ไลฟ์สไตล์

รถตู้ป้ายดำ วิ่งทับเส้นทาง

รถตู้ป้ายดำ วิ่งทับเส้นทาง

16 ม.ค. 2555

ผมและกลุ่มรถตู้สาย ต.53 เอ บางบ่อ-บางนา ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากมีรถตู้ผิดกฎหมายวิ่งทับเส้นทางตลอดเส้นทาง โดยรถตู้ผิดกฎหมายใช้รถตู้ป้ายดำและป้ายแดงวิ่งรับส่งผู้โดยสารไปจนถึงบิ๊กซี ชลบุรี

 ทำไมผู้ที่ทำตามกฎหมายอย่างพวกผมถึงถูกเอาเปรียบ หากรถตู้เถื่อนวิ่งรับส่งผู้โดยสารได้อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย แล้วพวกผมจะมีสัมปทานที่ถูกต้องตามกฎหมายไว้เพื่ออะไร
 กลุ่มรถตู้แจ้งความเดือดร้อนเรื่องนี้ต่อหน่วยงานของรัฐหลายครั้งหลายหน ทั้งกรมการขนส่งทางบก ขสมก. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสถานีตำรวจท้องที่ที่รถตู้วิ่งผ่าน แต่เรื่องก็เงียบหาย เพราะกลัวอิทธิพล
ณรงค์
ตอบ
 นายยงยุทธ นาคแดง ผอ.กองตรวจการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก ชี้แจงว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนนี้แล้ว เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตามเส้นทางที่ร้องเรียนมา พบว่ามีรถตู้ 2 กลุ่ม ที่นำรถมาวิ่งทับเส้นทาง คือ 1.นำรถสายอื่นมาวิ่ง 2.นำรถส่วนบุคคลมาวิ่ง
 จากการสำรวจโดยสายสืบของกองตรวจการขนส่งทางบก พบรถที่กระทำความผิด 8-10 คัน ขณะนี้ยังไม่สามารถจับรถและผู้ขับขี่ได้ แต่ได้จดเลขทะเบียนรถไว้ เพื่อเรียกเจ้าของรถมาสอบสวน และเพื่อดำเนินคดีต่อไป
 การจับกุมรถตู้ผิดกฎหมายทำได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากถนนบางนา-ตราดมีพื้นที่กว้าง รถวิ่งได้หลายเส้นทาง ในส่วนของเส้นทาง จ.ชลบุรี ได้ประสานไปยังขนส่งจังหวัดชลบุรี ให้ช่วยตรวจสอบและจับกุมแล้ว
 รถตู้ที่วิ่งทับเส้นทาง ขนส่งจะจับส่งตำรวจเพื่อส่งฟ้องศาล มีความผิดข้อหาใช้รถส่วนบุคคลดำเนินการรับจ้าง และประกอบการขนส่งโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่น้อยกว่า 2 หมื่น-1 แสนบาท ส่วนรถป้ายแดงแจ้งข้อหาเพิ่ม ใช้รถที่ยังไม่ได้จดทะเบียนเสียภาษี
 ด้าน น.ส.อารีย์ สายต่อเนื่อง หัวหน้าฝ่ายรถตู้ร่วมบริการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ชี้แจงว่า ออกไปตรวจจับอยู่เรื่อยๆ มีทั้งรถป้ายดำและป้ายเหลือง ที่วิ่งทับเส้นทาง ในส่วนของรถป้ายดำอยู่นอกเหนืออำนาจหน้าที่ของ ขสมก. ได้แจ้งให้ขนส่งทางบกทราบแล้ว
 ส่วนป้ายเหลืองได้ทำหนังสือแจ้งเจ้าของรถให้มาให้ปากคำกับ ขสมก. หากกระทำความผิดจริงจะลงโทษโดยการปรับขั้นสูง 2,000 บาท และถ้าตรวจสอบพบกระทำความผิดอีกจะถอนรถออกจากบัญชี ขส.บ.11 ซึ่งเป็นบัญชีจำนวนรถที่อยู่ในสายเส้นทางที่ขออนุญาต จะไม่สามารถวิ่งรับผู้โดยสารได้อีก
ลุงแจ่ม