เด่นโซเชียล

ลูกคนโต ท้อ ช่วยที่บ้านผ่อนบ้าน 3 ล้าน 5 ปี แม่ขอโอนเป็นชื่อน้อง หลังเรียนจบ

ลูกคนโต ท้อ ช่วยที่บ้านผ่อนบ้าน 3 ล้าน 5 ปี แม่ขอโอนเป็นชื่อน้อง หลังเรียนจบ

17 มิ.ย. 2567

ลูกคนโต ขอคำปรึกษาชาวเน็ต หลัง ช่วยที่บ้านผ่อนบ้าน ผ่อนบ้านราคา 3 ล้าน มา 5 ปี แต่แม่จะให้โอนชื่อให้น้องตอนเรียนจบ ควรไปต่อหรือพอแค่นี้

กลายเป็นเรื่องถึงี่ชาวเน็ตกำลังให้ความสนใจ หลังจากที่ ลูกคนโต ซึ่งเป็นพี่สาว ได้เข้ามาขอคำปรึกษาจากชาวใน โดยได้ตั้งกระทู้ใน พันทิป ว่า ถ้าคุณช่วยที่บ้านผ่อนบ้านคนละครึ่ง แต่แม่จะให้โอนชื่อให้น้องตอนเรียนจบ ทุกคนคิดเห็นว่ายังไงดีคะ ขอเสียงลูกคนโตหน่อยค่ะ

 

พร้อมทั้งเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น่า คือว่าตอนนี้มีปัญหาภาระหนี้บ้านประมาณ 3,xxx,xxx บาท ซึ่งผ่อนไปได้ประมาณ 5 ปีแล้ว เหตุผลที่ซื้อตอนนั้นเพราะครอบครัวอยู่บ้านเช่ามาตลอด พอเราเรียนจบกู้ได้ แม่จึงใช้เครดิตชื่อเรายื่นกู้เพื่อให้ทุกคนมีบ้านเป็นของตัวเองเป็นหลักประกันชีวิต ซึ่งอยู่คนละจังหวัดกับที่พักปัจจุบัน และที่น้องๆ เรียน

 

แล้วตกลงช่วยกับแม่ผ่อนคนละครึ่ง ด้วยความลูกคนโต น้องๆ ยังเรียนไม่จบจึงต้องช่วยที่บ้านตรงส่วนนี้ แต่ยังไม่มีใครย้ายเข้าบ้าน เนื่องจากเราทำงานต่างจังหวัดแล้วเป็นรายได้ที่สามารถsupport ค่าบ้านได้  น้องๆ ก็เรียนคนละที่กับบ้านที่ซื้อ แม่อยากรอให้น้องเรียบจบค่อยย้ายไป ซึ่งตอนนี้น้องอยู่ม.6 จึงต้องรออีกประมาณ 5 ปี ตอนนี้จึงปล่อยเช่าไปก่อน 

 

ระหว่างปล่อยเช่าภาระตรงนี้ก็ลดลง แต่เรายังช่วยส่งที่บ้านเดือนละ 5,000 แต่ต่อมาเรามีแฟน เราคุยกันตกลงวางแผนอาจจะต้องซื้อบ้านในอนาคตร่วมกัน ซึ่งแฟนก็ไม่โอเคกับภาระบ้านที่เกิดขึ้นที่กลัวว่าเราจะซื้อบ้านกู้อีกหลังและส่งสองที่ไม่ไหว(แฟนเงินเดือนน้อยกว่าเราเท่านึง) ประกอบกับแม่ใกล้เกษียณอีก 2 ปี น้องยังเรียนไม่จบ ถ้ารอน้องจบเพื่อมาผ่อนต่อเราอาจจะต้องได้แต่งงานตอนอายุ 35 ปี 

เราเลยตัดสินใจบอกแม่จะขายบ้าน แม่เราไม่อยากให้ขาย อยากให้ยื้อโดยหาคนเช่าระหว่างรอน้องเรียนจบ เพื่อน้องเรียนจบทุกคนจะได้ย้ายเข้าบ้าน ยกเว้นเราที่ต้องแต่งออก และแกอยากให้ยกชื่อบ้านที่เป็นชื่อเราโอนให้เป็นของน้องไป

 

ส่วนแฟนเราอยากให้เรารีบขายเพื่อจะได้สร้างอนาคตของตัวเอง แล้วให้ที่บ้านอยู่บ้านเช่า รอน้องเรียนจบให้น้องยื่นกู้เอง

 

เราควรตัดสินใจยังไงดีคะ ตอนนี้คนเช่าเราย้ายออก ต้องช่วยกับแม่ส่งค่าบ้านคนละครึ่ง แม่ว่าเราทุกวันว่าเป็นเพราะเราทำให้ต้องมาจ่ายเงินเดือนละ 7,000 แล้วก็ไม่ได้เงินที่เราส่งให้ แทนที่คนเช่าจะจ่ายให้ประทังเวลาน้องเรียนจบ ซึ่งเรากลัวถ้าแม่เราเกษียร แล้วคนเช่าออกกระทันหันแบบตอนนี้ และน้องยังเรียนไม่จบ 

 

เราจะต้องจ่ายคนเดียวเดือนละ 15,000 ++ จนกว่าน้องจะมาช่วยผ่อนได้ เลยต้องตัดสินใจแบบนี้ค่ะ ส่วนพ่อแยกทางกันเลยไม่สามารถช่วยอะไรได้เลยค่ะ

 

รบกวนขอความคิดเห็นเพื่อนๆหน่อยนะคะ เราควรปล่อยเช่าตามที่แม่บอก หรือตัดจบขายดีคะเพื่อตัดปัญหาดังกล่าว แต่ก็กลัวว่าแม่จะเสียใจที่ไม่มีบ้านแบบที่ฝันไว้

 

ลูกคนโต ท้อ ช่วยที่บ้านผ่อนบ้าน 3 ล้าน 5 ปี แม่ขอโอนเป็นชื่อน้อง หลังเรียนจบ

 

 

 

ทางด้านของชาวเน็ต ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องราวของเธอว่า บ้านเก็บไว้ก็ดี เป็นความมั่นคงของชีวิต แต่เงื่อนไขที่แม่ให้โอนให้น้องนั้นไม่ถูกต้อง จะให้ดีคือหากคุณจดทะเบียนสมรสให้ระบุไปว่าบ้านหลังนี้เป็นทรัพย์สินส่วนตัว

บ้านนี้จะขายก็ได้ อนาคตน้องจะกลับมาอยู่หรือเปล่าก็ยังไม่รู้ พอเรียนจบอาจจะไปทำงานต่างถิ่น มีแผนตั้งรกรากกับแฟนที่อื่นก็ได้



ส่วนตัวเราว่าคุณอย่าเพิ่งรีบขายบ้านเลยหาคนเช่าไปพลาง ๆ ก่อน จะได้ลดภาระค่าผ่อน



เอาจริง ๆ อยากปากยาวในเรื่องที่คุณไม่ได้ถาม เราไม่ค่อยชอบใจแฟนคุณที่มาจุ้นจ้านกะเกณฑ์เรื่องให้ขายบ้านหลังนี้เพื่อที่จะไปผ่อนบ้านร่วมกับเขาโดยที่คุณเป็นกำลังหลัก อยากให้คุณมองผู้ชายคนนี้ให้ดิๆ แต่งงานช้าไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่แต่งกับคนผิดต่างหากที่เป็นเรื่องใหญ่ ตอนนี้คุณเป็นกำลังหลักให้ที่บ้าน ส่วนผู้ชายคนนี้กำลังจะรีบดึงคุณไปเป็นกำลังหลักให้ตัวเขาโดยให้คุณยกเลิกภาระผูกพันทางบ้าน มันไม่ถูกต้อง มันดูไม่เป็นลูกผู้ชาย คือถ้าเขารักที่ตัวคุณจริง คุณแต่งงานโดยยังไม่ซื้อบ้านก็ได้ สำหรับเรา ปัญหาจริง ๆ คือ คุณจะเลือกแบกที่บ้าน หรือแบกผู้ชายคนนี้

 

ลูกคนโต ท้อ ช่วยที่บ้านผ่อนบ้าน 3 ล้าน 5 ปี แม่ขอโอนเป็นชื่อน้อง หลังเรียนจบ