'สาว' เกือบขิต หลังดื่ม 'โกโก้' เจอ อาการ แบบนี้ จนต้องไป โรงพยาบาล
'สาว' โพสต์ Tiktok แชร์อุทาหรณ์ เกือบขิต หลังดื่ม 'โกโก้' เจอ อาการ แบบนี้ จนต้องไป โรงพยาบาล เปิดโทษ และ ประโยชน์ของ โกโก้
หากพูดถึง “โกโก้” เชื่อว่าหลายคนชื่นชอบ โดยเฉพาะเครื่องดื่ม เพราะมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ ทั้งดื่มแล้วทำให้ร่างกายสดชื่น ปรับปรุงการทำงานของกล้ามเนื้อและเส้นประสาท ปรับปรุงอารมณ์ ช่วยควบคุมน้ำหนัก และอาจมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและโรคเบาหวานได้อีกด้วย แต่ใครจะรู้ว่าโกโก้ ก็มีโทษเหมือนกัน
เช่นผู้ใช้ Tiktok ซึ่งเป็นหญิงสาวรายหนึ่ง ได้โพสต์คลิป แชร์อุทาหรณ์เตือนใจ สำหรับสาย “โกโก้” เพราะหลังจากที่เธอ ดื่มเครื่องดื่มโกโก้ แบบเข้มข้นเข้าไป ก็ทำให้เธอมีอาการหัวใจเต้นเร็ว อาเจียน จนทำให้เธอใช้คำว่า “เกือบขิต” เลยทีเดียว
โดยผู้ใช้ TikTok บัญชีชื่อ @evewila หรือ คุณอีฟ ได้โพสต์ข้อความว่า “เกือบขิต #โกโก้ทำพิษ #คนไทยเป็นคนตลก” พร้อมคลิปเล่าเหตุการณ์ หลังจากที่เธอสั่งเครื่องดื่มโกโก้ โดยย้ำกับร้านว่า ขอเข้มๆ จากนั้นก็เป็นภาพที่เธอเริ่มให้เพื่อนช่วยตรวจคลื่นหัวใจ ไปโรงพยาบาล เจาะเลือด ทำให้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร, บางคนก็บอกว่าน่าจะเกิดจากโกโก้ เพราะเคยกินไปแล้วใจเต้น มือสั่น, บางคนก็บอกว่า โกโก้มีคาเฟอีนไม่ต่างจากกาแฟ หรือ บางคนก็บอกว่าน่าจะเกิดจากการแพ้โกโก้
ในคลิปต่อมา คุณอีฟ ได้เล่าเหตุการณ์แบบละเอียด หลังจากมีคนสอบถามเป็นจำนวนมาก โดยคุณอีฟเล่าว่า เธอดื่มเครื่องดื่มโกโก้ ประมาณเวลา 16.00 น. โดยสั่งทางร้านไปว่า ขอเข้มๆ แต่ดื่มไปไม่มากเท่าไร พอกลับมาถึงบ้าน เธอก็รับประทานส้มตำ แต่ด้วยความที่เผ็ดมาก เลยดื่มโกโก้สลับกับส้มตำ เวลาผ่านไปสักพัก เริ่มมีอาการเวียนหัว เลยไปอาเจียนออกมา เป็นโกโก้ทั้งหมด
จากนั้น เธอเริ่มมีอาการมือไม้สั่น อ่อนเพลีย อ่อนแรง ตอนแรกคิดว่าน้ำตาลตก เพราะก่อนหน้านี้เพิ่งอาเจียนออกไป เลยไปหาข้าวกิน แต่ก็ไม่ดีขึ้น เริ่มมีอาการปวดหัว ปวดท้ายทอย แต่ไม่ได้คิดว่าเป็นเพราะคาเฟอีนเกิน เพราะก่อนหน้านี้เธอก็กินโกโก้ได้ปกติ
“คิดว่า น่าจะเป็นเพราะอากาศร้อน เลยไม่ได้สนใจ ก็ไปเล่น Tiktok แต่มีอาการใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว แรง เริ่มรู้สึกว่าไม่โอเคแล้ว เลยไปนอน เพราะคิดว่าจะดีขึ้น แต่พอนอนไป ก็รู้สึกว่าหัวใจมันเต้นเร็ว และแรง จนเหมือนจะทะลุออกจากอก เลยให้เพื่อนฟังหัวใจว่าเต้นกี่ครั้งต่อนาที ปรากฎว่า เต้น 156 ครั้ง ซึ่งปกติจะอยู่ที่ 60-100 ก็เลยไปหาหมอทันที”
คุณอีฟเล่าต่อเมื่อไปหาหมอ หมอได้ตรวจคลื่นหัวใจ ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ปกติดี จึงตรวจเพิ่มเติมโดยการเจาะหาค่าไทรอยด์ เพราะเธอตัวเล็ก แต่ตอนนี้ผลยังไม่ออก ได้ยากินมาเป็นยารักษาอาการใจสั่น พอกลับมาห้อง เริ่มดีขึ้น แต่ยังไม่หายขาด ตื่นเช้ามาก็อาการเป็นปกติ ซึ่งคุณอีฟแนะนำว่า หากใครหัวใจเต้นเร็ว ดื่มน้ำแล้วยังไม่ดีขึ้น ควรไปหาหมอทันที เพราะมันอันตราย
ชมคลิป คลิกที่นี่
จากการสอบถามหมอผู้เชี่ยวชาญ ให้ข้อมูลว่า การบริโภคโกโก้ นอกจากส่งผลดีแล้ว ยังมีผลเสียบ้าง โดยมีข้อควรระวังในการบริโภคโกโก้ หากบริโภคโกโก้มากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ เพราะโกโก้เป็นพืชที่ไม่มีน้ำตาลและมีไขมันต่ำ แต่การผลิตช็อกโกแลตส่วนใหญ่จะเติมน้ำตาลและไขมัน เพื่อปรับให้รสชาติอร่อยและรับประทานง่ายขึ้น หรืออาจลดปริมาณของโกโก้ลงจนไม่ได้รับประโยชน์เท่าที่ควร
ทั้งนี้ การรับประทานช็อกโกแลตมากเกินไป อาจเพิ่มความเสี่ยงโรคเบาหวานและโรคอ้วนได้ จึงควรเลือกรับประทานช็อกโกแลตที่มีส่วนผสมของโกโก้อย่างน้อย 60-70% และมีน้ำตาลน้อย เพื่อให้ได้สารอาหารและประโยชน์จากโกโก้สูงสุด
นอกจากนี้ โกโก้มีส่วนผสมของคาเฟอีน หากรับประทานในปริมาณมาก อาจส่งผลให้เกิดผลข้างเคียง เช่น หงุดหงิด ปัสสาวะเพิ่มขึ้น นอนไม่หลับ หัวใจเต้นเร็ว นอกจากนี้ หากร่างกายได้รับคาเฟอีนในปริมาณมาก อาจเสี่ยงเกิดโรคหลายชนิด เช่น โรคกระดูกพรุน ปวดหัวไมเกรน ลำไส้แปรปรวน ความดันโลหิตสูง ท้องร่วง ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
บางคนอาจมีอาการแพ้โกโก้ หากรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของโกโก้ จึงอาจเกิดผื่นแดง อาการคัน อาการปวดหัวไมเกรน คลื่นไส้ ไม่สบายท้อง ท้องผูก มีแก๊สในกระเพาะอาหาร
แต่อย่างไรก็ตาม สาเหตุของอาการแพ้ส่วนใหญ่ อาจไม่ได้เกิดจากโกโก้โดยตรง แต่อาจเกิดจากส่วนผสมอื่นที่เป็นสารก่อภูมิแพ้ในการทำช็อกโกแลต เช่น ถั่วลิสง ถั่วเปลือกแข็ง นม คาเฟอีน โดยมีงานวิจัยหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร The BMJ ปี 2556 ทำการวิจัยเกี่ยวกับการแพ้ช็อกโกแลตแท้และโกโก้ พบว่า อาการแพ้โกโก้อาจเกิดขึ้นได้น้อย อาการแพ้มักเกิดจากการทำปฏิกิริยากับสารก่อภูมิแพ้อื่นๆ ที่มักมากับช็อกโกแลตและโกโก้ เช่น ถั่วลิสง ถั่วเปลือกแข็ง และนม นอกจากนี้ สารประกอบในโกโก้อย่างธีโอโบรมีน (Theobromine) และคาเฟอีน ก็อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้เช่นกัน
ขอบคุณ Tiktok@evewila