ส่องเหมืองทิพย์ "เป้ P miner" หลอกลงทุน คริปโต 1,700 ล้าน ปี 63 กำไร 100 บาท
เปิดประวัติ เป้ P miner "กิติกร อินต๊ะ" เจ้าของ P miner Cryptocurrency หลอกคนเหมือง คริปโต ลงทุนกว่า ความเสียหายกว่า 1,700 ล้านบาท
วันที่ 30 สิงหาคม 2565 ตำรวจและ ปปง. สนธิกำลังเข้ายึดทรัพย์ เป้ P miner "กิติกร อินต๊ะ" เจ้าของ P miner Cryptocurrency หลังจากที่มีคนเข้าแจ้งความว่าถูกหลอกลงทุน คริปโต คาดว่ามีความเสียหายกว่า 1,700 ล้านบาท
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ผู้เสียหายได้รวมตัวนำหลักฐานมาแจ้งความที่ดีเอสไอ เชียงใหม่ โดยหนึ่งในผู้เสียหายเปิดเผยว่า นายเป้ได้เปิดกลุ่มวีไอพี ให้คนนำเงินมาลงทุน 1 ล้านบาท ทั้งหมด 300 คน โดยจะเป็นการฝากเงินเทรดเหรียญคริปโตและทำเหมืองคริปโต ให้ปันผลตั้งแต่ 10-15% แต่สุดท้ายผู้ร่วมลงทุนกลับไม่ได้เงินคืน
ล่าสุด มีการตั้งค่าหัวล่าตัวนายเป้ไว้ 5 หมื่นบาท โดยคาดว่าเจ้าตัวหอบเงิน หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ในขณะที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ตามยึดทรัพย์สินจำนวนมากในวันนี้
ก่อนหน้านี้ เป้ P miner "กิติกร อินต๊ะ" ได้ออกมาแถลงผ่านทางหน้าเฟซบุ๊กว่า ช่วงที่ผ่านมามูลค่าของเหรียญขาดทุนอย่างหนัก ในตลาดการลงทุนตามแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทำให้บริษัทขาดทุนกว่า 70% ของเหรียญที่มีอยู่ การขุดเหรียญต้องใช้ค่าไฟจำนวนมากทำให้การขุดไม่คุ้มค่า ทางบริษัทขาดสภาพคล่องและไม่สามารถนำทุนสำรองมาใช้ได้ ซึ่งสัญญาว่ามีแนวทางแก้ปัญหาคือ
ให้นักลงทุนแจ้งเงินที่ลงทุนกับทนายของบริษัท เพื่อหาตัวเลขความเสียหายและหาทางเยียวยา บริษัทจะยังขุดเหรียญตามปกติ และใช้โซลาร์ฟาร์มในการลดต้นทุนการผลิต และนำรายได้แต่ละเดือนมาคืนนักลงทุน ทางทีมงานจะยังคงเทรดเหรียญต่อไป
เป้ได้ทิ้งท้ายว่า ตนไม่มีเจตนาที่จะโกงหรือหลบหนี และขอความเห็นใจจากนักลงทุนให้โอกาสทำงานเพื่อฟื้นตัว ขอร้องนักลงทุนอย่าเพิ่งดำเนินคดีทางกฎหมาย หากเกิดความเสียหายต่อตัวเอง ตนก็ไม่สามารถดำเนินงานต่อไปได้ ส่งผลกระทบบริษัท และส่งผลกระทบต่อนักลงทุนเอง
ทั้งนี้ เมื่อสำรวจในเฟซบุ๊กของเป้ จะเห็นว่า เจ้าตัวใช้ชีวิตอย่างหรูหรา มีรถยนต์หรูอย่างแลมโบกินี่ ฮาร์เลย์ เดวิดสัน เฟอร์รารี่ จอดอยู่หน้าบ้านใหม่ และมีการแจ้งเตือนไม่ให้คนอื่น ๆ ฟ้องตำรวจถึงธุรกิจคริปโต ในขณะที่โพสต์สุดท้ายในเฟซบุ๊กของเป้ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2565 ระบุไว้ชัดเจนว่า ตนต้องการที่จะขายรถยนต์เฟอร์รารี่ แลมโบกินี่ และเบนท์ลีย์ เพื่อที่จะนำเงินไปใช้หนี้
ตรวจสอบธุรกิจของ เป้ "กิติกร อินต๊ะ" พบเป็นหุ้นส่วน ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี มายเนอร์ คริปโตเคอเรนซี่ กรุ๊ป ตั้งอยู่ในอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ พบจดทะเบียนเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ปี 2562 ด้วยทุนจดทะเบียน 5 แสนบาท ระบุวัตถุประสงค์ ประกอบกิจการรับจ้างออกแบบพัฒนาเว็บไซด์ รับจดทะเบียนชื่อโดเมน
บริษัทดังกล่าว มีหุ้นส่วน 3 คน คือ
นายกิติกร อินต๊ะ ลงทุนด้วยเงินสด 2 แสนบาท
นายกันติพัส (สงวนนามสกุล) ลงทุนด้วยเงินสด 1.5 แสนบาท
นางสาวณัฐวดี(สงวนนามสกุล) ลงทุนด้วยเงินสด 1.5 แสนบาท
สำหรับผลประกอบการของบริษัทที่น่าสนใจ
ในปี 2562 ขาดทุน 4 พันบาท
ในปี 2563 ได้กำไร 100 บาท
ปี 2564 รายได้รวมกว่า 1 ล้าน 6 แสนบาท หักลบกลบหนี้ เหลือกำไร 2 แสน 5 หมื่นบาทเศษ
จะเห็นว่าในปี 2564 ที่ธุรกิจของเป้ กิติกร แจ้งมีกำไรจากการทำธุรกิจ แค่ 2 แสนบาทเศษ ยังไม่หารให้ผู้ถือหุ้นที่เหลือ 2 ตย ค่อนข้างสวนทางกับไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิตอันหรูหรา ที่เจ้าตัวมีรถซูเปอร์คาร์ หลายคัน มีการโชว์เงินทุนหมุนเวียนในบัญชี ที่อ้างว่าได้จากการขุดเหมืองบิตคอยน์หลายร้อยล้านบาท
จากนั้นในปี 2565 เป้ กิติกร ได้แปรสภาพจากห้างหุ้นส่วนจำกัด เป็นบริษัทจำกัด ใช้ชื่อ พี มายเนอร์ฯ เหมือนเดิม มีเขาเป็นกรรมการผู้จัดการเพียงคนเดียว กระทั่งช่วงเดือนสิงหาคม เขาไม่สามารถจ่ายยอดปันผลให้กับผู้ร่วมลงทุนได้ คาดความเสียหายที่ก่อไว้กว่า 1 พันล้านบาท ก่อนเจ้าตัวจะหลบหนีไปในที่สุด