เด่นโซเชียล

"ไบรท์ วรวิทย์" ไล่ไทม์ไลน์ 9 ข้อ ก่อนฟ้องลิขสิทธิ์เพลง เจ้าของโรงแรมดัง

มหากาพย์ลิขสิทธิ์เพลง "ไบรท์ วรวิทย์" เผยไทม์ไลน์ 9 ข้อ ก่อนฟ้องลิขสิทธิ์เพลง เจ้าของโรงแรมดัง ย่านบางพลี หลังดราม่าถล่ม

จากกรณีเจ้าของ โรงแรมดัง ย่านบางพลี จ.สมุทรปราการ ออกมาเผยคลิป เล่าประสบการณ์ที่ถูกเรียกค่า "ลิขสิทธิ์เพลง" จำนวน 11 เพลง รวมกว่า 1 ล้านบาท จากความไม่รู้ของตัวเอง

 

ล่าสุด เฟซบุ๊กนักแต่งเพลงชื่อดัง Bright Worawit Nimmansirikul ของ ไบรท์ วรวิทย์ นิมมานศิริกุล ได้ออกมาโพสต์ชี้แจง ไล่ไทม์ไลน์ดราม่าที่เกิดขึ้นระบุว่า

 

 

เรียน เพื่อนพี่น้องสื่อมวลชนที่เคารพรักนับถือ เพื่อนพี่น้องในวงการเพลง และทุกๆ คน คดีละเมิดลิขสิทธิ์เพลง ทนได้ทนไป คำร้องโดย ฉัตรชัย ดุริยประณีต (นก วงเฉลียง)  ทำนองโดย พี่ปื๊ด innocent

ไทม์ไลน์

1.ไบรท์ วรวิทย์ ซึ่งเป็นตัวแทนของพี่ๆ ผู้ประพันธ์เพลง ในการดูแลการละเมิดลิขสิทธิ์เพลงดังกล่าวอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว  หลังจากที่ทนายได้เรียกให้เข้าไปพบ เพื่อตรวจสอบดูหลักฐานการละเมิดลิขสิทธิ์ ที่ทนายได้พบ

 

ผมจึงทำการตรวจสอบ และสอบถามไปยังผู้ประพันธ์เพลงท่านต่างๆ พบว่า ผู้ประพันธ์เพลง ไม่เคยได้รับการติดต่อขออนุญาตใช้เพลง ผมจึงเริ่มติดต่อแจ้งกับทางโรงแรม ที่ละเมิดลิขสิทธิ์เพลง วันที่  4 มกราคม 2567 ถึงการละเมิดลิขสิทธิ์เพลง 10 เพลง

 

ต่อมาในเดือนเดียวกัน ระหว่างนั้น มีการเจรจากัน โดยได้มีตัวแทนจากบริษัทที่เป็นผู้ดูแล เกี่ยวกับช่องออนไลน์การเผยแพร่ ให้กับทางโรงแรม มาช่วยเจรจา ขอต่อรองราคา สรุปตัวเลขกันที่ 350,000 บาท ต่อ 10 เพลง เฉลี่ยประมาณเพลงละ 35,000 บาท ผมจึงได้ไปแจ้งขออนุมัติจากผู้ประพันธ์

 

ผู้ประพันธ์ บอกว่า โดยปรกติ การขออนุญาต ทำซ้ำดัดแปลง หนึ่งต้นแบบ จะคิดราคาประมาณ 4-5 หมื่นบาท ราคา เฉลี่ย 35,000 บาท ต่อเพลงนั้น นับว่าต่ำกว่าราคา ขอซื้อลิขสิทธิ์เพลงโดยปรกติอีก แต่ก็ให้สิทธิ์ พิจารณาตามที่ไบรท์ เห็นสมควร

 

ผมจึงนำราคาที่ได้ช่วยขออนุมัติ ในราคาที่ต่ำกว่าการซื้อลิขสิทธิ์เพลงปรกติ รวม 10 เพลง 350,000 บาท ไปแจ้งให้กับทางทีมโรงแรม ว่าเหมาราคาสิบเพลงตามตกลงร่วมกัน แต่กลับไม่ได้รับการตอบรับจากทางโรงแรมแต่อย่างใด

 

2.จากนั้นทนายจึงส่งโนติส แจ้งให้ชำระค่าละเมิดลิขสิทธิ์ในเพลง ทนได้ทนไป ครั้งที่ 1 วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 ไปที่บ้านเจ้าของโรงแรม แต่เขาก็เพิกเฉย ไม่มีการติดต่อกลับใดๆ

 

3.ทนายจึงส่งโนติส แจ้งให้ชำระค่าละเมิดลิขสิทธิ์ในเพลงทนได้ทนไป และอีก 9 เพลง รวมเป็น 10 เพลง โดยส่งวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 รอบนี้ส่งไปที่บ้าน ของเจ้าของโรงแรม และส่งไปที่บริษัทของโรงแรมด้วย

Bright Worawit Nimmansirikul

จากนั้นเจ้าของโรงแรม ได้ให้ตัวแทนฝ่ายกฎหมาย ติดต่อกลับมาทางทนายของพี่นก ในวันที่ 19-23 กุมภาพันธ์ 2567 ทนายของพี่นกแจ้งตัวเลขตามเดิม คือ 350,000 บาท ต่อ 10 เพลง ทางตัวแทนฝ่ายกฎหมายของโรงแรม ได้ขอเวลาไปแจ้งกับเจ้าของโรงแรม จนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 ติดต่อไปอีกครั้ง แต่ไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด

 

4.ทางทนาย จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ วันที่ 5 มีนาคม 2567 โดยแจ้งความเพียงแค่เพลง ทนได้ทนไปก่อน (เพราะหวังจะให้โอกาสเจ้าของโรงแรม ได้ติดต่อมาคุยกันให้จบ ถ้าหลังออกหมายเรียกแล้ว คุยกับเจ้าของโรงแรม ไม่ได้ หรือ ไม่ชำระ จึงจะไปแจ้งความเพลงที่เหลือ 9 เพลงตามไป)

 

5.ถัดมาเพียง 1-2 วัน ตำรวจได้ออกหมายเรียก นัดเจ้าของโรงแรม มาพบตำรวจ

 

6. ในวันนัด เจ้าของโรงแรม ได้ไปพบตำรวจเพื่อทราบข้อกล่าวหา และตำรวจได้บอกว่าให้ติดต่อกลับไปยังตัวแทนเจ้าของลิขสิทธิ์ เพื่อชำระค่าละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย เพราะหลักฐานพยานที่ตำรวจตรวจสอบข้อมูลแล้ว มีการละเมิดลิขสิทธิ์จริงๆ

 

7.ต่อมาหลังจากได้เข้าพบตำรวจแล้ว คนของเจ้าของโรงแรม ได้โทรมาในเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์เพลงอีกครั้ง ระหว่างคุยสักพัก ก็เปลี่ยนเป็นเจ้าของโรงแรมเข้ามาคุยสายแทน   พูดประมาณว่า ผมไม่ได้บอกว่าผมจะจ่าย 350,000บาท ผมจะคุยเป็นครั้งสุดท้าย ผมจ่ายไหวที่เพลงละหนึ่งหมื่นบาท 10 เพลง 1 แสนบาท

 

จึงตกลงกันไม่ได้ เพราะทางตัวแทนผู้ประพันธ์ได้รับอนุมัติจากผู้ประพันธ์เพลงมาในอัตรา เฉลี่ยที่เพลงละ 35,000 บาท ต่อเพลง 10 เพลงเหมา 350,000 บาท

 

จึงไม่สามารถรับค่าละเมิดลิขสิทธิ์ในราคานี้ได้ เพราะเป็นราคาที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะเป็นกรณีละเมิดลิขสิทธิ์เพลง ไม่ใช่การขออนุญาตใช้เพลง จึงแจ้งกับเจ้าของโรงแรมว่า อย่างนั้นคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงการดำเนินการทางกฏหมายขั้นต่อไปนะครับ

 

8.หลังจากนั้น ทนายยังคงไปตรวจพบเจอคลิปเพลงบางเพลงใน 10 เพลงดังกล่าว ที่ได้แจ้งไป ยังคงค้างอยู่บ้างในบางแพลตฟอร์ม เพราะทางโรงแรม ลงหลายแพลตฟอร์ม จึงไม่ได้ลบทั้งหมด อย่างที่ได้พูดไว้ในคลิปหลาย ๆ คลิปที่ออกมาพูดเรื่องคดี ทนได้ทนไป  เพราะทนายตรวจเจออยู่จริงๆ ในบางเพลง

 

และที่แน่ๆ คือคลิปสตรีมไลฟ์สดร้องเพลง ที่เผยแพร่ในยูทูป เกือบทุก EP จะมีโลโก้ เครื่องหมายการค้า ของโรงแรม เท่าที่ตรวจดู เจ้าของโรงแรม แทบไม่ได้ลบเลย ซึ่งคลิปเหล่านี้ได้สร้างผลประโยชน์รอบด้านให้กับโรงแรม เจ้าของโรงแรม อาจจะเข้าใจว่าทางเราไม่ได้มาดูตรงนี้ เพราะมันเป็นคลิปเพลงรวม คลิปยาวเป็นชั่วโมงและเยอะมาก เลยอาจจะนึกไม่ถึงว่าเราจะตรวจตรงนี้ด้วย ระหว่างที่ตรวจดู ทนายก็เจอเพิ่มขึ้นๆ จึงทยอยเก็บไปด้วยตามที่เจอ

 

9.ต่อมาเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567 ทนายได้ยื่นฟ้องในเพลง ทนได้ทนไป 1 เพลงก่อน  เพราะถ้ายื่นฟ้องพร้อมกันหมดทุกคดี ทุกเพลง อาจจะสร้างความวุ่นวายให้ทุกฝ่ายได้ อีกทั้งจะโดนมองว่าตั้งใจมาค้าความ เลยยื่นฟ้องแค่ 1 เพลง และการกระทำความผิดน้อยกรรมก่อน เพราะยังมีความคิดว่า การยื่นฟ้องรอบนี้จะเป็นการทำให้เจ้าของโรงแรม ได้มาคุยกับทางเรา

 

เพราะก่อนหน้านั้น ทางผมพยามติดต่ออย่างเต็มที่ แต่ติดต่อไม่ได้ โดนบล็อค ไม่รับสาย ให้ทางทนายติดต่อก็ไม่สำเร็จ ติดต่อได้บ้างไม่ได้บ้าง มีบางครั้งที่ทนายติดต่อไป แต่ก็ยังคงไม่ได้คำตอบอีกเช่นเคย เลยคิดว่าการฟ้องร้องครั้งนี้ หมายศาลจะทำให้เจ้าของโรงแรม ได้เข้ามาเจรจาให้เรียบร้อย

 

ไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี เป็นเพียงการปกป้องสิทธิ์ของผู้ประพันธ์เพลงเท่านั้น  เพราะถ้าหากตั้งใจดำเนินคดีอย่างจริงจัง สามารถฟ้องทีเดียวครบ 10 เพลงได้เลย แถมเพลงที่เหลือกรรมความผิดเยอะมากๆ ด้วย แต่เราไม่ทำเช่นนั้น เพราะหวังว่าถ้ามาคุยเพลงที่ฟ้องไปก่อน 1 เพลงได้จบ ก็จะได้เจรจาจ่ายในเพลงที่เหลือให้จบทั้งหมด ทางผมคิดแบบนี้ ไม่งั้นคงไม่พยายามติดตามเจรจามาอย่างยาวนานตั้ง 5 เดือนกว่า

 

แต่ตอนนี้ทางเจ้าของโรงแรม มีการอัดคลิปพูดถึงคดี เพลง ทนได้ทนไป และเพลงอื่นๆ ทำให้ผู้ประพันธ์เพลงและผมผู้รับมอบอำนาจ ถูกว่ากล่าวเสียๆ หายๆ ไปในวงกว้างมากๆ  โดยเน้นประเด็นเพลงละแสน สิบเพลงล้าน ซึ่งอันที่จริง ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยในราคา เพลงละประมาณ 35,000 บาท สิบเพลง 350,000 บาท มาตั้งแต่เดือนมกราคม ซึ่งเป็นเดือนแรกของการเจรจา และยึดถือตัวเลขนี้มาตลอด

 

แต่เจ้าของโรงแรม กลับพูดเน้นย้ำว่า ทางผู้รับมอบอำนาจ จะเก็บในราคา 100,000 บาท ต่อเพลง 10 เพลง 1,000,000 บาท โดยไม่พูดข้อเท็จจริงทั้งหมด ว่าทางโรงแรม ทราบราคา เฉลี่ยเพลงละประมาณ 35,000 บาท 10 เพลง 350,000 บาท นานถึงห้าเดือนกว่า แล้ว แต่ก็ไม่ติดต่อมาเพื่อชำระค่าละเมิดลิขสิทธิ์เพลงให้เรียบร้อย

 

ในเวลานี้ การจะคิดราคาเท่าที่ยอมกัน ในตอนแรกเป็นการไม่สมควรแล้ว เพราะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น ในขั้นตอนต่างๆ มากมาย ค่าทนาย ค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการดำเนินงานไปมากพอสมควร

 

อีกทั้งการอัดคลิปพูดจาบิดเบือนไม่พูดความจริงทั้งหมด ให้ครบถ้วน การพูดสร้างกระแสของเจ้าของโรงแรม ทำให้คนในสังคมวงกว้าง มีความรู้สึกดูหมิ่น เกลียดชัง ผู้ประพันธ์เพลงและผู้รับมอบอำนาจ รวมถึงในคลิปของเจ้าของโรงแรม ได้มีการนำสำเนาคำฟ้องมาแสดงเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ผู้เกี่ยวข้องในคดี ซึ่งเป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง

 

ทางทีมผู้ประพันธ์เพลง จึงจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงให้ถูกต้อง เพื่อเป็นการปกป้องสิทธิ์และศักดิ์ศรีของทุกคนในคดี ทนได้ทนไป ที่ถูกกล่าวถึงครับ จึงเรียนมาด้วยความเคารพรักนับถือจาก ไบรท์ ครับ

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ