ไข่ต้มแก้บนทำพิษหามนร.ส่งรพ.กว่า80ราย
หามนักเรียนศึกษาสงเคราะห์ เข้าโรงพยาบาลโกลาหลกว่า 80 ราย 10 รายอาการหนัก ความดันต่ำเฉียบพลัน สสจ.สั่งสอบสวนโรคเก็บตัวอย่างอาหารหาสาเหตุ อาการอาหารเป็นพิษ คาดไข่ต้มแก้บนที่มีคนบริจาคเน่าเสีย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 55 ศูนย์กู้ชีพเวียงพิงค์ โรงพยาบาลนครพิงค์ จ.เชียงใหม่ รับแจ้งเด็กนักเรียนในโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ มีอาการท้องเสียรุนแรงนับร้อยคน จึงส่งทีมแพทย์ฉุกเฉินพร้อมรถกู้ชีพเข้าให้การช่วยเหลือ พบนักเรียนชายหญิงจำนวนมากนอนอยู่ในเรือนพยาบาลในสภาพอ่อนแรงและส่วนใหญ่ ยังมีอาการเวียนหัว คลื่นไส้ มีไข้สูง โดยเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลนครพิงค์ ทั้งหมด 60 คน โรงพยาบาลค่ายดารารัศมี โรงพยาบาลดอยสะเก็ด และโรงพยาบาลสันทราย อีก 15 คน
สำหรับนักเรียนที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลนครพิงค์ ทั้ง 60 คน ในจำนวนนี้มีอาการหนักต้องนอน รักษาตัวที่โรงพยาบาล 44 คน โดยมีอาการท้องเสียรุนแรง คลื่นไส้ มี 10 คน ที่อาการหนักเนื่องจาก ความดันลดต่ำอย่างรวดเร็ว แพทย์ต้องให้ยา น้ำเกลือและต้องคอยดูอาการอย่างใกล้ชิด นอกจากนักเรียนที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ยังมีนักเรียนอีกราว 20 คน ที่นอนพักดูอาการในเรือนพยาบาลของโรงเรียน ซึ่งทีมแพทย์ฉุกเฉินได้เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดเตรียมรถกู้ชีพ สำหรับนำตัวส่งโรงพยาบาลทันทีหากอาการทรุดหนัก
นางแสงทอง หัตถิรางกูร รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ช่วงเย็น วันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา ทางโรงเรียนได้ประกอบอาหารเป็นแกงเผ็ดลูกชิ้นใส่มะเขือ และไข่ต้ม เป็นอาหารมื้อเย็นให้กับเด็กทั้งโรงเรียน ตั้งแต่ ป.1 - ม.6 ประมาณ 800 คน โดยแกงเผ็ดทางโรงเรียนทำขึ้นเอง ส่วนไข่ต้มเป็นไข่แก้บนที่ได้รับบริจาคจากผู้ใจบุญรายหนึ่งใน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ จำนวน 1,300 ฟอง
หลังจากนักเรียนทานอาหารมื้อเย็น ปรากฏว่า เวลาประมาณ 23.00 น. มีเด็กนักเรียนชายหญิง 5 คน มีอาการท้องเสียรุนแรง เพื่อน ๆ ช่วยกันนำส่งเรือนพยาบาล หลังจากนั้นครูพยาบาลได้ให้ยาและเกลือแร่กินแต่อาการไม่ดีขึ้น ขณะเดียวกันได้มีเด็กนักเรียนทยอยท้องเสียและมีอาการคลื่นไส้อาเจียนเข้ามาที่เรือนพยาบาลจนถึงช่วงเช้า เมื่อครูพยาบาลเห็นว่าจำนวนนักเรียนที่มามีจำนวนมาก จึงแจ้งศูนย์กู้ชีพเวียงพิงค์เข้ามาให้การช่วยเหลือ
สำหรับสาเหตุของอาการท้องเสียไม่ทราบว่ามาจากแกงเผ็ดหรือไข่ต้ม แต่ที่ผ่านมาทางโรงเรียนทำแกงเผ็ดเลี้ยงอาหารเด็กนักเรียนมาหลายครั้ง ไม่เคยมีอาการท้องเสียมาก่อน ส่วนจะเป็นไข่ต้มหรือไม่ต้องรอผลการตรวจสอบอีกครั้ง
ทพ.ดร.สุรสิงห์ วิศรุตรัตน์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวหลังเข้าอำนวยการช่วยเหลือปฐมพยาบาลเด็กนักเรียนว่า สำหรับเด็กนักเรียนที่ป่วยทั้งหมดส่วนใหญ่อายุระหว่าง 13-15 ปี มีทั้งชายและหญิง ในส่วนที่ต้องนอนโรงพยาบาลและที่อาการหนักแพทย์ได้ให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และคาดว่าอาการจะเริ่มดีขึ้นตามลำดับ ส่วนการสอบสวนโรคเบื้องต้นได้สั่งเก็บตัวอย่างไข่ต้มที่เหลืออีกหลายร้อยฟองและกระทิสำเร็จรูปที่ใช้ประกอบแกงเผ็ดไปตรวจสอบว่ามีสารอันตรายปะปนอยู่หรือไม่ ซึ่งอาจเป็นไปได้ทั้งสองอย่างที่จะเสียหรือหมดอายุจนทำให้เกิดอาการท้องเสียรุนแรง นอกจากนี้จะเรียกผู้บริจาคมาสอบสวนว่าไข่ไก่ที่นำไปต้มนำมาจากไหนและต้มแล้วไปเซ่นไหว้แก้บนนานแค่ไหน
โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สั่งให้ทีมแพทย์ฉุกเฉินเข้าไปติดตามอาการเด็กคนอื่น ๆ ในเรือนพยาบาล พร้อมให้โรงพยาบาลใกล้เคียงจัดเตรียมเตียงพร้อมรับผู้ป่วยฉุกเฉินจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย