Toyota ปิดตำนาน 19 ปี "โตโยต้า วีออส" ประกาศยุติสายพานการผลิตในไทยแบบถาวร
Toyota ปิดตำนาน 19 ปี "โตโยต้า วีออส" ประกาศยุติสายพานการผลิตในไทยอย่างเป็นทางการ จากนี้เหลือแค่ โตโยต้า ยารีส เอทีฟใหม่ เท่านั้น
สะเทือนตำนานรถยนต์อย่างมาก เมื่อ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้ประกาศยุตุสายพานการผลิตรถยนต์ "โตโยต้า วีออส" ในประเทศหลังจากที่มีการผลิตมายาวนานกว่า 19 ปี เนื่องจากทิศทางตลาดรถยนต์ในปีนี้ มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้ในช่วงต้นปีว่าจะมียอดขายในประเทศ 860,000 คัน แต่ขายได้ถึง 880,000 คัน หรือประมาณ 16 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากปัจจัยเรื่องโรคโควิด 19 ที่คลี่คลาย ทำให้คนมีความต้องการใช้รถยนต์ส่วนตัวมากขึ้น แต่ยอมรับว่าปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ ยังเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องติดตาม และยากต่อการคาดการณ์ทิศทาง
ทั้งนี้ บริษัทได้มีการยุติสายพานการผลิตรถยนต์นั่งขนาดเล็กในกลุ่ม 4 ประตู หรือ ซีดาน รุ่น "โตโยต้า วีออส" Toyota Vios ในโรงงานประกอบรถยนต์ของ โตโยต้า เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งแผนการทำการตลาดรถยนต์ในกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดเล็ก 4 ประตู หลังจากนี้จะมีเพียงรุ่นโตโยต้า ยาริส เอทีฟ ใหม่ เท่านั้น นับเป็นการปิดตำนาน 19 ปี รถยนต์รุ่นยอดนิยมที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2546
สำหรับ "โตโยต้า วีออส" เริ่มผลิตในโรงงานประเทศไทยเมื่อปี 2545 เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2546 ซึ่งเป็นรถยนต์ขนาด ซับ-คอมแพค ของ โตโยต้า ซึ่งมีตัวถังแบบเดียวคือ แบบ 4 ประตู ซีดาน โดยในระยะแรกที่ทำตลาดในประเทศไทยจัดจำหน่ายในชื่อรุ่น โตโยต้า โซลูน่า วีออส (Toyota Soluna VIOS) ต่อมาได้มีการยกเลิกชื่อรุ่น โซลูน่า เพื่อทำการตลาดในชื่อรุ่นใหม่ คือ วีออส โดย เจเนอเรชั่นที่ 1 มีอายุผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ปี 2545-2550
ต่อมาในปี 2549 ที่ประเทศญี่ปุ่น ได้มีการเปิดตัว "โตโยต้า วีออส" เจเนอเรชั่น ที่ 2 โดยใช้ชื่อว่า โตโยต้า เบลต้า และเปิดตัวในตลาดอเมริกาเหนือ ตะวันออกกลาง อเมริกาใต้ ลาตินอเมริกา ออสเตรเลีย ช่วงต้นปี 2550 โดยใช้ชื่อ "โตโยต้า ยาริส ซีดาน" ส่วนในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใช้ชื่อว่า "โตโยต้า วีออส" เปิดตัวในประเทศไทยในช่วงต้นเดือน มีนาคม โดยเจเนอเรชั่นที่ 2 มีอายุผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ปี 2550-2556
สำหรับ เจนเนอเรชั่นที่ 3 ของ "โตโยต้า วีออส" ได้เปิดตัวครั้งแรกของโลกที่ประเทศไทยเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2556 โดยมีสโลแกนว่า Have It All โดยรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดจากรุ่นที่ 2 แต่ยังคงใช้เครื่องยนต์ 1 NZ-FE 1.5 ลิตร 109 แรงม้า และแรงบิด 14.4 กก./ม. เหมือนรุ่นแรก โดยเจเนอเรชั่นที่ 3 มีอายุผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ปี 2550-2565