สาธุท่วมหัว พระอินเทรนด์มี ลาบูบู้ ห้อยย่าม โยมถามใช้ปัจจัยบุญเหมาะหรือไม่

กระแสของ art toy เป็นที่นิยมในหมู่นักสะสมของเล่นไม่น้อย ด้วยการดีไซน์ที่ทำให้น่ารักน่าจับจองมาเป็นเจ้าของ จนบางครั้ง art toy จากการออกแบบของศิลปินบางคนก็กลายเป็นกระแสฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมือง ซึ่งล่าสุดก็คือเจ้า "ลาบููบู้" ตุ๊กตาอาร์ตทอยที่ได้รับความนิยมในช่วงนี้ มีลักษณะหน้าตาคล้ายกับปิศาจตัวน้อย ตาโต ฟันแหลม ขนฟูนุ่ม มาพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ซึ่งจุดเริ่มต้นของตุ๊กตาตัวนี้มาจาก “คาซิง ลัง” (Kasing Lung) ศิลปินผู้สร้างผลงานอันโด่งดังทั่วโลก

ลาบูบู้ ถูกนำมาห้อยเป็นตุ๊กตาติดกระเป๋าจนกลายเป็นเทรนด์ที่ทั้งเน็ตไปดอล อิลฟลูเอนเซอร์ ดารา คนดัง หรือไม่ว่าใครก็อยากจะเดินเข้า POP MART ไปหยิบมาสักสุ่มเผื่อว่าจะได้ตัวซีเคร็ทมาเก็บไว้เป็นเข้าของจนขาดตลาดกันไปช่วงหนึ่ง ความฮิตกระจายเป็นวงกว้างเข้าถึงทุกวงการไม่เว้นแม้แต่วงการ "พระสงฆ์" ที่นำมาห้อยย่ามเอาไว้ แถมยังมีภาพของพระยืนอยู่หน้า POP MART จนเกิดเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่า การซื้อสิ่งเหล่านี้ด้วยปัจจัยบุญนั้นเหมาะสมแล้วหรือไม่ 

ทางด้านของ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว พูดถึงกรณีนี้ว่า การที่พระไม่ได้อบรมเรื่อง มรรคน้อย สันโดษ สมถะ ก็มักจะออกอาการเวอร์ ไปซื้อ "ลาบูบู้" มา ตัวหนึ่งก็หลายตังค์ และเป็นส่วนเกินที่เอามาใส่ย่ามก็ไม่ใช่ เอามาโชว์ว่าตัวเองไม่อยู่ใน มรรคน้อย สมถะ สันโดษ  อย่างนี้พวกสันติอโศกถึงได้ว่า การไปเที่ยวไปช็อป และการไปเข้าคิวซื้อเช่นนี้ยิ่งไปกันใหญ่ ค่านิมยม ปลีกวิเวก มรรคน้อย สันโดษ ไม่เหลือติดสมณสัญญา (ความสำคัญว่าเป็นสมณะ ความจำได้หมายรู้ว่าตนเป็นสมณะ) 

นอกจากนี้พระพยอมยังได้กล่าวถึงประโยค "ขอบคุณปัจจัยในวันนั้น ที่ทำให้อาตมามี Labubu ในวันนี้" ว่า วันนี้ที่โชว์ไม่ได้ ปลื้มใจไม่ได้ โชว์ความงี่เง่า โชว์ความสุรุ่ยสุร่าย ใครที่ฝึกตัวสุรุ่ยสุร่าย เท่ากับทำตัวเป็นมหาโจรปล้นทรัพย์ตัวเอง แต่นี่ปล้นทรัพย์โยมไป เพราะฉะนั้นโยมต้องดู ว่าเป็นพระเช่นไร ถ้าเป็นเช่นนี้ก็เท่ากับไปส่งเสริมกิเลสของพระรูปนั้น ส่วนญาติโยมก่อนจะทำบุญกับพระก็ดูด้วยว่าปัจจัยที่ทำบุญไป พระจะนำไปใช้บำรุงพระพุทธศาสนาหรือบำรุงกิเลสตัวเอง ไม่งั้นก็เหมือนสนับสนุนให้พระหลงผิด ก่อนทำบุญกับพระยกมือไหว้ระบุบอกกับพระไปเลยว่า ปัจจัยที่ทำบุญให้ขอให้เอาไปบำรุงพระพุทธศาสนา