที่ 11 - 13 กุมภาพันธ์ 2565 มีผู้ปกครองตอบคำถามมาทั้งสิ้น 3,588 คน ผลที่ได้ พอจะประเมินได้ดังแสดงในรูป"
ทั้งนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามมีหลากหลายอาชีพ โดยเป็นบุคลากรทางการแพทย์ รับราชการ ธุรกิจส่วนตัว บริษัทเอกชน แม่บ้าน และอื่น ๆ อาศัยอยู่ใน กรุงเทพฯ มากที่สุด จังหวัดอื่น ๆ โดยเฉพาะปริมณฑล และกระจายเกือบทั้งประเทศ หมอยง ระบุและบอกว่า ผู้ปกครอง (3,588 คน) จะจะอนุญาตให้ บุตรหลานที่อายุ 5 ถึง 11 ปี รับวัคซีนป้องกัน COVID-19 ร้อยละ 75.3 และไม่ขอรับวัคซีนร้อยละ 24.7
หมอยง โพสต์ระบุอีกว่า ในจำนวนที่จะไป "ฉีดวัคซีน" (2,700 ราย) ชนิดของวัคซีนที่ต้องการ ตามที่ขึ้นทะเบียนจาก อย. จะเป็น
- ไฟเซอร์ (Pfizer) ร้อยละ 59.2
- ซิโนฟาร์ม (Sinopharm) ร้อยละ 30.7 %
- ซิโนแวค (Sinovac) ร้อยละ 5.6
- สูตรไขว้ ฉีดสลับชนิดของวัคซีน ร้อยละ 4.6
"จากข้อมูลทั้งหมดแสดงให้เห็นว่า ความต้องการที่จะฉีดวัคซีนให้เด็กยังอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 3 ใน 4 และการเลือกฉีดชนิดของวัคซีนก็มีความหลากหลาย" หมอยง ระบุและบอกว่า ที่น่าสนใจ คือ คำถามปลายเปิด โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ต้องให้กับบุตรหลานไปรับวัคซีน ส่วนใหญ่จะคำนึงถึงอาการข้างเคียง และผลระยะยาวของวัคซีน
"การให้ความรู้ ประโยชน์ ผลที่ได้รับ และอาการข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นจากวัคซีน ในวัคซีนชนิดต่าง ๆ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการช่วยการตัดสินใจของผู้ปกครอง" หมอยง ทิ้งท้าย
* นักเรียนที่ทำการศึกษา คือ นายนรกิตติ์ สุทธินรเศรษฐ์ , นางสาวลิตา ตันติประภาส , นายนรเศรษฐ์ สุทธินรเศรษฐ์ และ นางสาวปิยาภา สุทธินรเศรษฐ์