"หลวงพี่น้ำฝน" เล่านาทีเฉียดตาย รถคว่ำ พร้อม หลานชาย แต่ไร้บาดแผล
"หลวงพี่น้ำฝน" เล่านาทีเฉียดตาย รถคว่ำ พร้อม หลานชาย แต่ไร้บาดแผล สติ สำคัญที่สุด ขณะที่ คอหวย แห่ วัดไผ่ล้อม ถามหา วัตถุมงคล พร้อม เลขเด็ด
จากกรณีเพจดัง ได้มีการแชร์ภาพ รถยนต์เก๋ง สีบรอนซ์ ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำ อยู่บนถนน โดยปรากฏภาพพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาส วัดไผ่ล้อม อยู่ในเหตุการณ์ โดยระบุว่า “รถยนต์ของหลวงพี่น้ำฝน ประสบอุบัติเหตุ พังยับ แต่หลวงพี่น้ำฝนไม่เป็นอันตราย แถมยังไม่มีบาดแผลใดใดในร่างกาย” ซึ่งได้สร้างความฮือฮาให้กับศิษยานุศิษย์
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อประมาณเวลา 15.30 น. วันที่ 19 เม.ย. 2567 “หลวงพี่น้ำฝน” เล่าว่า หลังจากได้นั่งรถยนต์ไปกับหลานชาย และเจ้าหน้าที่ของวัดไผ่ล้อม เพื่อไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลหูตาคอจมูก ย่านปิ่นเกล้า ขณะเดินทางกลับวัด เมื่อมาถึงจุดลงสะพาน เพื่อที่จะเข้าวัดไผ่ล้อม ระยะทางไม่เกิน 3 กิโลเมตร หลวงพี่น้ำฝน นั่งอยู่ด้านหน้า เห็นว่า รถได้พุ่งชนกระแทกช่วงท้ายของรถที่จอดรอกลับรถอยู่อย่างแรง และพลิกคว่ำทันที ซึ่งขณะนั้นยังมีสติอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อหันไปมองหลานชาย ซึ่งเป็นคนขับรถ หมดสติไป 5 นาที จากนั้นได้ส่งเสียงร้องจากความเจ็บปวด จึงได้มุดตัวออกมาจากหน้าต่างฝั่งคนนั่ง
ขณะนั้น เริ่มมีประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ เข้ามาช่วยดู จึงได้มานั่งพักอยู่ริมทางเท้า ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่กู้ชีพและรถพยาบาล จากโรงพยาบาลนครปฐมเข้ามาจอดเทียบข้างรถ และช่วยกันงัดร่างหลานชายออกมาอย่างปลอดภัย โดยหลังจากที่ได้ตรวจร่างกายแล้ว ได้รีบเดินทางกลับเข้าวัด
หลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่า สำหรับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้น ครั้งที่สองของชีวิต โดยครั้งแรกเกิดเมื่ออายุ 25 ปี ซึ่งเป็นวัยเบญจเพส ตอนนั้น พระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล ได้เดินทางไปที่ จ.พิจิตร เพื่อจะนำของไปแจก โดยก่อนเดินทางไปได้บอกมาว่า ให้ไปไหว้พระราหู ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเพราะอะไร แต่ก็ไปไหว้ตามที่ท่านได้บอกไว้ จนกระทั่งเมื่อไปถึง จ.พิจิตร รถที่นั่งไปแจกของ ประสบอุบัติเหตุ แต่โชคดีที่ก็ไม่ได้เป็นอะไร มาถึงครั้งนี้ก็เป็นอุบัติเหตุครั้งที่ 2 ซึ่งก็ถือว่าไม่มีการได้รับบาดเจ็บอะไร แต่ก็เป็นเรื่องแปลกที่มาตรงกับช่วงวัยของหลานชาย ที่อายุ 25 ปี เข้าสู่วัยเบญจเพศ
หลวงพี่น้ำฝน กล่าวอีกว่า หลังจากมีกระแสในโซเชียลสอบถามกันว่า มีของดีอะไร จึงทำให้ทุกคนในรถปลอดภัย ไม่อยากจะให้มองเป็นเรื่องนั้น แต่อยากจะให้มองว่านี่คือเรื่องของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งหากจะให้คิดตามแนวคิดของตนเองว่า ที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ เป็นเพราะได้ใช้คำว่าสติในการดำเนินชีวิต โดยช่วงที่เกิดเหตุ ก็เห็นภาพเหตุการณ์ทุกอย่าง เมื่อมองว่าหลานปลอดภัยก็ได้คลานออกมาจากรถ จึงอยากให้มองเป็นอุทาหรณ์ว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขออย่าประมาท โดยเฉพาะบนท้องถนนก็สามารถเกิดขึ้นได้ทุกวินาที
“ในส่วนของอาตมาก็พกเพียงภาพอัฐิของโยมแม่ที่ติดตัวไว้ แล้วก็นึกนึกถึงบารมีของหลวงพ่อคูณตลอดเวลา มีอยู่แค่นั้นแต่สิ่งที่คิดว่าช่วยให้รอดมาได้จากอุบัติเหตุครั้งนี้ น่าจะเป็นอานิสงส์ของความตั้งใจในการทำความดี ให้ยึดเหนี่ยวเอาความดีเป็นที่ตั้ง ก็จะทำให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ ได้ ก็คิดได้เพียงเท่านี้” หลวงพี่น้ำฝน กล่าวกับผู้สื่อข่าว
หลานชาย ของหลวงพี่น้ำฝน บอกว่า จากการตรวจร่างกาย มีเพียงแค่หัวโน กับมีรอยถลอกที่หน้าแข้งกับแขนซ้ายเท่านั้น ก็นับว่าเป็นเรื่องอัศจรรย์ ปกติจะพกวัตถุมงคลประจำตัว ซึ่งเป็นภาพถ่ายล็อกเก็ตภาพหลวงพ่อพูล ติดตัวเอาไว้ตลอด ซึ่งหลวงพี่น้ำฝนได้มอบให้ไว้หลายปีก่อน ที่ผ่านมาที่ผ่านมาก็ไม่เคยประสบอุบัติเหตุอะไรมีเพียงครั้งนี้ที่เป็นอุบัติเหตุใหญ่ในชีวิต โดยก็เชื่อว่า อาจจะเป็นเพราะเบญจเพศ ซึ่งหลังจากนี้ก็คิดจะบวช เพื่อทำให้ตัวเองมีสติในการดำเนินชีวิตมากขึ้น
สำหรับวัตถุมงคลที่พกติดตัวอยู่ตลอดเวลา ก็มีเพียงแค่ของวัดไผ่ล้อมเท่านั้น ประกอบด้วย
- สิงห์เมตตามหาบารมีปี 2546
- เหรียญเม็ดยาหลวงพ่อพูล หลังองค์พระปฐมเจดีย์ปี 2544
- พระนาคปรกใบมะขามหลวงพ่อพูลปลุกเสกปี 2544
- กำไรหินพระธาตุกุมารสมบัติรุ่น 111 ปีชาตกาลหลวงพ่อพูล ปี 2566
ขณะเดียวกัน บรรยากาศภายในวัดไผ่ล้อม มีญาติโยมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เข้ามากราบไหว้สรีระสังขารของหลวงพ่อพูล อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีเซียนพระเริ่มมาสอบถามถามหาวัตถุมงคลรุ่นต่างๆ ของหลวงพ่อพูล อดีตเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม รวมถึงตัวเลขทะเบียนรถ 5656 ที่ประสบอุบัติเหตุด้วย
ปนิทัศน์ มามีสุข นส.ปณิดา มามีสุข จ.นครปฐม