'ขนมปังโฮลวีท'เพื่อคนรักสุขภาพ | คมชัดลึก

                          ข้าวสาลีพันธุ์ฝาง 60 และข้าวเหนียวดำลืมผัว ซึ่งเป็นผลงานวิจัยเด่นของกรมการข้าว แม้จะได้ชื่อว่าเป็นข้าวพันธุ์ดี ขายได้ราคาและเป็นที่ต้องการของตลาดสูง แต่กรมการข้าว โดยศูนย์วิจัยข้าวแพร่ได้นำผลผลิตข้าวทั้งสองสายพันธุ์มาแปรรูปเพิ่มมูลค่าเป็นผลิตภัณฑ์เด่นในรูปของขนมปังโฮลวีทเพื่อสุขภาพ สำหรับคนรักสุขภาพโดยเฉพาะ

                          "ข้าวสาลีคือมีคลอโรฟิลล์สูงถึง 70% เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตและสร้างเม็ดเลือดแดง มีสารซาโปนิน มีฤทธิ์กำจัดสารพิษออกจากร่างกายในระดับเซลล์และช่วยชะลอความแก่ ส่วนข้าวเหนียวดำลืมผัว มีสารแกมมา-โอไรซานอล ที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลและมีโอเมก้า 3 ที่ช่วยบำรุงสมองหรือป้องกันภาวะเสื่อมของสมอง"

                          ชัยฤทธิ์ ดำรงเกียรติ อธิบดีกรมการข้าวเผยคุณสมบัติเด่นของข้าวทั้งสองสายพันธุ์ระหว่างนำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ดูความก้าวหน้างานวิจัยข้าว ณ ศูนย์วิจัยข้าวแม่ฮ่องสอน อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งปัจจุบันกรมได้ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกข้าวสาลีในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน และน่าน รวมพื้นที่ประมาณ 200-300 ไร่ โดยใช้พันธุ์ที่กรมการข้าวแนะนำ คือ พันธุ์ฝาง 60 ซึ่งเป็น 1 ใน 6 สายพันธุ์ที่ได้รับการรับรองพันธุ์จากคณะกรรมการวิจัยและพัฒนา กรมวิชาการเกษตรเรียบร้อยแล้ว 

                          ขณะเดียวกันกรมการข้าวยังได้มีการทดลองนำข้าวสายพันธุ์ดังกล่าวมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่า โดยศูนย์วิจัยข้าวแพร่ได้ทดลองแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ขนมปังโฮลวีทเพื่อสุขภาพ ปรากฏว่าได้ผลิตภัณฑ์ออกมาดีมีคุณภาพและเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก และในอนาคตก็จะนำไปส่งเสริมการแปรรูปเพิ่มมูลค่าแก่กลุ่มเกษตรกรต่อไป

                          ส่วนกระบวนการผลิตขนมปังโฮลวีท สายหยุด สิทธิหล่อ พนักงานประจำห้องทดลองศูนย์วิจัยข้าวแพร่ ต.แม่คำมี อ.เมือง จ.แพร่ เผยว่า ถ้าทำจาก ข้าวสาลีกล้อง จะมีส่วนผสมได้แก่ โฮลวีท 350 กรัม แป้งสาลี 650 กรัม น้ำตาลทราย 150 กรัมหรือตามใจชอบ นมผง 50 กรัม เกลือป่น 10 กรัม ยีสต์ 10 กรัม น้ำมันรำข้าว 180 ซีซีและงาขาวคั่วหรืองาดำคั่ว

                          ส่วน ข้าวเหนียวดำลืมผัว ประกอบด้วย ข้าวเหนียวดำเปียก 500 กรัม โดยข้าวเหนียวดำ 200 กรัมต่อน้ำ 650 ซีซี เคี่ยวให้แป้งสุก แป้งสาลี 1,000 กรัม น้ำตาลทราย 150 กรัมหรือตามใจชอบ เกลือป่น 9.8 กรัม ยีสต์ 11.2 กรัม นมผง 50 กรัม น้ำมันรำข้าว 180 ซีซี และงาขาวคั่วหรืองาดำคั่วอย่างใดอย่างหนึ่ง

                          "สำหรับอุปกรณ์การทำก็ไม่มีอะไรมาก มีเพียงแค่เตาอบ เครื่องตีแป้ง พิมพ์ขนมปัง ถาดอบ ไม้คลึง ตะแกรงวางขนมปัง มีดตัด เนยทาพิมพ์ ตาชั่งหรือถ้วยตวงแล้วก็ไม้พาย แค่นี้เอง" สายหยุดเผย พร้อมแจงรายละเอียดวิธีทำ

                          โดยเริ่มจากนำส่วนผสมทุกอย่าง ยกเว้นน้ำมันรำข้าวของแต่ละชนิดขนมปังที่ต้องการทำแล้วเทลงไปในเครื่องตีแป้ง ในขณะที่เครื่องกำลังตีแป้งก็ค่อยๆ เทน้ำมันพืชลงไปเพื่อไม่ให้แป้งจับตัวเป็นก้อน โดยตีจนแป้งผสมเป็นเนื้อเดียวกันประมาณ 30 นาที ทดสอบโดยแผ่แป้งออก สังเกตจากแป้งถ้าเป็นก้อนเนื้อเดียวกันแผ่นแป้งจะไม่ขาด

                          จากนั้นตัดแป้งก้อนโต น้ำหนักก้อนละ 350 กรัม ซึ่งเป็นแป้งที่ได้จากการผสมหรือก้อนเล็กขนาด 30 กรัมเอามาปั้นเป็นก้อนกลมๆ วางบนถาดที่ทาด้วยไขมันหรือเนย แล้วพักไว้ประมาณ 30 นาที ก่อนนำมาไล่ลม โดยใช้ไม้คลึงรีดให้เป็นแผ่นกลมรีแล้วม้วนเป็นรูปตัวหนอนโรยด้วยงาขาวหรืองาดำที่คั่วเสร็จเรียบร้อยแล้ว

                          "จากนั้นก็วางก้อนโดในพิมพ์ขนมปังที่ทาไขมันพักไว้ประมาณ 30-45 นาที จนโดขึ้นเป็น 2 เท่า จึงนำเข้าเตาอบโดยอบที่ความร้อน 180 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 30 นาที จึงนำออกจากตู้อบมาวางพักไว้ให้เย็น ก่อนตัดและบรรจุหีบห่อ ทั้งนี้ ก็เพื่อไม่ให้เกิดไอน้ำเกาะข้าวภาชนะบรรจุนั่นเอง" สายหยุดกล่าวย้ำ

                          ขนมปังโฮลวีท นับเป็นอีกผลิตภัณฑ์เด่นของศูนย์วิจัยข้าวแพร่ในการนำข้าวพันธุ์ดีมาเพิ่มมูลค่า หวังให้เป็นอีกทางเลือกของเกษตรกรในอนาคต สนใจผลิตภัณฑ์และวิธีการทำคิดต่อศูนย์วิจัยข้าวแพร่ ต.แม่คำมี อ.เมือง จ.แพร่ โทร.0-5464-6033-5 ในวันและเวลาราชการ

 

 

--------------------

('ขนมปังโฮลวีท' เพื่อคนรักสุขภาพ ผลิตภัณฑ์เด่นจากสองข้าวพันธุ์ดี : โดย...สุรัตน์ อัตตะ)