เปิดโรงงานท้าพิสูจน์ “เชฟไพฑูรย์” แจง ไม่ได้ถูกสั่งปิดโรงงานผลิตน้ำปลาร้า | คมชัดลึก

29 ก.ค. 2567 ที่บริษัท ปลาร้าเชฟไพฑูรย์ ฟู้ดโปรดักส์ จำกัด ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่นนายไพฑูรย์ ชารีนิวัฒน์ หรือ “เชฟไพฑูรย์” กรรมการผู้จัดการบริษัทปลาร้าเชฟไพฑูรย์ ยืนยันว่า ทางโรงงานยังคงมีการผลิตน้ำปลาร้าตามปกติ ภายหลังจากมีข่าวเผยแพร่ทางสื่อมวลชนว่า โรงงานปลาร้าชื่อดังในจังหวัดขอนแก่น 2 แห่ง ถูกสั่งให้หยุดการผลิต เนื่องจากไม่มีใบอนุญาติประกอบกิจการโรงงาน ทำให้ทางโรงงานได้รับผลกระทบ

ทั้งยอดจำหน่ายสินค้า และความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อโรงงาน นายไพฑูรย์ ชารีนิวัฒน์ หรือ “เชฟไพฑูรย์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปลาร้าเชฟไพฑูรย์ ฟู้ดโปรดักส์ จำกัด กล่าวว่า ข่าวที่มีการเผยแพร่ออกไปนั้น ทำให้ทางโรงงานได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ซึ่งในข้อเท็จจริงแล้ว โรงงานที่ถูกสั่งปิดเป็นโรงงานอีกแห่งที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน

ตนเองยืนยันว่า ทางบริษัทปลาร้าเชฟไพฑูรย์ ยังดำเนินการผลิตตามปกติ เนื่องจากมีใบอนุญาติประกอบกิจการโรงงานถูกต้อง และดำเนินกิจการภายใต้มาตรฐานอุตสาหกรรมและด้านสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด ยอมรับว่ากระแสข่าวที่ออกไปสร้างความสับสนให้กับลูกค้าเป็นอย่างมาก

ก่อนหน้านี้ทางสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น ได้เข้ามาตรวจสอบโรงงาน จึงได้ให้โรงงานปรับปรุงระบบบำบัดมลพิษทางอากาศ และระบบจัดเก็บวัตถุดิบในอาคารโรงงาน ให้เป็นไปตามเงื่อนไขการอนุญาต กำหนดปรับปรุงแก้ไขให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 30 มิ.ย.2567

แต่โรงงานขอขยายระยะเวลา เนื่องจากอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบหม้อต้มให้ทันสมัยไร้กลิ่น รวมถึงการจัดเก็บวัตถุดิบในถังที่มีฝาปิดมิดชิด เพื่อป้องกันกลิ่นเหม็นที่อาจส่งผลกระทบต่อชุมชนที่อาศัยใกล้เคียง

สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น จึงอนุญาตให้ขยายระยะเวลาปรับปรุงถึงวันที่ 30 ส.ค.2567 เพื่อให้โรงงานสามารถดำเนินการปรับปรุงแก้ไขให้แล้วเสร็จอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันได้มีการแก้ไขปัญหาเรื่องกลิ่นด้วยการการติดตั้งระบบบำบัดมลพิษทางอากาศแบบสเปรย์น้ำ และติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสีย เอส บี อาร์ ขนาด 80 ลบ.ม. จำนวน 1 ชุด เพื่อลดกลิ่นเหม็น

เพิ่มแนวต้นไม้ทรงสูงเพื่อเป็นแนวกันชน (Buffer Zone) ตามแนวรั้วของโรงงานเพื่อลดการฟุ้งกระจายของกลิ่น พัฒนากระบวนการผลิตน้ำปลาร้าเป็นระบบปิดเพื่อลดผลกระทบจากกลิ่นเหม็นที่เกิดจากการต้มน้ำปลาร้า ซึ่งบริษัทปลาร้าเชฟไพรฑูรย์ ได้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขระบบการผลิต และระบบการบำบัดน้ำเสียครบ 100 เปอร์เซ็นต์

ล่าสุดได้เปิดโรงงาน เพื่อให้ผู้นำชุมชน ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณโดยรอบโรงงาน เข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิต เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินกิจการ ว่า ไม่มีผลกระทบใดๆ กับชุมชนโดยรอบ พร้อมทั้งได้มอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาถึงระดับปริญญาตรี จำนวน 150 ทุน และมอบทุนสนับสนุนกลุ่มอาชีพในชุมชนอีกด้วย