
เลี้ยง'ไส้เดือน'คอนโดฯต่อยอดผลิตปุ๋ย
เลี้ยงไส้เดือนระบบคอนโดฯ ทำศูนย์เรียนรู้ต่อยอดผลิตปุ๋ย : โดย...ดลมนัส กาเจ
ช่วงกระแสการเลี้ยงไส้เดือนเพื่อผลิตปุ๋ยและอาหารสัตว์กำลังมาแรงเมื่อกว่า 10 ปีก่อน ทำให้มีผู้ที่สนใจเลี้ยงไส้เดือนจำนวนมาก แต่เวลาผ่านไปเพียงไม่นานนัก มีผู้เลี้ยงไส้เดือนจำนวนไม่น้อยที่ต้องเลิกกันไป เนื่องจากประสบปัญหาด้านการตลาด แต่สำหรับ "ธีธัช บำรุงทรัพย์" เจ้าของ "ธีธัชฟาร์ม" ในหมู่บ้านทรัพย์สมบูรณ์ ซ.ประชาอุทิศ 91 ถ.ประชาอุทิศ แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ที่ใช้วิธีเลี้ยงไส้เดือนระบบคอนโด เอื้อสำหรับคนมีพื้นที่น้อย สามารถอยู่ได้ถึงวันนี้ และปัจจุบัน "ธีธัชฟาร์ม" กลายเป็นศูนย์เรียนในการเลี้ยงไส้เดือนครบวงจร นับตั้งแต่เริ่มการเลี้ยงจนถึงการแปรรูปทำเป็นปุ๋ยอินทรีย์ บรรจุถุงและน้ำหมักชีวภาพบรรจุขวด จนสามารถสร้างรายได้ให้ครอบครัวได้เป็นอย่างดี
ธีธัช บอกว่า เดิมทีมีอาชีพเป็นวิศวกรโรงงานของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง แต่ใจชอบอาชีพด้านการเกษตร จึงหาช่องทางเพื่อศึกษาว่าควรจะทำอะไรให้เป็นงานอดิเรก โดยไม่ต้องใช้พื้นที่มากนัก ในที่สุดตัดสินใจจะเลี้ยงไส้เดือน จึงไปฝึกอบรมการเลี้ยงไส้เดือนที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตั้งใจว่าจะทำเป็นอาชีพเสริม เพราะมองว่าการเลี้ยงไส้เดือนสามารถที่จะขายสายพันธุ์เพื่อจำหน่ายแล้ว ยังสามารถผลิตมูลไส้เดือนทำเป็นปุ๋ยอินทรีย์ และผลิตน้ำหมักชีวภาพได้อีกด้วย จึงนำพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ไส้เดือนพันธุ์ไทเกอร์ หรือลายเสือสำหรับทำเป็นอาหารสัตว์ และไส้เดือนพันธุ์แอฟริกันไนท์ครอเลอร์ ซึ่งเป็นไส้เดือนเพื่อนำมูลทำเป็นปุ๋ย และน้ำหมักชีวภาพอย่างละ 8 ตัว มาถึงวันนี้ขยายพันธุ์นับจำนวนไม่ถ้วน
หลังจากที่เลี้ยงได้ระยะหนึ่งเป็นช่วงจังหวะที่บริษัทที่ทำงานเปิดโอกาสให้พนักงานเออร์ลี่ รีไทร์ จึงตัดสินใจร่วมโครงการเพราะรู้สึกอิ่มกับงานที่ทำอยู่ และหันมาเลี้ยงไส้เดือนอย่างจริงจัง โดยอาศัยบริเวณรอบบ้านเป็นที่เลี้ยง นอกจากนั้นได้ดัดแปลงวิธีเลี้ยงจากท่อซีเมนต์มาทำเป็นกระบะพลาสติกทำลิ้นชัก เรียงซ้อนกันคล้ายตู้เอกสาร โดยแต่ละชุดมี 4 ชั้น สามารถเลี้ยงไส้เดือนได้ 3,000 ตัว นอกจากนี้ยังเลี้ยงในกะละมังพลาสติก ส่วนในท่อซีเมนต์ก็ยังเลี้ยงเหมือนเดิม
"ตอนนี้ผมเลี้ยงไส้เดือนครบวงจร เลี้ยงไว้เพื่อขยายพันธุ์ โดยเฉลี่ยราคาตกที่กก.ละ 800-1,200 บาท เพราะไส้เดือนที่เลี้ยงไว้จะขยายพันธุ์เร็วมาก คือเลี้ยง 45 ขยายได้ถึง 10 เท่า แต่ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การผลิตปุ๋ยมูลไส้เดือน โดยไส้เดือนเลี้ยงไว้ 1 ท่อซีเมนต์เลี้ยงได้ 3 เดือนจะได้ปุ๋ยมูลไส้เดือน 10 กก.นำไปบรรจุถึงละ 1 กก.ขาย กก.ละ 50 บาท และผลิตน้ำหมักชีวภาพไส้เดือนขายลิตรละ 50 บาท นอกจากนี้ผมเปิดฟาร์มทำเป็นศูนย์เรียนรู้สำหรับผู้ที่สนใจจะเลี้ยงไส้เดือนสอนฟรีครับ ตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงการแปรรูป เมื่อเรียนจบสนใจจะเลี้ยงไส้เดือนจะคิดค่าอุปกรณ์เลี้ยงระบบคอนโด 1 ชุด พร้อมบ้านหรืออาหารและพ่อพันธุ์แม่พันธุ์อีก 3,000 ตัวคิดเพียง 2,500 บาทเท่านั้น" ธีธัช กล่าว
สำหรับวิธีการเลี้ยงไส้เดือนนั้น ธีธัช บอกว่า เริ่มจากสร้างบ่อหมัก จากนั้นสร้างบ้านไส้เดือนคือนำมูลวัวในอัตรา 1 ส่วน และเศษขยะที่เป็นเปลือกผลไม้ พืชผักอะไรก็ได้ยกเว้นเปลือกสับปะรดเนื่องจากมีรสเปรี้ยว ผสมกับเศษขยะแห้งจำพวกใบไม้ ขุยมะพร้าว ให้ได้ 1 ส่วน มาคลุกแล้วหมัก 1 เดือน ระหว่างนั้นให้รดน้ำพอชุ่มชื่น เมื่อได้แล้วใส่ในภาชนะที่จะเลี้ยงไม่ว่าจะเป็นในท่อซีเมนต์ กะละมังพลาสติกหรือกระบะพลาสติกสำหรับระบบคอนโดแล้วปล่อยพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ไส้เดือนลงไป เมื่อครบ 3 เดือนจะเห็นปริมาณไส้เดือนหนาแน่นให้แยกไปเลี้ยงในที่อื่น
ส่วนการทำปุ๋ยมูลไส้เดือนนั้น หลังจากที่เลี้ยงครบ 3 เดือน จะใช้วิธีแกล้งไส้เดือน คืองดให้น้ำ ทำให้ไส้เดือนขับเมือกออกมา ผสมกับมูลไส้เดือนที่กองบนผิวพื้นที่ เป็นมีลักษณะกองเตี้ยๆ มีเม็ดเป็นท่อนสั้นๆ นำมาตากแห้งทำเป็นปุ๋ยได้ขายในราคา กก.ละ 50 บาท หากต้องการทำเป็นน้ำหมักชีวภาพให้เอามูลแช่น้ำ 1 คืนให้ขับเมือกและมูลมาผสมน้ำแล้วกรองบรรจุขวดสามารถขายได้ลิตรละ 50 บาท
สนใจเรียนรู้การเลี้ยงไส้เดือนเพื่อใช้ในธุรกิจ ปรึกษาได้ที่ธีธัชฟาร์ม เบอร์โทร.08-9827-2715
---------------------
(เลี้ยงไส้เดือนระบบคอนโดฯ ทำศูนย์เรียนรู้ต่อยอดผลิตปุ๋ย : โดย...ดลมนัส กาเจ)