อย.เตรียมลงดาบ "ปลาร้าพระบิดา" ลั่นรู้ผลตรวจสัปดาห์หน้า
เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ชี้สัปดาห์หน้ารู้ผลตรวจ "ปลาร้าพระบิดา" เบื้องต้นพบผิดไม่ขออนุญาต-สถานที่ไม่ถูกสุขลักษณะ
วันนี้ 12 พ.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการตรวจสอบ น้ำพริก แจ่วบอง "ปลาร้าพระบิดา" ที่ผลิตจากสำนักพระ บิดา ลัทธิประหลาดที่ให้ผู้ป่วยกิน ปัสสาวะ, อุจจาระ, เสมหะ และขี้ไคล
โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ชัยภูมิ ได้เก็บตัวอย่างอาหารที่ผลิตจากสถานที่ตั้งของนายโจเซฟ ผู้นำลัทธิประหลาด เบื้องต้นเป็นสถานที่ผลิตที่ไม่ได้ขออนุญาตผลิต จึงเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ทั้งหมดส่งไปยังศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์นครราชสีมา เพื่อตรวจหาสิ่งปนเปื้อน เชื้อโรค จุลินทรีย์ โลหะหนัก คาดทราบผลสัปดาห์หน้า แต่ที่เห็นคือสถานที่ไม่สะอาด ไม่ถูกสุขลักษณะ และหากตรวจออกมาพบสิ่งที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพจะมีความผิด
การผลิตปลาร้าที่ไม่ใช่แพคเกจ เหมือนผลิตอาหารทั่วไป ขายหน้าร้าน ก็สามารถทำได้เลย แต่ถ้าจดแจ้ง อย. มีแพคเกจนั้น ต้องขออนุญาตผลิต สถานที่ผลิตต้องถูกสุขลักษณะ อาจไม่ถึงขั้น GMP ตัวแพคเกจต้องมีฉลาก ไม่มีเรื่องการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรคและโลหะหนัก คือ จะมีพิษไม่ได้
ส่วนผลการตรวจ "ปลาร้าพระบิดา" ออกมาแล้วจะมีความผิดเรื่องใดนั้น เบื้องต้นคือผลิตอาหารไม่ขออนุญาต นอกจากนี้ ต้องดูว่าตรวจแล้วเข้าข่ายเป็นอาหารปลอมหรือไม่ อาหารไม่ได้มาตรฐาน หรืออาหารไม่บริสุทธิ์ อย่างถ้ามีจุลินทรีย์เยอะ ก็เข้าข่ายอาหารไม่บริสุทธิ์ มีโทษทั้งจำและปรับ นพ.ไพศาลกล่าว
เมื่อถามว่าหากผู้ที่เกี่ยวข้องการผลิตอาหาร "ปลาร้าพระบิดา" มีปัญหาด้านสุขภาพทางจิต กฎหมายจะเอาผิดได้หรือไม่ นพ.ไพศาลกล่าวว่า ในการผลิตจะต้องมีผู้ผลิต สถานที่ผลิตไม่ได้ขออนุญาต ตัวอาหารก็ไม่ได้อนุญาต หากตรวจวิเคราะห์แล้ว เรื่องฉลาก เรื่องเชื้อโรคที่ปนเปื้อน หากมีก็มีโทษทั้งนั้น
ด้าน นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ปลาร้าที่ผลิตทั่วไปจะมีมาตรฐานของผู้ผลิต เป็นการหมักผสมกับสารที่ก่อความเค็ม โดยทั่วไปจะมีความปลอดภัย แต่กรณีข่าว จ.ชัยภูมิ กรมอนามัยได้ส่งเจ้าหน้าที่ศูนย์อนามัยที่ 9 นครราชสีมา ตรวจสอบพื้นที่พบว่า ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ถูกสุขลักษณะ และอาจมีการผสมสิ่งปฏิกูล ส่วนนี้จะส่งผลต่อผู้บริโภคทั้งระยะสั้นและยาว
กรมอนามัยได้แนะนำ อบต.บังคับใช้ พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 เพื่อดำเนินการทางกฎหมาย อย่างไรก็ตาม กรมอนามัยจะเร่งให้ความรู้ประชาชนที่ถูกต้องในการผลิตสินค้าปลาร้าที่ถูกสุขลักษณะ และการรับประทานที่ถูกต้อง การให้ความรู้กรณีที่มีการบริโภคหรือเอาสิ่งปฏิกูลเข้าสู่ร่างกาย