สสจ.พิจิตรเข้าดูแลสภาพจิตใจ"เคอิโงะ"
ม.นเรศวร พร้อมจัดอาจารย์สาขาภาษาญี่ปุ่น เป็นล่ามให้ ด.ช.เคอิโงะ เพื่อพบ"คัทซูมิ ซาโต" ที่วัดท่าหลวงจังหวัดพิจิตร
(18พ.ค.) ศ.ดร.สุจินต์ จินายน อธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) กล่าวว่า จากกรณีข่าวชาวพิจิตรห่วง“เคอิโงะ”ตามหาพ่อชาวญี่ ปุ่น ซึ่งแม่เสียชีวิตไปแล้ว ขณะนี้มีความคืบหน้าจากสถานทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทยว่า พบนายคัทซูมิแล้ว โดย ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร นายสมชัย หทยะตันติ ได้ติดต่อไปยังสถานทูตญี่ปุ่น เพื่อจะหาล่ามมาแปลภาษาญี่ปุ่นให้ ดช.เคอิโงะ ได้ฟัง
"มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาของรัฐในเขตภาคเหนือตอนล่าง มีภารกิจหลักที่สำคัญด้านการบริการวิชาการสู่ชุมชน โดยมีคณะมนุษยศาสตร์ที่เปิดหลักสูตรการเรียนการสอนสาขาวิชาภาษาตะวันออก ได้แก่ ภาษาจีน เกาหลี ญี่ปุ่น พม่า เวียดนาม สาขาวิชาภาษาตะวันตก ได้แก่ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส ซึ่งมีอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญชาวต่างประเทศที่เป็นเจ้าของภาษา มาทำหน้าที่สอนและวิจัยอย่างเป็นระบบ ทั้งหลักสูตรในระดับปริญญาตรี โท และเอก ที่สำคัญคณะมนุษยศาสตร์ได้จัดตั้งหน่วยการแปลไว้ด้วย" ศ.ดร.สุจินต์ กล่าว
สำหรับอาจารย์ที่จะเดินทางไปพบ ดร.เคอิโงะ เพื่อเป็นล่ามให้นั้นคือ Asst.Prof.Taiitsu Oba และ ดร.โสภา มะสึนาริ อาจารย์ประจำสาขาวิชาญี่ปุ่น ทั้งนี้กำหนดการเดินทางไปจังหวัดพิจิตร มหาวิทยาลัยจะได้ประสานงานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรต่อไป
พ่อ"เคอิโงะ"ยังไม่ติดต่อกลับมาขอคุยด้วย
นายสมชัย หทยะตันติ ผู้ว่าราชการจ.พิจิตร เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้จังหวัดยังไม่ได้รับการติดต่อจากสถานทูตญี่ปุ่น หรือจากนายคัทซุมิ ซาโต พ่อของ ด.ช.เคอิโงะ และจากการสอบถามไปยังป้าของด.ช.เคอิโงะก็ยังไม่ได้รับการติดต่อมาเช่นกัน ทั้งนี้สิ่งที่ทำได้คือให้นายคัทซูมิ ติดต่อกลับมาเท่านั้นว่า ต้องการจะพบหรือคุยกับด.ช.เคอิโงะ เมื่อใด เพราะส่วนอื่นได้เตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว อย่างไรก็ตามหากนายคัทซูมิ ไม่ติดต่อกลับมา จังหวัดก็จะช่วยดูแล ด.ช.เคอิโงะ ต่อไป
สสจ.พิจิตรเข้าดูแลสภาพจิตใจ"เคอิโงะ "
นายแพทย์พูลสิทธิ์ ศิติสาร นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมและป้องกันระดับ 9 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยนักจิตวิทยา ได้เข้าไปบำบัดฟื้นฟู ดูแล เยียวยา สภาพจิตใจ และสิ่งแวดล้อมของ ด.ช.เคอิโงะ ซาโต พร้อมมอบอุปกรณ์ชุดส่งเสริมพัฒนาการเด็กและยาสามัญประจำบ้านให้กับด.ช.เคอิโงะ
โนายแพทย์พูนสิทธิ์ กล่าวว่า จากการตรวจสภาพร่างกายของด.ช.เคอิโงะ พบว่ามีสภาพจิตใจที่ดีขึ้นยิ้มแย้มแจ่มใสร่าเริงตลอดเวลา ร่างกายสะอาด สมองดีกว่าคนปกติทั่วไป ไอคิวเกินหนึ่งร้อย การเจริญเติบโตของร่างกายเป็นปกติ แต่ขณะนี้เป็นห่วงเรื่องการปรับตัวเปลี่ยงแปลงของ ด.ช.เคิอิโงะ และการเข้ามากำกับดูแลจากหลายหน่วยงานที่ไม่ได้ประสานงานกันจะทำให้เด็กสับสน พักผ่อนไม่เพียงพอ
ด้านนายสุรเสน ทั่งทอง ผู้อำนวยการพื้นที่การศึกษาพิจิตรเขต 1 ได้เชิญนางปัทมา จตุพิศ ผู้เป็นป้า และด.ช.เคอิโงะ ซาโต มารับทราบวัตถุประสงค์ข้อระเบียบการสนับสนุนทางการศึกษาและระเบียบการจัดการใช้จ่ายเงิน โดยทางสำนักงานพื้นที่เขตการศึกษาพิจิตรเขต 1 จะสนับสนุนอุปกรณ์การเรียน ค่าเล่าเรียน ชุดแบบเรียนอาหารกลางวัน ค่ากิจกรรมต่างๆทุกอย่างจนถึงชั้นระดับปริญาตรีเป็นขั้นต่ำ
ส่วนบัญชีเงินที่ได้รับจากการบริจาคเพื่อการศึกษานั้นทางคณะกรรมการรวบรวมและจะแบ่งเป็น 3 บัญชีโดยมีคณะกรรมการและผู้ปกครองเป็นผู้ดูแล ประกอบด้วย 1.บัญชีเพื่อการศึกษา 2.บัญชีค่าครองชีพ 3.บัญชีเพื่อส่วนตัวเมื่อรู้นิติภาวะ (อายุ 20 ปี) นอกจากนี้หากเงินดังกล่าวไม่เพียงพอต่อการศึกษาทางพื้นที่เขตการศึกษาพิจิตรเขต 1 จะให้กู้ยืมจากโครงการกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)
เปิดเรียนวันแรก“เคอิโงะ”ร่าเริงหายป่วยแต่ยังคิดถึงพ่อ
วันนี้เป็นวันแรกในการเปิดเทอมใหม่ของนักเรียนทุกโรงเรียนใน จ.พิจิตร และที่โรงเรียนอนุบาลเมือง (ท่าหลวงสงเคราะห์) อันเป็นสภานศึกษาของด.ช.เคอิโงะ ซาโต ก็เช่นกัน ซึ่งได้ไปโรงเรียนเป็นวันแรก โดยได้เข้าเรียนในชั้น ป.4/1 มีนักเรียนทั้งชายและหญิง 25 คน มีครูพัชรี แทนปั้น เป็นครูประจำชั้น โดยด.ช.เคอิโงะ ก็ไม่ได้แสดงอาการ เศร้าโศรก หรือเงียบเหงาแต่อย่างใด ร่าเริงแจ่มใสตลอดเวลา และได้ออกแนะนำตัวหน้าห้องเรียนต่อหน้าเพื่อน ๆ ภายในห้องเรียน
ครูพัชรี แทนปั้น เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันแรกในการเปิดเทอมใหม่ และภายในห้องก็ยังไม่ได้เรียนกันเท่าไหร่ จะเป็นการปรับสภาพตัวนักเรียน แนะนำตัวนักเรียนเสียส่วนใหญ่ สำหรับด.ช.เคอิโงะ นั้น เป็นเด็กเรียบร้อย ร่าเริง เข้ากับเพื่อน ๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเพื่อน ๆ เองก็ไม่มีใครล้อหรือกล่าวถึงเรื่องของด.ช.เคอิโงะ กันเลย ในวันแรกนี้รู้สึกว่าด.ช.เคอิโงะจะเก่ง กล้าแสดงออก เมื่อให้แนะนำตัวก็จะออกหน้าห้องเป็นคนแรก และเมื่อให้มีการแสดงความคิดเห็นในเรื่องอะไรก็จะยกมือเสนอก่อนเพื่อน ๆ ทุกครั้ง
ทางด้าน ด.ช.เคอิโงะ ซาโต กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้มาโรงเรียนในวันแรก สนุกกับเพื่อน ๆ ไม่ค่อยเหงา เหมือนกับเมื่อ 2-3 วัน ก่อนที่ผ่านมา แต่ก็ยังคิดถึงพ่อบ้าง ในส่วนเรื่องที่ไม่สบายนั้นตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว หายดีแล้ว ซึ่งก่อนมาโรงเรียนก็ไปขายอาหารปลาที่วัดท่าหลวงก่อนแล้วค่อยมาโรงเรียน สำหรับเงินที่ขายของจะเก็บเข้าหมูออมสินวันละ 30 บาท
ขณะเดียวกัน นายทอน ยอดเยาว์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเมือง (ท่าหลวงสงเคราะห์)ได้เข้าไปเยี่ยมด.ช.เคอิโงะในห้องเรียน ป.4/1 เช่นกัน โดยกล่าวให้กำลังใจด.ช.เคอิโงะในการติดตามพบพ่อ นอกจากนี้ ยังเตือนสติให้ด.ช.เคอิโงะมีความตั้งใจในการเล่าเรียนศึกษา ซึ่งไม่นานพ่อก็จะต้องติดต่อมาหา