แบบนี้ก็ได้? ร้านอาหารเสิร์ฟ "แมงดาทะเล" แบบนี้ให้ลูกค้า อ.เจษฎ์ แนะวิธีดู
"อ.เจษฎ์" ยกเคสตัวอย่าง ชื่นชมผู้บริโภค แยกแยะ "แมงดาทะเล" ได้ ว่าตัวไหนมีพิษ หรือไม่มีพิษ พร้อมแนะ หลีกเลี่ยงการกินไข่ แมงดาทะเล เพื่อช่วยอนุรักษ์
รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความ ผ่านเพจ อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ โดยกล่าวว่า เป็นเรื่องดีมาก ที่ผู้บริโภคเริ่มสามารถแยกแยะ "แมงดาทะเล" ได้แล้วว่า "แมงดาถ้วย" นั้นก็เป็นกลุ่มของ "แมงดาทะเล" หางกลม เช่นเดียวกับแมงดาไฟ หรือตัวเหรา ซึ่งเป็นอันตรายต่อการบริโภค
โดยยกเคสตัวอย่างผู้บริโภคท่านหนึ่ง ได้โพสต์ลงในกลุ่ม พวกเราคือผู้บริโภค โดยมีข้อความว่า
"เตือนภัยร้านอาหารไร้คุณธรรม ขายแมงดาทะเลมีพิษให้ลูกค้า โปรดระวังไว้
ร้านอาหารแห่งนึงปลายหาดนพรัตน์
จ.กระบี่ หน้าร้านโชว์สัตว์น้ำเป็นสารพัดประเภท รวมทั้ง "แมงดาทะเล" ซึ่งตัวหน้าร้านเป็นแมงดาจานทั้งหมดทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ เราสั่งขนาดเล็กมา สิ่งที่ได้มาคือแมงดาถ้วย (เป็นแมงดามีพิษ) ซึ่งมันไม่มีโชว์หน้าร้านสักตัว พอถามพนักงาน ว่านี่คือแมงดาอะไร นางบอกแมงดาจาน เราเลยบอกแมงดาที่เธอทำให้ฉันมันมีพิษกินไม่ได้ นางเถียงคอเป็นเอ็น ขายมา 12 ปี แล้วไม่มีใครเป็นอะไร ก็รับมาแบบนี้จะให้ทำไง ถ้าเป็นทางร้านจะรับผิดชอบเอง ถ้าเรียกร้อง 30 ล้านจ่ายไหวไหม
พอเราคอนเพรน ก็ทำไม่พอใจ แม่ครัวเจ้าของร้านออกมาโวยวายใส่ลูกค้า
นอกจากเอาแมงดาพิษมาขายแล้ว
อาหารอื่นๆ ยังไม่มีคุณภาพเช่นกัน
รออาหารเป็นชั่วโมง อาหารหมดก็ไม่แจ้ง สั่งไปครึ่งชม.เดินมาบอกว่าหมด
ทั้งคุณภาพและบริการไม่ได้เรื่องสักอย่าง #ร้านอาหารขายคนขาจร #ร้านอาหารขาดคุณธรรม"
อ.เจษฎ์ ได้กล่าวต่อว่า "แมงดาทะเล" หางกลมนั้น อาจมีพิษสะสมในตัวได้ แม้ว่าจะพบความเสี่ยงที่ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ของแมงดาหางกลมที่จับได้ในประเทศไทยก็ตาม
ดังนั้น ควรจะพยายามหลีกเลี่ยง หรือถ้าเป็นไปได้ ไม่ควรกินไข่แมงดาเลยด้วยซ้ำ จะได้เป็นการช่วยอนุรักษ์แมงดาทะเล ให้ยังมีในประเทศไทยต่อไป
วิธีแยกแยะ "แมงดาทะเล"
แมงดาถ้วย (มีพิษ)
วิธีสังเกต : โคนหางถึงกลางหาง มีลักษณะกลมเหมือนแท่งดินสอ
ลักษณะภายนอก : มีกระดองโค้งกลมนูนเหมือนถ้วย ผิวด้านบนมีขนสั้น สีน้ำตาลอมแดง
แหล่งอาศัย : อยู่ตามหาดโคลนปนทรายและตามคลองบริเวณป่าชายเลน
สารพิษ : พบสาร tetrodotoxin และ saxitoxin ในเนื้อและไข่ เป็นสารชนิดเดียวกับที่พบในปลาปักเป้า และความร้อนไม่สามารถทำลายพิษได้
อาการเมื่อได้รับพิษ
ปากชา พูดไม่ได้ แขนขาชา หายใจไม่ออก บางรายอาจมีอาเจียนร่วมด้วยและรุนแรงถึงขันเสียชีวิต
แมงดาจาน (ไม่มีพิษ)
วิธีสังเกต : โคนหางถึงกลางหาง มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยม
ลักษณะภายนอก : กระดองแบนกว้างเหมือนจาน พื้นผิวด้านบนเรียบ มีสีน้ำตาลอมเขียว
แหล่งอาศัย : บริเวณน้ำตื้นตามชายฝั่งทะเล วางไข่ไว้บนหาดทราย
เสี่ยงสูญพันธุ์ : ปัจจุบันแมงดาจานเหลือน้อยมากในประเทศไทย เริ่มมีการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน
ข้อควรระวัง
1. ไม่ซื้อไข่แมงดาทะเลมาปรุงอาหารรับประทานเอง
2. ควรรับประทานที่ร้านอาหารทะเล ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการจำแนกชนิดแมงดา
3. หากมีอาการผิดปกติ รีบพบแพทย์ทันที
ข้อมูลและภาพ : สวสช. // กลุ่ม พวกเราคือผู้บริโภค