ดราม่า กม.บังคับใช้ "คาร์ซีท" เปิดคอมเมนต์ชาวเน็ต กฎหมายผิด หรือ ผิดที่คนด่า
ชาวเน็ตคอมเมนต์ ดราม่า กม.บังคับใช้ "คาร์ซีท" เปิด 2 มุม กฎหมายผิด หรือ ผิดที่คนด่า หรือ บังคับใช้ผิดเวลาตอนนี้คนไร้เงิน
เมื่อมีชาวพันทิป ตั้งคำถามถึงกรณีมีการประกาศราชกิจจานุเบกษาบังคับใช้กฎหมายให้เด็กที่อายุไม่เกิน 6 ปี ต้องนั่ง "คาร์ซีท" และมีโทษปรับถึง 2,000 บาท เเต่โนโลกออนไลน์กลับมีการเเสดงความเห็นเชิงลบกับการบังคับใช้กฎหมายข้อนี้ ว่า ทำไมประเทศไทยออกกฎหมายให้เด็กนั่งคาร์ซีทกลับมีคนด่าเยอะมาก
ในขณะที่มีการเรียกร้องให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่พอออกกฎหมายเหมือนกับประเทศที่พัฒนาแล้วกลับออกมาด่ากัน
ประเด็นดังกล่าวหากเเยกความคิดเห็นชาวเน็ตออกเป็น 2 มุม คือกรณีของคนที่มีความเห็นในเเง่ลบกับคนที่ออกมาต้านการบังคับใช้กฎหมาย "คาร์ซีท" กับอีกมุมคือการเเสดงความเห็นวิเคราะห์ว่า ทำไมคนถึงมีความเห็นเเง่ลบกับการใช้กฎหมายข้อนี้
โดยความเห็นที่ด่าคนที่ออกมาด่ากฎหมาย "คาร์ซีท" เเง่ลบมองว่า ควรมีลูกเมื่อพร้อม สำนึกความปลอดภัยบ้านเรามันห่วย คนที่ออกมาด่ากฎหมายคือ ทำอะไรตามใจคือไทยแท้ ซึ่งปัญหาต่าง ๆ ในประเทศไทย จริง ๆ แล้วคือคน
คนที่ด่ายังขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องความปลอดภัยสำหรับเด็กเล็กที่นั่งโดยสารรถยนต์ส่วนบุคคล
สมัยก่อน ข่าวเด็กเปิดประตูแล้วตกจากรถกำลังวิ่งบนถนนอยู่ หรือ เกิดอุบัติเหตุแล้วเด็กพุ่งออกมานอกตัวรถ มีบ่อย
การบังคับนั่ง "คาร์ซีท" ควรมีตั้งนานแล้ว เพราะปลอดภัยต่อตัวเด็กพอสมควรด้วย หรือมองค่าชีวิตลูกตัวเองถูกกว่าคาร์ซีท lazada เห็นขายถูกสุด พันกว่าบาทเอง
บางคนรู้สึกงงกับคนที่ด่าเรื่องนี้กัน ทั้งที่มีปัญญาซื้อรถ แต่ไม่มีปัญญาซื้อ "คาร์ซีท" เพราะที่ขายตามเว็บขายของออนไลน์ นี่แค่พันห้าไม่เกิน 2 พัน ไม่จำเป็นต้องซื้อของพรีเมี่ยมที่หลักพันปลาย ๆ หรือหลักหมื่นขึ้นไป ก็พอช่วยรักษาชีวิตลูกตัวเองตอนเกิดเหตุได้ระดับนึงแล้ว
ควรเลิกอ้างว่ากลัวลูกไม่นั่ง ถ้าคุณไม่ฝึกลูก ปัญหามันก็เกิดก็แค่นั้น ก็เหมือนเรื่องสอนเด็กใส่หน้ากากอนามัยนั่นแหละ ไม่ฝึก พอมีปัญหามา ก็โทษแต่คนอื่นไม่โทษตัวเองอยู่ดี
หรือจริง ๆ เเล้ว การที่คนออกมาด่ากฎหมายนี้ เพียงเเต่เพราะคนออกกฎ ไม่ถูกใจ คนมาเมนต์ หรืออาจเป็นเพราะอคติ ที่มองว่ารัฐ หาช่องทางจะปรับ เพราะเป็นเรื่องที่มีมายาวนาน
ส่วนชาวเน็ตอีกมุมกลับมองว่า การบังคับใช้กฎหมาย "คาร์ซีท" เป็นเรื่องของรายได้กับกฎหมายที่กำลังสวนทางกัน ทำให้คนออกมามองกฎหมายในเเง่ลบ ทั้งที่กฎหมายมีข้อดี แต่มันต้องใช้เงินด้วย
ที่สำคัญคือรัฐออกกฏเพื่อความปลอดภัย แต่ไม่ส่งเสริมให้มีอุปกรณ์ให้ใช้ นอกจากนี้ ยังมีคนด่าบางส่วนที่ไม่ได้มาจากปัญหาค่าใช้จ่ายกรณีราคาอุปกรณ์อย่างคาร์ซีท ที่ต้องมีทางออกให้
1. รถกะบะตอนเดียวที่บ้านเราใช้กันเป็นรถโดยสารไม่ใช่รถบรรทุก
2. กรณีนักท่องเที่ยว, ผู้โดยสารรถสาธารณะ Taxi และ ผู้โดยสารที่อาศัยติดรถคนอื่นในการเดินทางชั่วคราว ควรมีมาตรการมารองรับจุดนี้ด้วย
บางความเห็นมองด้วยว่า ประเทศที่พัฒนาแล้ว เสียภาษี45% แต่ใช้ชีวิตสะดวกสบาย แต่ประเทศเรา ต่อให้เสียภาษี70% ของรายได้ก็ไม่ใกล้เคียงคุณภาพชีวิตที่ดีแบบในชาติที่พัฒนาแล้ว
และสุดท้าย บางทีการบังคับใช้กฎหมาย "คาร์ซีท" ข้อนี้อาจจะออกมาผิดเวลา เพราะดันออกมาช่วงเศรษฐกิจย่ำแย่ขนาดนี้ บางคนจึงไม่สามารถเจียดเงินไปซื้อได้ ถ้าตอนเศรษฐกิจบูม ๆ น่าจะไม่มีใครด่า