ดราม่า ปล่อยปลาดุก ชาวเน็ตจวกยับทำบุญแบบใดเบียดเบียนชีวิต ทำลายระบบนิเวศ
ชาวเน็ตจวกยับเพจดังไลฟ์ ปล่อยปลาดุก ตันครึ่ง ถามได้บุญแบบใด ลั่นก่อนต่อชีวิตสัตว์โลกต่อชีวิตปลาในสระนี้ก่อน
เรื่องของการทำบุญด้วยการ ปล่อยปลา เป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจและรณรงค์ให้ปล่อยเฉพาะปลาที่เหมาะสมกับแหล่งน้ำและไม่ทำลายระบบนิเวศเดิมและห้าม ปล่อยปลาดุก อย่างปลาดุกอุย หรือ ปลาดุกรัสเซีย ไม่ควรปล่อยลงแม่น้ำเพื่อทำบุญ เพราะเป็นสัตว์ต่างถิ่น
ล่าสุดเกิดดราม่า ปล่อยปลาดุก ขึ้นมาบนโลกออนไลน์อีกครั้งหลังจากเฟซบุ๊กเพจ เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน โพสต์ข้อความระบุว่า "ปล่อยเรียบร้อย ชาวเนทห้ามกันไม่ทัน ปลาดุกตันกว่าๆ ลงแหล่งน้ำในจังหวัดบุรีรัมย์ (สะตึก) เรียบร้อย ถ่ายทอดสดโดยเพจ ที่มีคนติดตาม 9 ล้านคน ตอนนี้คนปล่อยปลากำลังไปรับศีลรับพรที่ได้จากการปล่อยปลา จากพระอาจารย์อยู่ โดยจุดประสงค์ในการปล่อยปลาดุกครั้งนี้ทำเพื่อต่อชีวิตสัตว์โลก"
นอกจากนี้ทางเพจยังได้ระบุข้อความเพิ่มเติมอีกว่า "ปรับไม่เกิน 1 ล้านเลยนะ โทษ ซึ่งเพจดังก็เป็นสื่อสารมวลชน เพจนึง พลาดตรงนี้ได้ไงไม่เข้าใจเหมือนกัน" โดยการ ปล่อยปลาดุก ลงแหล่งน้ำธรรมชาตินอกจากนะบาปแล้วยังทำลายระบบนิเวศด้วย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ยังมีการอ้างอิงข้อมูลซึ่งระบุเอาไว้ว่า ข้อมูล ระบุว่า โจทย์ หากนายบุญหนัก ต้องการ ปล่อยปลาดุก 1,000 กิโลกรัม คิดเป็นปลาดุกประมาณ 3,000 ตัว ปลาดุก 1,000 กิโลกรัม จะกินอาหารวันละ 50 กิโลกรัม (1,000*5%)
- ในอาหาร 50 กิโลกรัมนี้เป็นสัตว์ครึ่งหนึ่ง ดังนั้นคิดเป็นสัตว์น้ำหนักรวม 25 กิโลกรัม หรือ 25,000 กรัม (1 กก. = 1,000 กรัม)
- ปลาดุกตัวขนาดนี้ สัตว์น้ำท้องถิ่นอย่าง ลูกปลาบู่ ลูกปลาตะโกก ลูกปลาตะเพียน ปลาซิว กุ้งฝอย และ หอยขม ที่กินได้พอดี ๆ คำจะตัวประมาณ 2-3 เซนติเมตร ก็จะหนักไม่เกิน 5 กรัม
ดังนั้นปลาดุก 3,000 ตัวที่นายบุญหนักปล่อยไปนี้ ถ้าต้องการมีชีวิตที่ดีก็ต้องกินสัตว์น้ำอื่น ๆ ไปวันละ 5,000 ตัว (25,000/5) หรือปีละ 1,800,000 ชีวิต (5,000*360) อ้างอิงจาก Thai PBS
ทำบุญแต่ได้บาปเต็มๆ
ด้านชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องราวดังกล่าวเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับการ ปล่อยปลาดุก ซึ่งบางรายระบุข้อความว่า ศึกษาสัตว์จำพวก Alien Species ให้มากกว่านี้ แทนที่จะได้บุญ กลับได้บาปจากการโดนสาปตั้งแต่ปล่อยทันที ปล.สื่อควรจะมีความรู้ และคุณภาพมากกว่านี้ โดยเฉพาะสื่อหลักเพื่อสังคม, มันต้องเริ่มจากจับปรับให้จริงจัง ไม่ใช่ให้มาแก้ตัวว่าไม่รู้ แล้วก็ปล่อยไป ไม่งั้นคนพวกเงี่ยนบุญก็ไม่รู้จักสำนึกถึงผลเสียในอนาคตหรอก
นักวิชาการ ผู้เกี่ยวข้อง ควรหาทางออก ว่าใช้ปลาอะไรแทนดี หรือผสมสัดส่วนเท่าไหร่ (แบบผู้ล่า 1: ผู้ถูกล่า 3) จะมาบอกว่าปล่อยปลาผิด ต้องหยุดเท่านั้น ปลาแบบไหนก็มีปัญหา ต่อให้ใช้ปลาตามถิ่น ก็ทำให้เสียสมดุลอยู่ดี เรียกว่าไม่เข้าใจมนุษย์ คนเป็นถุงลมโป่งพอง ยังไม่หยุดสูบบุหรี่, ตับแข็งยังไม่หยุดดื่มถึงมีนิโคตินกัม มีน้ำตาลเทียม เพราะมีความพยายามจะแก้ปัญหา ไม่ใช่แค่ชี้ปัญหา สิ่งที่ดีที่สุด กับสิ่งที่เหมาะสมที่สุด บางทีมันก็ไม่ใช่อย่างเดียวกัน