เพาะเห็ดแชมปิญองเชิงพาณิชย์ | คมชัดลึก

                  ที่ผ่านมาแม้จะมีการพยายามที่จะเพาะขยาย "เห็ดแชมปิญอง" (Champiyong) ในเชิงพาณิชย์มาหลายปีแล้วก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าไม่ค่อยประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากได้ผลผลิตน้อย ทำให้ประเทศไทยมีการนำเข้า "เห็ดแชมปิญอง "จากต่างประเทศปีละกว่า 400 ตัน แต่ปัจจุบันศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง ต.แม่วาง แม่วาง จ.เชียงใหม่ ประสบผลสำเร็จได้ระดับหนึ่ง สามารถผลิตเห็ดชนิดนี้ได้ถึง 9 กิโลกรัม (กก.) ต่อพื้นที่ปลูกเพียง 1 ตารางเมตร สามารถขายได้ในราคา กก.ละ 340 บาท ขณะนี้กำลังอยู่ขั้นส่งเสริมให้เกษตรกรบนที่สูงปลูกเป็นเชิงพาณิชย์ เพื่อสร้างอาชีพและรายได้แก่เกษตรกรต่อไป

                  นายนิรันดร์ เขื่อนขวบ นักวิชาการเกษตร (กลุ่มเห็ด) ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง บอกว่า ได้ทดลองเพาะเห็ดแชมปิญองในเชิงการค้าที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวางมาตั้งแต่ปี 2551 หลังจากประสบผลสำเร็จในการทดเพาะเห็ดฮังการี เห็ดนางรม เห็ดนางฟ้า  เห็ดออรินจิ  ล่าสุดจึงมีการลดทองเพาะเห็ดพอร์โทเบลโล เห็ดถั่วฝรั่ง เป็นต้น ซึ่งผลจากการทดลองเพาะแล้วพบว่า ผลผลิตเห็ดแชมปิญองถือว่าประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ กล่าวคือพื้นที่การเพาะเห็ดแชมปิญอง 1 ตารางเมตรให้ผลผลิต 8-9 กก. ถือว่าให้ผลผลิตสูง สามารถส่งเสริมให้เกษตรกรเพาะเห็ดชนิดนี้เพื่อการค้าได้ เพราะประเมินแล้วคุ้มต่อการลงทุนอีกด้วย

                  "ที่จริงเห็ดแชมปิญองเป็นเห็ดเศรษฐกิจที่สำคัญของโลก มีการเพาะขายในเชิงพาณิชย์ในประเทศฝรั่งเศสมานานแล้ว บ้านเราก็เคยทดลองเพาะมาหลายปี แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยประสบผลสำเร็จมากนัก ของเราถือว่าประสบผลสำเร็จรายแรกที่เพาะขยายในเชิงพาณิชย์ เกษตรกรบนที่สูงสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ เพราะตลาดต้องการสูง ซึ่งที่ผ่านมาบ้านเรามีการนำข้าวเห็ดชนิดนี้ปีละหลายร้อยตัน เพื่อประกอบอาหารได้หลายชนิด ทั้งผัดน้ำมันหอย ชุบแป้งทอด ต้มยำ ผัดไข่ ซุปเห็ด สตูเห็ด และเห็ดอบเนย และอีกหลายเมนู ปัจจุบันราคาในท้องตลาดตก กก.ละ 340 บาท" นายนิรันดร์กล่าว

                   สำหรับการทำฟาร์มหรือโรงเรือนเพาะเห็ดแชมปิญองนั้น นายนิรันดร์บอกว่า จะลงทุนสูงในช่วงแรก คือสร้างโรงเรือนขนาด 90-100 ตารางเมตร จะลงทุนราว 1 แสนบาท แต่ละโรงเรือนจะมีความคงทนถึง 10 ปี ส่วนทุนในการเพาะเห็ดในแต่ละรุ่นใช้เงิน 6-7 หมื่นบาท ในแต่ละโรงเรือนสามารถผลิตเห็ดได้ 800-900 กก./ต่อรุ่น ขายได้รุ่นละราว 3-3.4 แสนบาท โดยแต่ละรุ่นใช้เวลา 6-7 เดือน เริ่มจากนำฟางข้าวและขุยเยื่อไผ่บดไปถึงฆ่าเชื้อ จากนั้นจึงใส่ถาดสำหรับเติมปุ๋ยหมักใช้เวลา 22-25 วัน จึงจะโรยเชื้อเห็ดอีก 20 วัน ในอุณหภูมิ 25 องศา พอเป็นดอกเห็ดรออีก 15-20 วัน จึงจะสามารถเก็บผลผลิตได้อีกนานถึง 3 เดือน ปัจจุบันที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวางมีอยู่ 3 โรงเรือน สามารถเก็บผลผลิตได้วันละ 18-20 กก.

                  เห็ดแชมปิญอง มีถิ่นกำเนิดที่ประเทศฝรั่งเศส ลักษณะคล้ายทรงกระบอก มีดอกสีขาว หรือสีครีมคล้ายกระดุม ครีบดอกคล้ายซี่ร่ม สีขาว มีวงแหวนล้อมรอบส่วนโคนของก้านดอก ปกติจะออกสู่ท้องตลาดช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ตามข้อมูลระบุว่า มีคุณค่าทางโภชนาการ กล่าวคือเห็ดแชมปิญอง 100 กรัม ให้พลังงาน 16 กิโลแคลอรี่, มีคาร์โบไฮเดรต 1.5 กรัม, เส้นใย 3 กรัม, น้ำตาล 0.5 กรัม, โปรตีน 1.5 กรัม, แคลเซียม 11 มก., โพแทสเซียม 100 มก. และโซเดียม 380 มก. ถือเป็นเห็ดเศรษฐกิจของโลกมากว่า 300 ปีปัจจุบันประเทศจีนและไต้หวันผลิตเห็ดแชมปิญองเพื่อส่งออกมากที่สุดในโลก ขณะที่ประเทศต้องนำเข้าเห็ดแชมปิญองปีละกว่า 400 ตันต่อปี

                   การเพาะเห็ดแชมปิญองเพื่อการค้านับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของเกษตรกรบนที่สูง เพราะยังเป็นที่ต้องการของตลาด หากสนใจดูงานเพาะเห็ดแชมปิญอง และไม้ดอกไม้ผลเมืองหนาวหลายรายการที่ดอยอินทนนท์ สอบถามได้ที่สมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งปรนะเทศไทย โทร.0-2940-5425-6 

..........................................
(เพาะเห็ดแชมปิญองเชิงพาณิชย์ เพิ่มทางเลือกเกษตรกรบนที่สูง : โดย...ดลมนัส  กาเจ)