
รับลมริมเล ณ ทุ่งวัวแล่น หาดทรายรี
คอลัมน์ ชวนเที่ยว - รับลมริมเล ณ ทุ่งวัวแล่น หาดทรายรี - โดย ... เรื่อง / ภาพ : นพพร วิจิตร์วงษ์
ร้อน ร้อน ร้อน ใครๆ ก็บ่นร้อน จนอยากเอาตัวเองไปชุบไปแช่อยู่ในน้ำตลอดเวลา แต่ครั้นจะเข้าแต่ห้องน้ำที่บ้าน คงอับเฉาเป็นแน่ ทริปเดินทางไปเที่ยวริมทะเลของฉันเลยเกิดขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ ขอเลาะฝั่งทะเล ลงสู่ภาคใต้บ้างดีกว่า
พี่บิ๊กคู่ใจของฉัน ทุกสัมภาระ พร้อมเพื่อนเดินทาง แล่นลิ่วสู่จังหวัด "ชุมพร" ที่ได้ชื่อว่าเป็นประตูสู่ภาคใต้ ทะเลชุมพรของฉันคราวนี้ ขอพักชิลๆ บนฝั่ง แทนที่จะไปลั้นลาตามเกาะแก่ง จริงๆ ใครๆ ไปชุมพร ก็มักจะมองไปไกลถึงเกาะเต่า เกาะนางยวน หรือเป็นเกาะแก่งในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร หรือจะพักสบายๆ สไตล์พอเพียงแบบโฮมสเตย์ที่เกาะพิทักษ์ แต่ฉันกลับย้อนคิดถึงทุ่งวัวแล่น และ หาดทรายรี ซะมากกว่า
จากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าลงสู่ภาคใต้ ผ่านเพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์ ไปตั้งต้นที่สี่แยกปฐมพร
สี่แยกปฐมพรวันนี้หน้าตาเปลี่ยนไป ใครที่ไม่ได้ขับรถลงใต้ซะนาน อาจจะงงๆ ได้ เพราะจากสี่แยกธรรมดากลายเป็นสะพานลอยรถข้ามพาดผ่าน ตรงไปเป็นทางหลวงหมายเลข 41 ไปทาง จ.สุราษฎร์ธานี เลี้ยวขวาเป็นทางหลวงหมายเลข 4 เพชรเกษม มุ่งหน้า จ.ระนอง แต่ฉันเลี้ยวซ้ายเข้าตัวเมืองชุมพร
จากตัวเมืองชุมพรมุ่งหน้าไปปากน้ำชุมพร-หาดทรายรี ระยะทาง 13 กม. มีป้ายบอกทางตลอด (ทางหลวงหมายเลข 4119 แล้วแยกขวา เข้าทางหลวง 4098 ลงสู่ชายหาด) ฉันล่ะถนัดนักขับรถตามป้ายเนี่ยะ แต่ถ้าใครไม่ขับรถไป ก็มีรถสองแถวบริการจากตัวเมืองไปหาดทรายรีเหมือนกัน
ทะลุไปถึง หาดทรายรี บริเวณอ่าวชุมพร ฉันก็แค่หามุมงามๆ นั่งพักผ่อน ทอดอารมณ์กับหาดทรายยามเย็น ผู้คนไม่พลุกพล่านเหมือนชายหาดฮอตฮิตอื่นๆ ที่คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างถิ่น แต่ที่นี่ ฉันยังได้เห็นภาพชีวิตของคนท้องถิ่น กับวิถีประมงและการค้าขาย ทิวมะพร้าวริมชายหาด แต่ปัจจุบันก็มีที่พัก ร้านอาหารสะดวกสบายกว่าแต่ก่อน
ที่นี่ ยังเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถาน ของ พลเรือเอกพระบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ผู้ทรงสถาปนากองทัพเรือ ซึ่งเป็นสถานที่สิ้นพระชนม์ จะมีศาลเจ้าพ่อกรมหลวงชุมพรฯ หลังเก่า และที่สร้างขึ้นใหม่บนเนินเขา ส่วนที่บริเวณเชิงเขาจะเป็นที่ตั้งของสวนสมุนไพรหมอพร ตามที่ชาวบ้านเรียก กรมหลวงชุมพรฯ และยังมี "เรือรบหลวงชุมพร" ซึ่งเป็นเรือตอร์ปิโดขนาดใหญ่ มีความยาว 68 เมตร กว้าง 6.55 เมตร ที่กองทัพเรือมอบให้มาตั้ง เพื่อเป็นอนุสรณ์ของกรมหลวงชุมพรฯ
แต่เป้าหมายของฉัน กะว่าจะไปโพล้เพล้ที่หาดทุ่งวัวแล่น ฉันเลยใช้เวลาอยู่ที่หาดทรายรีไม่นานนัก จากเส้นทางลงหาดทรายรี ฉันเลาะชายหาดไปทางปากน้ำชุมพร เพื่อไปดูเกาะที่ว่ากันว่า ยามน้ำทะเลลง เราสามารถเดินข้ามสันทรายไปถึงเกาะได้ แล้วก็เห็นโดดเด่นตั้งแต่ท่าเทียบเรือ และป้ายบอกสถานที่ที่ใครไปใครมาก็ต้องแวะถ่ายรูป อีกทั้งบริเวณโดยรอบ เหมาะกับการมานั่งปิกนิกซะจริง เพราะจัดเป็นสวนหย่อมริมทะเล
เกาะมัตโพน เป็นเกาะเล็กๆ เป็นที่ตั้งกระโจมไฟของกองทัพเรือ บนเกาะมีเจดีย์เก่าชื่อ มาลิกเจดีย์ น่าจะมีอายุอยู่ในราวรัชกาลที่ 3-4 สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียน ในประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม 115 ตอน 83 ง. วันที่ 21 กันยายน 2541 และทุกวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 ก็จะมีการจัดงานทำบุญสักการะ มาลิกเจดีย์ เป็นประจำทุกปี
การเดินทางไปเกาะนี้ ต้องนั่งเรือไป แต่ถ้าจังหวะดีน้ำทะเลลด ก็สามารถเดินตามสันทรายข้ามไปยังเกาะมัตโพนได้ แต่ระวังแล้วกันถ้าเดินข้ามไป ขากลับก็คงต้องรอน้ำลดเหมือนกัน 555
จากบริเวณท่าเทียบเรือ เรารีบเดินทางไปหาดทุ่งวัวแล่น ก่อนพระอาทิตย์ตกทะเล ต้องเลาะเข้าตัวตลาดปากน้ำชุมพร เนื่องจากเป็นทางวันเวย์ หรือไม่ก็ต้องกลับไปทางหาดทรายรีอีกครั้ง มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองชุมพร ก่อนถึงตัวเมืองจะมีทางแยกจนถึงทางแยกไป อ.ประทิว ใช้ทางหลวง 3180 ไปทุ่งวัวแล่นที่อยู่ห่างราวๆ 16 กม. รถสาธารณะก็มีนะเป็นสองแถวสายชุมพร-ทุ่งวัวแล่น-สะพลี
หาดทุ่งวัวแล่น จัดได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของอ.ปะทิว เป็นชายหาดที่มีเม็ดทรายสีขาวนวลละเอียด ลักษณะหาดค่อยๆ ลาดเอียงลงทีละน้อยจึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอีกแห่ง และจากหาดนี้มีเรือไปชมเกาะต่างๆ ได้ หรือถ้าชอบดำน้ำ ก็ยังพอมีจุดดำน้ำตื้นอยู่บริเวณเชิงเขาโพธิ์แบะ ตอนใต้ของหาด
ทำไมถึงต้องเป็น "วัวแล่น" ชื่อแบบนี้ถามไปถามมา ก็ได้ความว่า มีเรื่องเล่าต่อๆ กันมาว่า เคยมีพรานพิชิตวัวป่าได้ที่ริมหาดแห่งนี้ แต่ในขณะที่กำลังถลกหนังวัวอยู่นั้น วัวป่าที่ตายแล้วกลับฟื้นคืนชีวิตขึ้นมา แล้วลุกวิ่งหนีหายเข้าป่าไปได้ พรานป่าจึงเรียกหาดแห่งนี้ว่า "หาดทุ่งวัวแล่น" ปัจจุบันนี้ ก็เห็นวัวแล่นริมหาด แต่เป็นแค่รูปปั้นสัมฤทธิ์ ตั้งเด่นเป็นสง่า อยู่ตอนกลางของหาด
ตลอดแนวชายหาดทุ่งวัวแล่นยังมีทิวมะพร้าวไม่ต่างจากที่เคยเป็นมา แต่ดูเหมือนว่า ร้านอาหาร รีสอร์ทเล็กๆ ผุดขึ้นเรียงรายริมหาดผิดกับแต่ก่อน ที่ดูเหมือนจะเป็นหาดกว้างๆ ที่เงียบสงบ ไม่ค่อยจะมีร้านค้าให้สะดุดตา
หาดทุ่งวัวแล่นยามค่ำ คึกคักด้วยแสงสี เพื่อเรียกลูกค้าเข้าร้าน ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ฝั่งทะเล ยังดีที่มีขอบเขตไม่ล้นทะลักลงไปตั้งกันบนชายหาด ให้เสียภูมิทัศน์ เหมือนกับแหล่งท่องเที่ยวบางแห่ง ฉันแวะดูอยู่หลายร้าน กว่าจะได้ร้านที่มีเมนูที่ฉันตั้งเป้าจะมากิน จริงๆ ก็แค่ "ปูม้านึ่ง" แต่ดูเหมือนทุกร้านจะพร้อมใจกันมีแต่ปูนิ่มซะงั้น หรือเพราะฉันมาไม่ถูกฤดู ก็ไม่รู้
มาถึงทุ่งวัวแล่นเย็นๆ ค่ำๆ พักแถวนี้สักคืนก็ยังพอหารีสอร์ทราคาประหยัดได้ หรือใครชอบหรูหราก็ว่ากันที่รีสอร์ทขึ้นชื่อก็มี เช้าๆ ได้ตื่นมารับลมริมเล ระบายความร้อน ก่อนเอ้อระเหยกันจนสายๆ ค่อยเดินทางกลับ
ไหนๆ มาทางนี้ทั้งที ฉันก็เลยลัดเลาะไปตามเส้นทางถนนเลียบชายหาด ขึ้นไปถึง "เนินทรายงามชุมพร" ใกล้กับโครงการส่วนพระองค์ ริมเส้นทางเลียบชายหาดอ่าวบ่อเมา-หาดบางเบิด ที่อยู่ในต.ปากคลอง อ.ปะทิว รอยต่อกับ อ.บางสะพานน้อย ของจ.ประจวบคีรีขันธ์
ช่วงโค้งถนน ผ่านหาดถ้ำธง จะเห็นป้ายขนาดใหญ่ "หนึ่งในสยาม เนินทรายงามที่ชุมพร" (The most distinct Thai sand dune in Chumphon)
เนินทรายงามนี้ ไม่ใช่ว่าใครไปทำไว้ แต่เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่เกิดจากอิทธิพลของลมทะเลในฤดูมรสุมที่พัดพาทรายมาทับถมกันกลายเป็นเนินเขาย่อมๆ พอเจอกับช่วงแล้งแดดแรงจัด ผ่านวันเวลายาวนานทำให้บริเวณนี้เหมือนทะเลทราย แต่ขณะเดียวกันก็มีความหลากหลายทางระบบนิเวศ จนมีการประกาศเป็นพื้นที่คุ้มครองทางทะเลและชายฝั่ง มาตั้งแต่ปี 2548 ตั้งแต่โครงการพัฒนาส่วนพระองค์ ไปจนสุดเขตชุมชนบ้านถ้ำธง และด้านหน้าเนินทราย กำหนดเขตลงในทะเล 3 กิโลเมตร เพื่อคุ้มครองทรัพยากรและสภาพของป่าสันทรายชายฝั่ง
ที่นี่มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติเลาะไปตามเนินทราย เราเลือกเดินไปตามทางด้านข้าง มุดผ่านต้นเตยหนามขนาดใหญ่ ผ่านไม้ทะเลอื่นๆ ก่อนจะโผล่ออกไปริมชายหาด เห็นท้องทะเลหาดถ้ำธง ดูสวยสงบ จนเป็นเป้าหมายค้างคืนของเรา
จากเนินทรายงามเลยขึ้นมาหน่อย ก็ถึง หาดบางเบิด อยู่ในเขต อ.บางสะพานน้อย ประจวบคีรีขันธ์แล้ว ใครคุ้นๆ ชื่อ ก็คงเพราะแตงโมบางเบิดไง เราแวะไปเดินเล่นหาดทรายสวย มีที่พักหลายแห่ง แต่... ค่ำคืนนั้น พวกเราหลับฝันดีริมเล แถวชุมชนหาดถ้ำธง ชายขอบชุมพรแทน ก็เรามาเที่ยวชุมพรนี่นา
มาเที่ยวนี้ ฉันมองชุมพรไปอีกแบบ ที่นี่ไม่ใช่แค่ประตูสู่ภาคใต้ หากแต่แฝงไว้ด้วยหาดทรายสวย ทะเลสงบ ที่ยังเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไป
----------
(หมายเหตุ : คอลัมน์ ชวนเที่ยว - รับลมริมเล ณ ทุ่งวัวแล่น หาดทรายรี - โดย ... เรื่อง / ภาพ : นพพร วิจิตร์วงษ์)
----------