เด่นโซเชียล

เกือบวุ่น แม่โพสต์ตามหา "9 ขวบ" ถูกพ่อกับแม่เลี้ยง บุกชิงตัวถึงห้องเรียน

เกือบจะบานปลาย เมื่อแม่แท้ๆโพสต์ตามหา “น้องต้นกล้า” วัย 9 ขวบ หลังพ่อกับแม่เลี้ยง บุกชิงตัวถึงห้องเรียน พร้อมแฉว่าน้องถูกทำร้ายร่างกาย ล่าสุดเจอตัวน้องแล้ว

น้องต้นกล้า

27 มิ.ย. 2567 เวลา 13.50 น. กรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ขอให้คนช่วยตามหา น้องต้นกล้า ลูกชาย วัย 9 ขวบ ที่ถูก พ่อ แท้ๆ เป็น ครูโรงเรียนชื่อดัง ในจ. ชัยภูมิ และ แม่เลี้ยง เป็นแม่ค้าขายไก่สด และเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยกาชาด มาจากโคราช บุก ชิงตัว ไปจาก ห้องเรียน โรงเรียน แห่งหนึ่ง ใน อ. คอนสาร จ. ชัยภูมิ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2567 ข้อความระบุว่า “ แม่ ขอโทษที่เข้าไปช่วยหนูไม่ทัน แม่ขอโทษที่ไปถึงช้า แม่สัญญาจะทำทุกวิถีทางเพื่อเอาหนูกลับมาสู่อ้อมกอดของแม่ แม่ใจจะขาดแล้วลูก ป่านนี้หนูจะไปอยู่ไหน หนูจะมีความสุขเหมือนอยู่กับแม่มั้ย

 

“ แม่เลี้ยง บุกขึ้น อาคารเรียน ลากตัวน้องขึ้นรถขับออกมาจากโรงเรียนโดยมีพ่อน้องเป็นคนขับ โดยทั้งพ่อและแม่เลี้ยงอยู่ระหว่างการถูกออกหมายเรียก คดีทำร้ายร่างกายน้อง

ขณะเกิดเหตุ คณะ ครู และผู้ที่เห็นเหตุการณ์ ห้ามไว้ไม่ทัน เพราะไม่คิดว่า แม่เลี้ยง จะกล้าขึ้นไปลากตัวน้องลงมาจาก อาคารเรียน 

 

โดยก่อนหน้านี้น้องเคยโดน แม่เลี้ยง ทำร้ายร่างกาย แม่ได้พาน้องเข้าแจ้งความและตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแล้ว

 

แต่น้องโดนบีบบังคับขึ้นรถไป ช่วงค่ำวันที่ 26 มิ.ย.2567 แม่และทางบ้านได้เข้าแจ้งความและประสานไปยังตำรวจในพื้นที่ เข้าตามหาน้องในบ้านพัก และบ้านย่าน้อง ไม่เจอวี่แววใดๆของน้อง

 

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว ซึ่งเป็น แม่ ของ น้องต้นกล้า ทราบว่า เมื่อเร็วๆนี้ ลูกชายไปปอยู่กับ พ่อ แท้ๆและถูก แม่เลี้ยง ทำร้ายร่างกาย โดยส่วนใหญ่จะตีก้นและหลัง และตามร่างกาย  จากนั้น แม่แท้ๆ ได้รับลูกมาอยู่ด้วย พร้อมพาไปตรวจร่างกายและเข้าแจ้งความ เมื่อวันที่25มิ.ย.2567 ที่ผ่านมา

 

และต่อมาก็ได้เกิดเหตุ พ่อ แท้ๆกับ แม่เลี้ยง ตามมาลักตัวลูกชายที่กำลังเรียนหนังสือในอยู่ใน ห้องเรียน หลบหนีไป

 

ตนทำอะไรไม่ถูกจึงได้นำเรื่องราวมาแชร์ผ่านเฟซบุ๊ก เพื่อให้โชเชียลช่วยตามอีกช่องทาง ก่อนที่จะได้ไปแจ้งความที่ สภ. คอนสาร จ. ชัยภูมิ ต่อไป

 

อย่างไรก็ดี ล่าสุด ในวันนี้ (27มิ.ย.67) แม่ ของ น้องต้นกล้า ได้โพสต์เฟซบุ๊กอีกครั้ง ระบุว่า ตอนนี้คุณแม่ และคุณพ่อ ได้ปรับความเข้าใจแล้วนะคะ น้องเลือกที่จะอยู่กับ พ่อ แม่เองก็เคารพในการตัดสินใจของลูก

 

“แต่แม่ก็ได้แจ้งต่อพ่อว่า เมื่อนำน้องไปแล้ว ต้องไม่กีดกันน้องเหมือนที่ผ่านมา ไม่หลบหลีก หลบหน้า เวลาแม่ไปเยี่ยมน้อง และให้โทรติดต่อน้องได้ ขอบพระคุณท่านผู้กำกับ ท่านรองฯ และคณะสื่อมวลชนทุกภาคส่วนที่ช่วยเหลือและเป็นกระบอกเสียงให้กับแม่นะคะ ขอบพระคุณค่ะ

ข่าวยอดนิยม