เด่นโซเชียล

ดราม่า 'หมู่บ้าน' ร้อง โรงเรียนเสียงดัง ทำเสียสุขภาพจิต ล่าสุดแจงแบบนี้

ดราม่า 'หมู่บ้าน' ร้อง โรงเรียนเสียงดัง ทำเสียสุขภาพจิต ล่าสุดแจงแบบนี้

26 ธ.ค. 2566

ดราม่า 'หมู่บ้าน' ร้อง โรงเรียนเป่านกหวีดเสียงดัง ทำเสียสุขภาพจิต ชาวเน็ตใส่ยับ รร. อยู่ก่อน 30 ปี ล่าสุดแจงแบบนี้

เกิดเรื่องดราม่าในโลกออนไลน์ หลังมีลูกบ้านของ "หมู่บ้าน" แห่งหนึ่งไปร้องเรียนโรงเรียนที่อยู่ใกล้เคียงว่าเสียงดัง ทำให้เสียสุขภาพจิต จากนั้นมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งออกมาโพสต์ว่า "โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่กลางทุ่งนา มานานกว่า 30 ปี ผลิตเด็กให้มีความรู้ความสามารถ เป็นผู้ใหญ่ในอนาคตนับไม่ถ้วน ช่วยดูแลอย่างดี คุณครูก็ใช้วิธี เป่านกหวีด จัดการการจราจร เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุต่างๆ เป็นการส่งสัญญาณ ให้รถไป ให้รถหยุด มาโดยตลอด และคิดว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่โรงเรียนทำดีและทำถูกต้อง

 

แต่ตอนนี้กลับโดน "หมู่บ้าน" ออกมาร้องเรียนว่านกหวีดเสียงดัง ทำให้เสียสุขภาพจิต ให้เปลี่ยนไปใช้สัญญาณไฟแทน เจ้าของโพสต์เลยตั้งคำถามว่า ก่อนจะซื้อบ้านก็น่าจะทราบดีว่าอยู่ติดกับโรงเรียน ซึ่งจะมีเสียงรบกวนตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นในช่วงเปิดเทอม" 


 

ต่อมาอาจารย์ของโรงเรียนดังกล่าว เข้ามาคอมเมนต์ในโพสต์ว่า "ในช่วงเวลาที่ผ่านมามีการก่อสร้าง โรงเรียนได้รับผลกระทบเรื่องรถบรรทุกที่เข้ามาถมดินในโครงการในช่วงเวลาที่นักเรียนต้องมาโรงเรียน ครูก็อำนวยความสะดวกให้ต่างๆ ทำไมโรงเรียนไม่เคยร้องเรียนคุณเลย นั่นเพราะเรามองเห็นการเปลี่ยนแปลงและโรงเรียนต้องปรับตัวเหมือนที่ครูได้เล่าให้ฟังทุกอย่างที่โรงเรียนมีกิจกรรมเราถูกร้องเรียนหมดครับ แต่เราเลือกที่จะเงียบแค่นั้นเอง"

 

หลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ไปในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์มากมาย ซึ่งเหมือนทัวร์จะลงไปที่ "หมู่บ้าน" ผู้คนมองว่าโรงเรียนมาก่อนหมู่บ้าน คนในโครงการต้องคิดแล้วก่อนมาซื้อบ้าน ว่าถ้าเข้ามาอยู่อาจจะมีเสียงดัง

 

หมู๋บ้าน

 

 

ล่าสุดทางโรงเรียนได้ออกมาชี้แจงว่า "ตามที่นิติบุคคลหมู่บ้านได้รับแจ้งผู้พักอาศัยภายในหมู่บ้านหลังหนึ่ง เรื่อง เสียงนกหวีดที่เกิดจากการอำนวยความสะดวกให้กับรถยนต์ที่สัญจรไปมาในช่วง 06.00-07-30 น. แม้การอำนวยความสะดวกดังกล่าวจะอยู่นอกเหนืออำนาจและหน้าที่ของโรงเรียนก็ตาม แต่ด้วยในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลาที่นักเรียนเดินทางมาโรงเรียนเป็นจำนวนมาก 

 

มีนักเรียนจำนวนมากที่ต้องข้ามถนนเพื่อเดินทางเข้าโรงเรียนในช่วงเช้าซึ่งเป็นช่วงเวลาเร่งด่วน จึงสุ่มเสี่ยงกับการเกิดอันตรายต่อนักเรียนที่เดินทางมาโรงเรียน จึงได้จัดให้มีครูเวรรักษาการณ์ประจำจุดพร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และตัวแทนนักเรียนของโรงเรียนช่วยอำนวยความสะดวกการจราจรบริเวณสามแยกด้านข้างโรงเรียนและบริเวณทางข้ามถนนบริเวณโดยรอบ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุกับนักเรียนและผู้สัญจร

 

แต่อย่างไรก็ดีการอยู่ร่วมกันระหว่างโรงเรียนและ "หมู่บ้าน" โดยปราศจาก ความขัดแย้งก็เป็นสิ่งสำคัญ ด้วยชุมชนก็เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมและพัฒนาโรงเรียนและนักเรียนที่อยู่ในชุมชน โรงเรียนจึงได้แจ้งให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ ใช้สัญญาณมือหรือธงสีในการอำนวยความสะดวกการจราจร และใช้นกหวีดเท่าที่จำเป็น เหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นกับนักเรียนและผู้สัญจรต่อไป

 

โรงเรียน