ข่าวดี UNESCO เตรียมประเมินพื้นที่โคราช 17 แหล่ง ขึ้นเป็น "อุทยานธรณีโลก"
UNESCO เดินทางมาประเมินเพื่อรวบรวมข้อมูล และหลักฐานประกอบการรับรองอุทยานธรณี "โคราช" เพื่อการรับรองให้เป็น "อุทยานธรณีโลก" ของยูเนสโก ระหว่างวันที่ 22-26 มิ.ย.2565
วันนี้ 23 มิ.ย.65 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา จะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงต้อนรับคณะผู้ประเมินจาก UNESCO ที่มาเรื่องการประเมินให้จังหวัดนครราชสีมาเป็น "อุทยานธรณีโลก"
ทั้งนี้ได้มีการนำเสนอข้อมูลการพัฒนา ผลกระทบ ประโยชน์รวมถึงศักยภาพของชุมชนเพื่อให้เห็นภาพรวมของแหล่งเควสต้าของอุทยานธรณีโคราช ที่มีภูมิประเทศสวยงามโดดเด่นที่เป็นอัตลักษณ์ของอุทยานธรณีโคราช
ดังนั้นถ้าผ่านการประเมินแล้วจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศจะทำให้มีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน
องค์การยูเนสโก ได้มอบหมายให้ MS.Marie-Luise Frey ผู้ประเมินอาวุโสจากสหพันธรัฐเยอรมนี Ms.Sarah Gamble ผู้ประเมินจากประเทศแคนาดา และDr.Jeon Yongmun ผู้มีประสบการณ์ประเมินจีโอพาร์คโลกของยูเนสโกจากประเทศเกาหลีใต้ เดินทางมาประเมินเพื่อรวบรวมข้อมูล และหลักฐานประกอบการรับรองอุทยานธรณีโคราชเพื่อการรับรองให้เป็น "อุทยานธรณีโลก" ของยูเนสโก ระหว่างวันที่ 22-26 มิ.ย.2565
โดยจะมีการลงพื้นที่ตรวจประเมินภาคสนาม จำนวน 17 แหล่งสำคัญทางธรณีวิทยา ใน 5 อำเภอ ของจังหวัดนครราชสีมา ได้แก่
1.สถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหิน ช้างดึกดำบรรพ์ และไดโนเสาร์
2.โรงเรียนพันดุง
3.แหล่งผลิตเกลือภูมิปัญญาบ้านพันดุง
4.ชุมชนโพนสูง
5.แหล่งตัดหินสีคิ้ว
6.เขาจันทน์งาม
7.ศูนย์เรียนรู้ กฟผ.
8.อ่างพักน้ำตอนบนลำตะคองสูบกลับ(เขาเควสต้า)
9.ผายายเที่ยง
10.ชุมชนไท-ยวน
11.ชุมชนและปราสาทพนมวัน
12.โรงเรียนท่าช้างราษฎร์บำรุง
13.ไทรงาม ท่าช้าง
14.กลุ่มทอเสื่อบ้านท่าช้าง
15.เรือนรักษ์รถไฟ
16.พระนอนหินทราย
17.แหล่งตัดหินบ้านส้มกบงาม
ด้าน ผู้อำนวยการอุทยานธรณีโคราช เปิดเผย่วา โคราชจีโอพาร์ค ดินแดนแห่งเควสต้าและฟอสซิส Cuesta & Fossil Land ครอบคลุมพื้นที่ลุ่มน้ำลำตะคองใน 5 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 3,167 ตารางกิโลเมตร ได้แก่ อำเภอสีคิ้ว อำเภอสูงเนิน อำเภอขามทะเลสอ อำเภอเมือง และอำเภอเฉลิมพระเกียรติ
มีแหล่งที่มีความสำคัญระดับนานาชาติระดับชาติ และท้องถิ่นในพื้นที่อุทยานธรณีโคราชมากถึง 39 แหล่ง ประกอบด้วยแหล่งธรณี จำนวน 21 แห่ง และเป็นแหล่งธรรมชาติอื่น และแหล่งวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงกับแหล่งธรณีวิทยาถึง 18 แห่ง
นอกจากนี้อุทยานธรณีโคราชยังมีมรดกที่จับต้องไม่ได้ อาทิ ความเชื่อ และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สำคัญอีกมากมาย อุทยานธรณีโคราชตั้งอยู่บนที่ราบสูงโคราชขอบด้านตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งมีแนวเขาเควสต้าสองชั้นเป็นแลนด์มาร์คที่โดดเด่น และไม่ซ้ำอุทยานธรณีแห่งใดในเครือข่าย "อุทยานธรณีโลก" ซึ่งถูกรองรับด้วยแผ่นหินที่มีอายุราว 150 - 90 ล้านปี เรียกว่า กลุ่มหินโคราช ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้เป็นห้องเรียนกลางแจ้งของ นักศึกษาและนักธรณีวิทยา