สรุปดราม่า โลหิตธาตุ "หลวงพ่อคูณ" เปิดตัวเจ้าของภาพหลอดเก็บตัวอย่างเลือด
สรุปดราม่า โลหิตธาตุ "หลวงพ่อคูณ" เปิดตัวเจ้าของภาพหลอดเก็บตัวอย่างเลือด อ้างขออนุญาตหลวงพ่อ นำมาเก็บไว้บูชา ด้าน ทีมผู้สร้างเหรียญ "รุ่นยอดเศรษฐี"ลงความเห็นไม่ใช้มวลสารนี้
กลายเป็นดราม่าบนความเชื่อความศรัทธา ภายหลังผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพหลอดเก็บตัวอย่างเลือด มีสติกเกอร์แปะข้อความชื่อระบุว่า "หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ 87 ปี" และมีรหัสผู้ป่วยลงบนกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อ "หลวงปู่ศิลา สิริจันโท รุ่นยอดเศรษฐี" ระบุข้อความอ้างว่า "โลหิตธาตุ หลวงพ่อคูณ น้ำตาจะไหล กราบขอบพระคุณครับ #รุ่นยอดเศรษฐี"
โพสต์ดังกล่าวมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ทั้งสาธุที่ได้เห็นเป็นบุญตา และบางคนก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นอีกแง่มุมที่กรณีนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นได้ และอาจจะไม่ใช่ของจริงเป็นการนำมาหากินบนความเชื่อความศรัทธาประชาชน และอยากให้ทางกระทรวงสาธารณสุข ตรวจสอบว่าหลอดเก็บตัวอย่างโลหิตดังกล่าวนั้นออกมาสู่ภายนอกได้อย่างไร เพราะจะต้องผ่านกระบวนการเก็บ หรือทำลายที่ถูกต้องในโรงพยาบาล
"คมชัดลึกออนไลน์" ชวนอ่านสรุปดราม่าเรื่องที่เกิดขึ้น และคำชี้แจงจากเจ้าของโพสต์ดังกล่าว เกี่ยวกับภาพโลหิตธาตุหลวงปู่คูณ ว่ามีที่มาอย่างไร
ดราม่านี้เริ่มต้นจาก นายวีรพันธุ์ พงษ์วัฒนานุสรณ์ ทีมผู้สร้างวัตถุมงคลรุ่น เหรียญหลวงปู่มหาศิลา สิริจันโท รุ่นยอดเศรษฐี โพสต์เฟซบุ๊ก เปิดรับมวลสารจากผู้มีจิตศรัทธา เพื่อนำมาเป็นชนวนมงคลในการประกอบพิธีหล่อและผสมมวลสารศักดิ์สิทธิ์ สำหรับจัดสร้างวัตถุมงคล เพื่อเป็นที่ระลึกในงานพิธีกฐิน พ.ศ. 2567 ณ วัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ โดยเปิดรับถึงวันที่ 23 มิ.ย. 2567
สำหรับที่มาชื่อ "รุ่นยอดเศรษฐี" นายวีรพันธุ์ ระบุว่า ได้นำไปให้หลวงปู่เลือก 4-5 ชื่อ ท่านได้เมตตาเขียนชื่อรุ่นหลังเหรียญ โดยผู้สร้างจะนำชื่อ "ยอดเศรษฐี" จากลายมือหลวงปู่ ลงไปอยู่ในหลังเหรียญที่จะจัดสร้าง
13 มิ.ย. 2567 นายวีรพันธุ์ โพสต์ภาพหลอดเก็บตัวอย่างเลือด มีสติกเกอร์แปะข้อความชื่อระบุว่า "หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ 87 ปี" และมีรหัสผู้ป่วยระบุอักษรภาษาอังกฤษและตัวเลข AN : XXXXXX ลงบนกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อ "หลวงปู่ศิลา สิริจันโท รุ่นยอดเศรษฐี" ระบุข้อความอ้างว่า "โลหิตธาตุ หลวงพ่อคูณ น้ำตาจะไหล กราบขอบพระคุณครับ #รุ่นยอดเศรษฐี"
"หมอแล็บแพนด้า" โพสต์ข้อความระบุว่า ผมเข้าใจถึงความศรัทธาและการรวบรวมมวลสาร คงไม่ไปก้าวล่วง แต่อันนี้ไม่น่าจะเหมาะสมเท่าไหร่ เป็นสิ่งส่งตรวจของผู้ป่วยในโรงพยาบาล ต้องเคารพสิทธิ แอบเอาออกมาได้ยังไง ใครให้?
ด้าน โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ออกมาชี้แจงว่า หลอดเก็บตัวอย่างเลือดดังกล่าวนั้นไม่ได้เป็นของโรงพยาบาลฯ และไม่ใช่ของโรงพยาบาลมหาราช ที่จังหวัดนครราชสีมา ด้วยเช่นกัน แต่ยังไม่ฟันธงว่า เป็นของจริงหรือของปลอม และรหัส AN คือรหัสที่ผู้ป่วยนอนโรงพยาบาล
ช่วงเย็นที่ผ่านมา นายวีรพันธุ์ ทีมผู้สร้างวัตถุมงคล รุ่นยอดเศรษฐี ไลฟ์สดชี้แจงประเด็นดังกล่าว ระบุว่า ทางผู้สร้างมีเจตนาดี เพื่อให้เหรียญรุ่นนี้เป็นของดีสำหรับทุกคน ซึ่งตนเองจะทำทุกวิธีเพื่อให้เกิดความโปร่งใสมากที่สุด และขอบคุณทุกคนที่ส่งมวลสารเข้ามา
ประเด็นภาพ "โลหิตธาตุ" เป็นของผู้มีจิตศรัทธา ได้ส่งเข้ามาทางอินบ๊อกซ์ของตนเอง พอได้เห็นก็ดีใจมาก เลยนำไปแชร์ ไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี และวันนี้ได้เดินทางไปพบกับผู้ที่ส่งภาพมาให้ แต่ขอชี้แจงว่า ยังไม่ได้รับโลหิตธาตุดังกล่าว และขอโทษทุกคนหากทำให้เกิดความไม่สบายใจ
สำหรับ "หลอดโลหิตธาตุ" ดังกล่าว ตนเองได้ถ่ายคลิปวิดีโอการพูดคุยกับเจ้าของหลอดโลหิตธาตุนี้แล้ว เบื้องต้นแจ้งให้ทราบว่า
- 1. เป็นรูปเก่าที่ถ่ายไว้เมื่อเกือบ 10 ปีแล้ว โดยได้ส่งมาให้ตนเองดูก่อน แต่ไม่คิดว่าตนเองจะเชื่อหรือไม่อย่างไร
- 2. เจ้าของท่านนี้ไม่ได้มีการขออนุญาตหลวงพ่อคูณ ในการนำเอามาเก็บไว้
ต่อมา นายวีรพันธุ์ ได้โพสต์คลิปการพูดคุยกับเจ้าของภาพหลอดโลหิตธาตุดังกล่าว ชื่อว่านายพนมศักดิ์ ซึ่งอ้างว่าเคยทำงานอยู่ห้องแล็ปโรงพยาบาล แผนกตรวจเลือดของหลวงพ่อคูณโดยเฉพาะ
"ตอนหลวงปู่มีชีวิตได้ไปเจาะเลือด 3 ปีเต็มๆ หมอให้ผมไปเจาะที่วัด และหลวงพ่อก็มาเจาะที่โรงพยาบาลด้วย ช่วงหลังหลวงพ่ออาพาธเดินไม่ค่อยได้ ผมต้องไปเจาะที่กุฏิวัดบ้านไร่" นายพนมศักดิ์ กล่าว
นายพนมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า การเจาะเลือดหลวงพ่อแต่ละครั้ง ต้องขออนุญาตท่าน กราบแทบเท้าหลวงปู่ทุกครั้ง เพื่อให้เจาะให้ได้ เพราะหลวงปู่มีอภินิหาร แม้จะเห็นเส้น แทงเข็มลงไปแล้ว ถ้าไม่ขออนุญาตก็เจาะไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราต้องกราบขอขมา ขอให้เจาะเลือดให้ได้ และบอกหลวงพ่อด้วยว่าหลังจากนำเลือดที่เจาะได้แล้วไปตรวจ ขออนุญาตนำไปเป็นมวลสาร เอาไปอบแล้วเก็บไว้บูชา
ส่วนรูปหลอดเก็บตัวอย่างเลือด นายพนมศักดิ์ บอกว่า เป็นคนถ่ายเอง ภาพนี้นานกว่า 10 ปีแล้ว สาเหตุที่ส่งภาพนี้ให้กับนายวีรพันธุ์ เพราะศรัทธาหลวงปู่ศิลา ต้องการนำมวลสารของหลวงคูณ ไปร่วมให้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น และหากไม่ส่งรูปมา ทางทีมผู้สร้างวัตถุมงคลอาจจะไม่เชื่อ จึงเอาภาพเก่าที่ถ่ายเก็บไว้ส่งไปให้ดู
ด้าน นายวีรพันธุ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ในฐานะที่เป็นคนรับมวลสาร และเป็นผู้สร้างเหรียญรุ่นนี้ ตนเข้าใจว่าสังคมเกิดความไม่สบายใจ ทางคณะกรรมการฯ มีความเห็นร่วมกันว่า อาจจะขออนุญาตไม่ใช้มวลสารนี้ และให้นายพนมศักดิ์ เก็บไว้บูชาเองไปก่อน