
ที่มาของคำว่า'Date'
ที่มาของคำว่า Date : คอลัมน์ เจ๊าะแจ๊ะ วิทยาศาสตร์
สวัสดีค่ะ น้องๆ ช่วงนี้อากาศร้อนมากมาย อย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ เมื่อสองวันก่อน น้องต้น ส่งอีเมลมาถาม พี่ฮัมมิ่งเบิร์ด ว่า ทำไมการนัดพบของหนุ่งสาว ต้องเรียกว่า Date ทั้งที่มีความหมายว่า “วันที่” จากหนังสือของนานมีบุ๊ค “ท่องโลกความรู้ 101 วัน ที่มาศัพท์ภาษาอังกฤษ" อธิบายไว้ว่า Date โดยทั่วไปหมายถึง วันที่ แต่ก็สามารถใช้ในความหมายว่าการนัดพบกับเพศตรงข้ามได้เช่นเดียวกัน
โดยที่มาที่เรียกการนัดพบของหนุ่มสาวว่า Date นั้น เนื่องจากเวลาชาวโรมันโบราณเขียนจดหมายมักเขียนคำว่า Date Romae ด้านหน้าวันที่ ดังนั้นความหมายดั้งเดิมจึงหมายถึงวัน เดือน ปี ที่เขียนจดหมาย ส่วนในภาษาละตินใช้คำว่า data ต่อมาในปลายศตวรรษที่ 18 เริ่มมีคนนำคำนี้มาใช้ในความหมายว่า “การนัดพบแบบหลบๆ ซ่อนๆ ระหว่างชายหญิงหรือคู่รัก” และเริ่มปรากฏในภาษาอื่นๆ โดยเฉพาะช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หนุ่มสาวชาวอเมริกันนิยมใช้คำว่า date แทนความหมายว่า การนัดพบกับเพื่อนต่างเพศเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ให้เป็นคู่รัก นอกจากนี้สถานที่นัดพบของหนุ่มสาวก็เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยด้วยเช่นกัน มีใครรู้บ้างไหมว่าต่อไปพวกเขาจะนัดพบกันที่ไหน
ส่วนคำว่า Clock (นาฬิกา) และ watch (นาฬิกาข้อมือ) แตกต่างกันอย่างไร นอกจากความหมายบ่งบอกการใช้นาฬิกาแล้ว ที่มายังแตกต่างกันด้วย clock พัฒนามาจากคำว่า clocca ในภาษาอังกฤษไอร์แลนด์โบราณที่แปลว่า ระฆัง เพราะในสมัยโบราณใช้การตีระฆังเพื่อบอกเวลา ส่วนคำว่า Watch มีต้นกำเนิดมาจากคำว่า waccan ในภาษาอังกฤษโบราณ แปลว่า ตื่น และยังมีอีกความหมายหนึ่ง การจับตามอง และเฝ้าดู จนกระทั่งเมื่อมีการพัฒนาด้านภาษา ศัพท์ทั้งสองคำนี้ถูกกำหนดให้คำว่า clock หมายถึงนาฬิกาขนาดใหญ่ที่คนจำนวนมาใช้ดูเวลา ส่วน watch หมายถึงนาฬิกาเรือนเล็กที่คนคนเดียวใช้ดูเวลา แล้วพบกันสัปดาห์หน้าค่ะ
----------
(หมายเหตุ : ที่มาของคำว่า Date : คอลัมน์ เจ๊าะแจ๊ะ วิทยาศาสตร์)
----------