พระอุโบสถสูง84เมตรที่'วัดเทพฯสุรินทร์' | คมชัดลึก

          สวัสดีครับแฟนๆ ชาว “คนรักบ้าน”  ผมเชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศกำลังเบิกบานลืมความทุกข์โศกไปชั่วขณะ เพราะอยู่ในช่วงของการเฉลิมฉลอง “วันพ่อแห่งชาติ” ทำให้ผมได้รับรู้ว่า “พ่อหลวง” ของเรา ทรงเป็นจุดศูนย์รวมของความสุขของคนไทยทั้งประเทศโดยแท้จริง ไม่ว่าจะยากดีมีจนต้องทนทุกข์สักเพียงใด ในช่วงเวลาอันเป็นมงคลนี้ไพร่ฟ้าชาวประชาต่างแจ่มใส สมกับคำกล่าวที่ว่า “เย็นศิระ  เพราะพระบริบาล”  โดยแท้จริงครับ  นอกจากนี้ ในหลายพื้นที่ที่น้ำท่วมขังกันมาอย่างยาวนาน 2-3 เดือน ก็กำลังลดลง จะเห็นได้ว่าในหลายหมู่บ้าน เริ่มจัดกิจกรรม “บิ๊ก คลีนนิ่ง เดย์” ทำความสะอาดบ้านกันยกใหญ่
 
          ในสัปดาห์นี้ผมขอนำเสนอ “บ้านของสงฆ์” หมายถึง “วัด” นั่นเองครับ เพราะเมื่อหลายเดือนก่อน ผมได้รับปากท่านเจ้าอาวาส “วัดเทพฯ สุรินทร์”   ซึ่งชื่อเดิมที่ชาวบ้านร้านตลาดเรียกกันติดปากว่า  “วัดคุ้มเหนือ” โดยมีเจ้าอาวาส คือ  พระมหาสุรัตน์อินทปัญโญ ได้ติดต่อเข้ามาให้ผมเข้าไปมีส่วนร่วมในการบูรณะฟื้นฟูวัดเทพฯ แห่งนี้ จะว่าไปแล้ววัดเทพฯ ถือได้ว่าตั้งอยู่ในย่านกลางชุมชนเมืองของ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ทั้งยังอยู่ไม่ไกลนักจากตลาดสดและยังอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ
 
          เชื่อหรือไม่ครับว่าขนาดตั้งอยู่ใจกลางเมืองขนาดนี้ยังไม่มีพระอุโบสถ ที่ใช้ประกอบกิจของสงฆ์ ตอนที่ท่านเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันเข้ามารับตำแหน่งท่านได้เล่าให้ผมฟังว่าวัดอยู่ในสภาพเสื่อมโทรมหญ้าสูงท่วมกำแพงเลยทีเดียวครับ เนื่องจากเจ้าอาวาสท่านนี้ นอกจากจะทำหน้าที่สอน “ปริยัติธรรม”  ให้กับภิกษุสามเณรทั่วไปแล้ว ก็ถือได้ว่าท่านเป็นพระนักพัฒนาตัวยง เพราะตั้งแต่ท่านได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเทพฯ ก็มีการปรับปรุงที่ดีขึ้น อีกทั้งผมยังได้รับรู้รับทราบถึง  “วิสัยทัศน์” ของท่าน ในการปรับปรุงวัดเลยรับปากที่จะออกแบบบรรดาถาวรวัตถุต่างๆ ในวัด  ไม่ว่าจะเป็นพระอุโบสถ, ศาลาการเปรียญ, เมรุ,  กุฏิพระ ฯลฯ ตลอดไปจนวางผังสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ในวัดให้เป็นระบบระเบียบ เรียบร้อย    
 
          สำหรับผมแล้ววัดเทพฯ นอกจากจะเป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของบรรดาญาติโยมแล้วยังเป็นการสืบสานพระพุทธศาสนาให้ยืนยงคงอยู่คู่สังคมไทยไปตราบนานเท่านาน นอกจากนี้ ยังเป็นการร่วมเฉลิมฉลองครบ 7 รอบ 84 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และยังเป็นการทำคุณความดีถวายเป็นพระราชกุศลเพื่อให้ทรงหายประชวรและเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยไปตราบนานเท่านาน พอผมได้รับปากท่านเจ้าอาวาสแล้วก็ได้ทุ่มเทสรรพกำลังทั้งบรรดาสถาปนิก,มัณฑนากร และวิศวกร  ตลอดจนนักวางผังทุ่มเทให้กับโครงการพัฒนาวัดเทพฯ แห่งนี้ 
 
          สิ่งที่นำเสนอให้กับบรรดาแฟนๆ ชาว “คนรักบ้าน” ในสัปดาห์นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการพัฒนาวัดเทพฯ เป็นการออกแบบพระอุโบสถของวัด ซึ่งผมและท่านเจ้าอาวาสมีความเห็นตรงกันว่าเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติของพระเจ้าอยู่หัวจึงออกแบบให้มีความสูงจากพื้นจนถึงยอดพระธาตุ 84 เมตร (เป็นความสูงเทียบได้กับอาคาร 28 ชั้นเลยทีเดียว) เพราะท่านเจ้าอาวาสมีความมุ่งมั่นว่าในรัศมีของตัวอำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็จะสามารถเห็นยอดพระธาตุอย่างชัดเจน นอกจากจะเป็นการเสริมมงคลแก่ผู้ที่เคารพบูชาแล้วก็ยังเป็นการเตือนสติให้บรรดาพุทธศาสนิกชนมุ่งกระทำความดี นำเอาสิ่งที่ดีงามมาสู่ตนเอง  ครอบครัว  และคนที่รัก 
 
          ในการออกแบบครั้งนี้ ผมยังตั้งใจว่าจะออกแบบพระอุโบสถหลังนี้ให้มีลักษณะเป็นไทยใหม่ที่ทันสมัย และสามารถตอบโจทย์ที่ยากทั้งทางสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม ซึ่งในวันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม เวลา 09.00 น. ที่เพิ่งผ่านมาก็ได้มีพิธีวางศิลาฤกษ์ โดยมี พระพรหมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา กรุงเทพฯ  เป็นประธานในพิธีฝ่ายสงฆ์ และท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์  เป็นประธานฝ่ายฆราวาส จริงอยู่พระอุโบสถของวัดเทพฯ หลังนี้มีขนาดที่ใหญ่โตมโหฬารพอสมควร แต่ถ้าไม่เริ่มต้น ณ วันนี้ ในวันพรุ่งนี้จะเสร็จได้อย่างไร และผมเชื่อว่าพระอุโบสถหลังนี้จะเป็นคุณงามความดีเป็นศักดิ์เป็นศรีแก่ชาวเมืองสุรินทร์ที่จะยังประโยชน์ให้แก่ชุมชนคนหมู่มากอย่างเอนกอนันต์ครับ
 
          ท่านที่สนใจจะร่วมอนุโมทนาบุญสามารถติดต่อได้โดยตรงที่ท่านพระมหาสุรัตน์อินทปัญโญ โทร 081-8795338 เพราะผมเชื่อว่าหากมีจิตที่ดีแล้วจะทำกิจการงานใดก็ประสบผลสำเร็จ  ทั้งยังเป็นเนื้อนาบุญอันประเสริฐที่กุศลผลบุญนี้ก็จะเผื่อแผ่ไปทั้งโลกนี้และโลกหน้า เรียกว่าอิ่มบุญกันทั่วถ้วนหน้าเลยครับ

..........

(หมายเหตุ พระอุโบสถสูง84เมตรที่'วัดเทพฯสุรินทร์':บ้านไม่บาน โดย... อ.เชี่ยว)