ยูโรจอดำ
ยูโรจอดำ : คอลัมน์มองผ่านเลนส์คม : โดย...บรรณวัชร
ในที่สุด กรณี "จอดำ" กลับมาเป็นหัวข้อสนทนาในสภากาแฟ ยันสังคมออนไลน์ เหมือนตอนฟุตบอลโลก
เนื่องจากชาติอื่นที่ได้รับลิขสิทธิ์จากฟีฟ่า โวยว่าการถ่ายทอดผ่านฟรีทีวีก็จริง แต่ฟรีทีวีสามารถรับชมได้จากแพลตฟอร์มรับสัญญาณดาวเทียมระบบซีแบนด์ จึงทำให้คนดูบ้านเขารับสัญญาณที่แพร่ภาพบอลโลกจากบ้านเราได้
อาร์เอสจึงล็อกสัญญาณจานดาวเทียมระบบซีแบนด์ แต่หนนั้นอาร์เอสเจ้าของลิขสิทธิ์ลูกหนังโลก ผ่อนปรนแพลตฟอร์มที่ "เข้ารหัส" แพร่ภาพบอลโลกได้ รวมถึงทรูวิชั่นส์และเคเบิลทีวีทั่วไป
สำหรับฟุตบอลยูโร 2012 แกรมมี่ผู้ถือลิขสิทธิ์ได้ประกาศว่า ต้องรับชมผ่าน "กล่องจีเอ็มเอ็ม แซท" เท่านั้น
จานดำทุกแพลตฟอร์มดูไม่ได้ จานส้มไอพีเอ็ม จานเหลืองดีทีวี จานเขียวไทยแซทก็เช่นกัน แต่กล่องจีเอ็มเอ็ม แซท ใช้ได้กับทุกจานทุกสี
พูดง่ายๆ แกรมมี่ฉวยจังหวะบอลยูโร เปิดเกมรุกขายกล่องรับสัญญาณ ที่ตั้งเป้าไว้ 2 ล้านกล่อง
นี่คืออนาคตธุรกิจทีวีดาวเทียมของแกรมมี่ ที่ต้องการเป็นเจ้าของ "คอนเทนต์" และ "แพลตฟอร์ม"
ที่ผ่านมา ช่องบันเทิง 4-5 ช่องของแกรมมี่ ถูกเจ้าของจานดาวเทียม จับย้ายช่องไปมาตามอำเภอใจ บางแพลตฟอร์มยังเรียกเก็บเงินค่าบริหารช่องราคาหลักล้าน อันเป็นเหตุให้ "อากู๋" ลุกขึ้นมาทำกล่องรับสัญญาณขายเอง
ด้านปฏิกิริยาจากกลุ่มจานดำ จานทึบสีต่างๆ ดูสงบเสงี่ยม คู่กรณีแกรมมี่อย่างพีเอสไอ ก็บอกว่าให้ผู้บริโภคตัดสินเองว่า ใครถูกใครผิด ? เพราะพีเอสไอก็มีกล่องที่เข้ารหัสสัญญาณได้ แต่ก็ไม่เจรจาต่อรองหรือไปร้องทุกข์กับ กสทช.
ผิดกับทรูวิชั่นส์ รับไม่ได้ที่จะต้อง "จอดำ" เนื่องจากมันเป็นการถ่ายทอดผ่านฟรีทีวี ไม่ใช่ถ่ายทอดผ่านช่องแกรมมี่ ฉะนั้นช่อง 3 ช่อง 9 ที่แพร่ภาพผ่านทรูวิชั่นส์ ก็ต้องดำเนินไปตามปกติ ไม่มีการล็อกสัญญาณ
แม้จะมีการเจรจากันในนาทีสุดท้ายก่อนพิธีเปิดบอลยูโร แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ สมาชิกทรูวิชั่นส์เลยอดดูบอลยูโร หรือบางกลุ่มก็ดิ้นรนไปหาหนวดกุ้งหรือเสาก้างปลามาใช้แทนชั่วคราว
ในเว็บบอร์ด เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ จึงมีการพูดคุยเรื่องจอดำมากกว่าการแข่งขันฟุตบอลในสนาม จนแซวกันเล่นๆ ว่า ฟุตบอลคู่แรกในศึกยูโรคือ แกรมมี่ VS ทรูวิชั่นส์
ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่ใช้นามว่า "kyocifer" จึงอัพโหลดคลิปวิดีโอ "ยูโรจอดำ By Eak SummerSnow" ขึ้นยูทูบ ซึ่งเป็นเนื้อเพลงที่แต่งขึ้นใหม่ มีเนื้อหาล้อเลียนทีวีจอดำ
ขณะที่ พรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการบริษัทอาร์เอสฯ ได้แสดงความเห็นส่วนตัวผ่านทวิตเตอร์ว่า
- ถูกค่ะของฟรีไม่มีในโลก แต่เราก็ควรเล่นอยู่ในเกม กติกา เพื่อให้ทุกฝ่ายไม่เดือดร้อน เรื่องของคอนเทนต์ก็มีอยู่แค่ว่าคุณจะหารายได้หลักจากอะไร
- หากอยากหารายได้จากโฆษณาก็เปิดให้คนดูฟรีไม่ต้องเสียเงินเพื่อดูคอนเทนต์นั้นๆ จะได้มีคนดูเยอะๆ สปอนเซอร์ก็จะยอมจ่ายเงินโฆษณาในราคาที่สูง
- การสร้างเกม win-lose ในโลกปัจจุบันไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ ไม่มีใครโง่กว่าใคร เขาอาจจะยอมคุณก็เพราะไม่มีทางเลือก แต่ไม่มีวันชนะได้ในระยะยาว
- เกมที่จะชนะยาวๆ คือชนะใจผู้บริโภค เกมที่ถูกสร้างขึ้นมาแบบ win-lose (ฉันจะบีบทุกคนให้ยอมเดินในเกมของฉัน) สุดท้ายก็เป็นเกมที่ lose-lose ของทุกคน
- เรื่องที่เกิดขึ้นบอกตามตรงว่าเรารู้มานานแล้ว พยายามเตือนไปทุกทางที่ทำได้ว่าอย่าเดินเกมนี้ เดือดร้อนทุกฝ่าย สร้างมาตรฐานแย่ๆ ในอุตสาหกรรม
ก่อนหน้านั้น "เฮียฮ้อ" ก็ทวีตข้อความแสดงความเห็นผ่านทวิตเตอร์ว่า มันเป็นเกมปิดประตูตีแมว
เห็นมั้ยล่ะครับ สงครามลูกหนังทีวีดาวเทียมบ้านเรา สนุกกว่าการฟาดแข้งในสังเวียนยูโรเสียอีก !
...............................
(ยูโรจอดำ : คอลัมน์มองผ่านเลนส์คม : โดย...บรรณวัชร)