'รามโรม'ยอดเขาแห่งสายหมอก-ดอกไม้ | คมชัดลึก

               ยอดเขารามโรม ชื่อนี้อาจไม่คุ้นหูนักเดินทาง แต่สำหรับผมแล้ว ที่นี่เป็นบ้านเกิด เขารามโรมเป็นภูเขาที่สูงรองจากเขาเหมน อยู่ในเขตพื้นที่ อุทยานแห่งชาติน้ำตกโยง ซึ่งครอบคลุมบางพื้นที่ของอ.ทุ่งสง อ.นาบอน อ.จันดี อ.ลานสกา และอ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช

                เขารามโรมมีพื้นที่ติดกับอ.ร่อนพิบูลย์การเดินทางขึ้นยอดเขารามโรมจึงเริ่มต้นที่ทางด้านอ.ร่อนพิบูลย์ และใครที่นับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายมาอ.ร่อนพิบูลย์ต้องไม่พลาดไปกราบไหว้ขอพร "พระแม่เศรษฐี" ที่วัดร่อนนา ที่เป็นที่นับถือของชาวอ.ร่อนพิบูลย์ ก่อนเดินทางขึ้นยอดเขารามโรม

                การเดินทางขึ้นยอดเขารามโรมก็ไม่ยากเพราะมีถนนขึ้นถึงยอดเขา แต่ต้องเป็นรถออฟโรดเท่านั้นนะครับ และผู้ขับขี่ต้องมีความชำนาญ เพราะเส้นทางชัน ถ้าไม่สามารถขับขึ้นเองได้หรือไม่มีรถก็สามารถติดต่อที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกโยง หรือหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติน้ำตกโยงที่ ตย.3 (เขารามโรม) ที่อยู่ระหว่างทางขึ้นยอดเขารามโรมได้เลย ระหว่างทางขึ้นเขายังได้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านที่นี่ด้วย

                 ชาวบ้านที่นี้ทำสวนยางพารา สวนผลไม้ และสวนหมากเป็นอาชีพหลัก และอาชีพรองคงจะเป็นการทำไม้กวาดดอกหญ้าที่มีคนเฒ่าคนแก่ทำกันยามว่าง และดอกหญ้าที่นำมาทำไม้กวาดก็หาได้จากริมถนนขึ้นยอดเขารามโรมนี่เอง แต่การทำไม้กวาดดอกหญ้าไม่ได้ทำกันทั้งปีจะทำกันช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนกรกฎาคมเพราะเป็นช่วงที่ดอกอ้อบาน หรือดอกซั้งตามที่ชาวบ้านเรียกกัน ชาวบ้านจะไปเก็บดอกอ้อนำมาตากแดดและตีให้ดอกหญ้าเล็กๆ หลุดออกเหลือแต่ก้านดอก หลังจากนั้นนำมาผูกด้วยหวายที่ไปหามาจากในป่า ก็จะได้ไม้กวาดที่เรียกกันว่าไม้กวาดดอกหญ้าหรือดอกซั้งตามที่ชาวบ้านเรียกกันครับ

                ระหว่างทางขึ้นยอดเขารามโรม มีน้ำตกให้แวะเที่ยวชมถึงสองแห่ง คือ น้ำตกวังศิลารักษ์ และ น้ำตกคูหาสวรรค์ โดยน้ำตกวังศิลารักษ์จะอยู่ตอนล่างติดถนน ชนิดรถเข้าถึง ไม่ต้องเดิน เป็นน้ำตกที่ไหลมาจากน้ำตกคูหาสวรรค์ ตัวน้ำตกไม่ใหญ่นักแต่มีวังน้ำขนาดใหญ่เหมาะแก่การเล่นน้ำ จึงมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเที่ยวตลอด นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารเครื่องดื่มและที่นั่งพักผ่อน ยิ่งถ้ามาช่วงผลไม้ออกจะได้เดินเยี่ยมชมสวนผลไม้ของชาวบ้านที่อยู่ใกล้น้ำตกด้วยครับ และที่นี้ยังมีเขื่อนขนาดเล็กสร้างเพื่อต่อท่อส่งน้ำเข้าไปใช้ในหมู่บ้านตอนล่างครับ

                ส่วนน้ำตกคูหาสวรรค์เป็นน้ำตกตอนบน ต้องนำรถกระบะมาจอดทิ้งไว้แล้วเดินเท้าอีกประมาณสามร้อยเมตร หรือนั่งรถมอเตอร์ไซค์เข้าไปก็ได้ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีถึงสิบห้าชั้นเลยทีเดียว เป็นน้ำตกที่ไหลมาจากยอดเขารามโรม จุดเด่นของน้ำตกคูหาสวรรค์ คือชั้นที่สิบห้ามีน้ำตกลงมาสองชั้นสูงประมาณสิบเมตรก่อนตกลงมาสู่ด้านล่าง ถ้าใครอยากไปดูความสวยงามของน้ำตกคูหาสวรรค์ชั้นนี้ ต้องออกแรงปีนป่ายและต้องเหนื่อยกันหน่อยนะครับเพราะระหว่างทางชั้นหนึ่งถึงชั้นที่สิบห้าทั้งสูงทั้งชันเลยทีเดียว แต่สิ่งที่สวยงามมีไว้ให้ผู้คนที่มีหัวใจรักการเดินทาง...ก้าวเดินไปหามัน 

                 ก่อนถึงยอดเขารามโรมจะต้องผ่านหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ตย.3 (เขารามโรม) ถ้านักท่องเที่ยวสนใจดูนกก็สามารถลงที่หน่วยและเดินดูนกขึ้นยอดเขารามโรมระยะทางประมาณสามกิโลเมตรครับ นกที่นี่มีหลายชนิด โดยเฉพาะนกโพระดกคางแดง นกปรอดเหลืองหัวจุก นกเขียวก้านตองปีกสีฟ้า นกเขียวก้านตอง นกเขียวคราม นกกางเขนดง และนกที่น่าสนใจก็คงจะเป็นนกเงือกหัวหงอกถ้าใครดวงดีก็คงได้เจอ หรือบางทีได้ยินแค่เสียงที่อยู่ไกลๆ

                นอกจากนี้ รายทางขึ้นสู่ยอดเขารามโรม ยังมี ต้นมหาสดำ เป็นเฟิร์นต้น เป็นไม้ดึกดำบรรพ์ที่มีมาตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์ยังไม่สูญพันธุ์ และอยู่ยงคงกระพันมาถึงทุกวันนี้ ทั้งๆ ที่ ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ไปจากโลกแล้ว

                ที่ยอดเขารามโรมยังมีบ้านพักให้นักท่องเที่ยวพักค้างคืน ราคาก็ไม่แพงแค่  500 บาทต่อคืน หรือถ้านักท่องเที่ยวสนใจกางเต็นท์ ก็มีลานกางเต็นท์ให้เลือกมุมตามใจชอบ บริเวณยอดเขายังเป็นที่ตั้งสถานีรับส่งสัญญาณโทรทัศน์ช่อง 3, 5, 7 และ 9  อีกด้วยครับ ที่สถานีรับส่งสัญญาณโทรทัศน์นี่เอง เราจะได้เห็นผีเสื้อกลางคืนที่มีขนาดใหญ่สีสันแปลกๆ บินมาตอมแสงไฟ เป็นอีกสีสันยามค่ำคืน

                 รามโรม ไม่ได้มีดีแค่น้ำตกกับการดูนกเท่านั้นครับ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบดอกไม้หรือกล้วยไม้ป่าสวยๆ ที่นี่ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้เดินศึกษา  ถ่ายรูปดอกไม้ที่มีอยู่หลายชนิดครับ โดยเฉพาะเอื้องสายเสริฐ ต้นวิมานเมฆที่ออกดอกสีเหลืองขาวแล้วยังหอมมากด้วยครับ และดอกไข่มุก ตามที่ชาวบ้านเรียกกัน มีอยู่ทั่วไป แต่มีอยู่ต้นหนึ่งอยู่บนจุดสูงสุดของยอดเขารามโรมเลยทีเดียว ใครไปเป็นต้องเห็น เพราะอยู่หน้าสถานีรับส่งสัญญาณโทรทัศน์ช่อง 7

                กล้วยไม้ขึ้นชื่ออีกชนิดของยอดเขารามโรมก็คือ รองเท้านารีคางกบใต้ แต่คงต้องเดินไปตาม เส้นทางเดินป่าที่ใช้เวลาไป-กลับ 3 วัน 2 คืน แต่ระหว่างทางยังมีโอกาสได้เห็นกล้วยไม้ป่า รวมถึงนกต่างๆ ตลอดทาง โชคดีก็อาจจะได้เจอเลียงผา สัตว์ป่าคุ้มครอง 1 ใน 15 ชนิดของไทย ไม่เจอตัวก็ได้เห็นร่องรอยแน่ๆ 

                อีกหนึ่งไฮไลท์ของเขารามโรมก็คือ ทะเลหมอก ที่นี่มีสายหมอกให้ชมตลอดทั้งปีเลยก็ว่าได้ ถ้านักท่องเที่ยวมาที่นี่แล้วไม่ได้ชมพระอาทิตย์ตกดิน ทะเลหมอก และนอนดูดาวบนดินคงมาไม่ถึงยอดเขารามโรม

                นั่งดูสายหมอกบางๆ บวกกับดาวบนดินในตอนใกล้ค่ำที่เริ่มมีดาวสีต่างๆ ทยอยแข่งกันอวดสีสันที่สวยงาม

                จากยอดเขารามโรมในวันที่อากาศสดใส สามารถมองเห็นยอดเขาเหมน ที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเดียวกัน แล้วยังมองเห็นยอดเขาหลวงยอดเขาที่สูงที่สุดในภาคใต้ที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาหลวง และยังมองเห็นเหลมตะลุมพุกที่อยู่อำเภอปากพนังได้อีกด้วยครับ

                วีถีชีวิต น้ำตก สายหมอกและดอกไม้ ณ ยอดเขารามโรมยังรอผู้มีหัวใจรักการเดินทาง ลองมาสัมผัส แล้วคุณจะหลงรักขุนเขาลูกนี้ไม่แพ้ที่ไหน

               ติดต่อเพิ่มเติม : อุทยานแห่งชาติน้ำตกโยง โทร. 0-7535-4967 

               .................................................
(รามโรม ยอดเขาแห่งสายหมอกและดอกไม้ : คอลัมน์ชวนเที่ยว : โดย…..เรื่อง/ภาพ : วัลย์  พันขุนเขา)