ไลฟ์สไตล์

ศิลป์แห่งแผ่นดิน : นักกลอนและกวี

ศิลป์แห่งแผ่นดิน : นักกลอนและกวี

17 มี.ค. 2556

ศิลป์แห่งแผ่นดิน : นักกลอนและกวี : โดย...ศักดิ์สิริ มีสมสืบ

 

                            วันหนึ่งครูภาษาไทยท่านหนึ่ง แห่งโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ถามประโยคหนึ่งว่า “นักกลอน” และ “กวี” ต่างกันอย่างไร

                            ดูเหมือนท่านถามเล่นๆ ไม่จริงจังต่อประเด็นที่ถาม ผมก็เลยตอบไปเล่นๆ ว่า กวีเป็นนักกลอน แต่นักกลอนอาจไม่เป็นกวี

                            นั่นทำให้ครูอีกคนถามว่า “บทกลอน และกวี ต่างกันอย่างไร” ตอนนั้นผมหัวเราะแหะๆ แต่ตอนนี้คิดตัวอย่างขึ้นมาได้

 

                                                        “คารวะครูกลอนสุนทรภู่  บรมครูผู้ยิ่งใหญ่แห่งสยาม

                                                        ชื่อเสียงเลื่องลือระบือนาม  ทุกเขตคามรู้จักดีกวีไทย

                                                        ยูเนสโกการันตีกวีโลก  ธงไทยโบกเกียรติยศปรากฏไสว

                                                        ชนทั่วหล้ายกย่องก้องเกริกไกร  เราภูมิใจสุนทรภู่ครูกวี”

 

                            ที่ยกตัวอย่างมานี่แหละ “บทกลอน” ชัดๆ ไม่ใช่บทกวีแน่ๆ แต่ว่าผมก็ยังไม่ได้ตอบคำถามใช่ไหม

                            ผมเคยมีกิจกรรมไว้หลายกรรมหลายวาระว่า “ฉันเป็นกวี”  จำไม่ได้ว่าตนเคยกล่าวว่า “ฉันเป็นนักกลอน”

                            ท่านอังคาร มหากวีรัตนโกสินทร์ก็เช่นกัน ท่านเคยกล่าวไว้ว่า ท่านเป็นกวี และเป็นมาแต่ชาติปางก่อน

                            ผมเขียนกลอนมาทุกวัน มาตั้งแต่วัยหนุ่มน้อย ที่จริงก็มีวันที่ไม่ได้เขียนอยู่บ้าง ก็คือวันที่เจ็บหนัก วันที่แขนขวาหักนั่นแหละ (อุบัติเหตุจากการขับขี่จักรยาน)

                            ผมถนัดปากคำว่า “แต่งกลอน” มากกว่า “แต่งบทกวี” คิดถึง “นักกลอน” ที่มีอยู่ทั่วฟ้าเมืองไทย นักกลอนมีการรวมตัว ตั้งเป็นชมรมสุดแต่จะตั้งชื่อ นักกลอนบางท่านชอบแต่งกาพย์ แต่ก็ไม่เรียกว่า นักกาพย์ บ้างชอบแต่งโคลง ก็ไม่มีใครเรียก “นักโคลง” ผมเองชอบแต่งกลอน แต่ก็เรียกตัวเอง จนใครๆ เรียกตามว่า  “กวี”  ไปแล้ว

                            บทกลอนบทหนึ่งคือบทกวี แต่บทกวีบทหนึ่งอาจไม่ใช่บทกลอน เพราะไม่มีรูปแบบฉันทลักษณ์ แต่กระนั้นก็ยังมีคนเรียกว่า กลอนไร้ฉันทลักษณ์ กลอนเปล่า  บ้างก็ว่า กลอนเปลือย 

                            ความหมายของคำว่า “กลอน” หมายรวมถึง โคลง ฉันท์ กาพย์ หรือร่าย เข้าไปด้วย

                            ผมเป็น “กวี” นะครับ “เขียนกลอน” ประจำในคอลัมน์ของหนังสือพิมพ์รายวันฉบับหนึ่ง ติดตามอ่าน “กลอน” ของผมได้ทุกวันอาทิตย์

                            “กลอน” ของผมเป็น “บทกวี” หรือเป็น “บทกลอน” กันหนอ ผมไม่เคยคิดหรอกครับ มาคิดเอาก็เมื่อคุณครูถามนั่นแหละ

                            ผมเคยเขียนกลอนไว้สองชิ้น กลอนสองชิ้นนั้น ชิ้นหนึ่งชื่อ “กวี” อีกชิ้นหนึ่งชื่อ “บทกวี” มีเนื้อหาว่าด้วยความหมายของ “กวี” และ “บทกวี” ตามชื่อนั่นแหละครับ คงหาอ่านได้ไม่ยาก บทหนึ่งเคยตีพิมพ์ใน “ไรเตอร์” อีกบทหนึ่งตีพิมพ์ในหนังสือรวมบทกวี ที่จัดพิมพ์โดยสมาคมนักเขียนฯ หรือหากหาอ่านทางอินเทอร์เน็ตก็น่าจะได้

                            คุณครูภาษาไทยที่ถามคำถามนี้ ไม่มีปัญหาหรอกครับ แต่ครูภาษาไทยอีกท่านบ่นน้อยอกน้อยใจว่าไม่ได้รับการยอมรับให้เป็นกวี วาสนาเป็นได้แค่นักกลอน ท่านแต่งกลอนไว้เยอะ ฝีมือเข้าขั้นชั้นครู  ท่านว่าจะพยายามเขียนให้ได้รางวัล “กวีซีไรต์” 

                            ผมไม่รู้จะช่วยเหลือยังไง แต่อยากบอกว่าผมเองชอบฟังบทกลอนของเพื่อนพ้องน้องพี่ “นักกลอน” ทั่วฟ้าเมืองไทย ติดตามฟังทุกวันอาทิตย์ทางวิทยุ เอฟเอ็มกลอนแบบนักกลอนให้อรรถรสแบบพิเศษอย่างวิเศษ  มีเสน่ห์ มีแบบฉบับเฉพาะตัว แบบที่ผมอยากมีบ้าง กำลังหาทางเขียน “กลอน” แบบ “นักกลอน” อยู่เสมอ ผมเขียนกลอนมาหลายปี บางทีก็เบื่อวิธีของตัวเองเหมือนกัน

                            เอาเป็นว่า ผมขอทิ้งไว้ให้ช่วยกันคิด ร่วมกันคุย คุยกันในหมู่ผู้แสวงหานิยามความหมาย แห่ง “บทกวี” และ “บทกลอน” “นักกวี”  และ “นักกลอน” ทั่วหล้าใต้ฟ้าเมืองไทย “นักกลอน” มีจำนวนมากกว่า “กวี” หลายเท่า เป็น “นักกลอน” เป็นง่ายกว่าเป็น “กวี” ต้องได้รับการตีตรา ประเมินค่า สถาปนา สถาปนาตัวเองสุ่มสี่สุ่มห้าเดี๋ยวโดนโห่  

                            เร็วๆ นี้ กวีคนหนึ่งจะแอบเขียนกลอนส่งไปออกอากาศวิทยุเอฟเอ็ม ร่วมกับเพื่อนพ้อง นักกลอนหลากหลายชมรม หลายกลุ่ม เผื่อจะได้เป็น  “นักกลอน”  อย่างเขาบ้าง  คงไม่ถูกกีดกัน

 

 

 

---------------------

(ศิลป์แห่งแผ่นดิน : นักกลอนและกวี : โดย...ศักดิ์สิริ มีสมสืบ)