ทัวร์ลง 'ม.เชียงใหม่' ออกกฎรับปริญญา ห้ามจัดฟันสี บัณฑิตเผยสาเหตุที่แท้
ทัวร์ลงยับ 'ม.เชียงใหม่' ออกกฎรับปริญญา ห้ามจัดฟันสีสันฉูดฉาด ชาวเน็ตถามยุ่งอะไร ตอนเข้าพิธีก็ห้ามยิ้ม บัณฑิตเผยสาเหตุที่แท้จริง
กลายเป็นดราม่าเดือดไปทั่งโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันสนั่น หลังจากที่เพจเฟซบุ๊ก บัณฑิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รุ่นที่ 58 "ม.เชียงใหม่" ได้ประกาศกฏการแต่งกายของผู้จะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ครั้งที่ 58
โดยในประกาศดังกล่าว มีข้อปฏิบัติที่ทำให้ชาวเน็ตต้องเอ๊ะหนัก เช่น
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าด้วยวัสดุสะท้อนแสง และกากเพชร
- สีผมต้องเป็นสีธรรมชาติ หากย้อมสีผมควรเป็นสีดำหรือน้ำตาลเข้ม ห้ามทำไฮไลต์
- แว่นตาก็ต้องเป็นสีเข้ม ไม่ให้มีลวดลายหรือวัสดุสะท้อนแสง
แต่เรื่องที่ถูกพูดถึงอย่างหนักคือ กรณีที่ "ม.เชียงใหม่" ห้ามใส่อุปกรณ์จัดฟันในช่องปาก ให้ใช้อุปกรณ์สีสุภาพ เช่น สีขาว,สีใส หรือ สีเงิน ไม่อนุญาตให้ใช้อุปกรณ์สีฉูดฉาดหรือสีแฟชั่น ทั้งระบุว่า แนะนำ สี ดำ ขาว เทา น้ำเงิน ซึ่งหลายคนที่ได้เห็นก็ต่างข้องใจ บัณฑิตที่กำลังจะเข้ารับปริญญาต่างบอกว่า สีของอุปกรณ์จัดฟันเกี่ยวข้องอย่างไร เพราะสุดท้ายก็ไม่ได้ยิ้ม หรือเห็นสีอุปกรณ์จัดฟันอยู่ดี หากเป็นสีเล็บมือ ยังพอเข้าใจได้
หนึ่งในว่าที่บัณฑิตที่กำลังจะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรใน "ม.เชียงใหม่" เปิดเผยว่า กฎส่วนใหญ่ก็เข้าใจได้ว่าต้องปฏิบัติตาม แต่ก็มีอีกหลายข้อที่ยังเกิดคำถามว่ามันควรจะเป็นกฎจริงหรือไม่ อย่างเรื่องของการที่ต้องเปลี่ยนสีอุปกรณ์จัดฟันซึ่งตนก็เป็นคนหนึ่งที่กำลังอยู่ในช่วงจัดฟัน แต่ทางมหาวิทยาลัยก็บอกว่าจะต้องใช้สีอุปกรณ์จัดฟันที่สุภาพ
คำถามก็คือสีของอุปกรณ์จัดฟันมีผลอย่างไรกับการเข้ารับปริญญาปริญญา ในเมื่อเราก็อาจจะต้องใส่หน้ากากอนามัยในขณะที่รับปริญญา หรือต่อให้ไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย สีอุปกรณ์จัดฟันก็น่าจะไม่มีผลกับการเข้ารับปริญญา คิดว่ากฎข้อนี้ก็อาจจะเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล การที่บุคคลใส่สีอุปกรณ์จัดฟันก็ไม่ได้ไปละเมิดสิทธิของใคร หากเป็นเรื่องของสีผม การแต่งกาย จุดนี้คิดว่าคนที่เข้ารับพร้อมจะปฏิบัติตาม
ขณะที่บัณฑิต "ม.เชียงใหม่" ที่เข้ารับเมื่อปีที่ผ่านมา ก็เล่าว่ามีกฎระเบียบดังกล่าวออกมาเช่นกัน ซึ่งตนมีความสงสัยว่าเรื่องของสียางจัดฟันจะเกี่ยวข้องอย่างไร เพราะในตอนที่ขึ้นไปรับใบปริญญาก็ไม่ได้ให้บัณฑิตหันมายิ้มกับกล้อง ทุกคนไม่ได้ยิ้ม และในช่วงนี้ก็อาจจะยังต้องใส่หน้ากากอนามัยอยู่อีกด้วย