
'ศุภนิมิต'ส่งน้องจบป.ตรี
'ศุภนิมิต'ส่งน้องจบป.ตรี ให้โอกาสเด็กเรียนดีขาดทุนทรัพย์ : คอลัมน์ท่องโลกเรียนรู้ : โดย...พิพัฒน์ เสรีชุษณะ
“เด็กเปรียบเสมือนต้นกล้าที่เปราะบาง บางครั้งต้องเจอมรสุมชีวิต ต้นกล้าบางต้นไม่สามารถหยั่งรากลึกลงได้ ผู้อุปการะก็เปรียบเสมือนน้ำและปุ๋ยที่คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ทำให้เด็กๆ สามารถเติบโตและยืนหยัดด้วยตนเองได้ มูลนิธิศุภนิมิตมุ่งเน้นเด็กเป็นศูนย์กลางการพัฒนา และมีชุมชนเป็นฐานการพัฒนา โดยเน้นด้านการศึกษานอกเหนือจากด้านความเป็นอยู่ อาหาร และการประกอบวิชาชีพของผู้ปกครอง เพื่อส่งเสริมให้พวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพและยังประโยชน์ให้สังคมและประเทศชาติต่อไป” จิตตรา ธรรมบริสุทธิ์ ผู้อำนวยการมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย กล่าว
ปัจจุบันมูลนิธิศุภนิมิตมีเด็กกว่า 1 แสนคน ในพื้นที่ดำเนินงานโครงการพัฒนาชุมชนเป็นพื้นที่แบบพึ่งตนเองและยั่งยืน (เอดีพี) ทั้งหมด 81 แห่ง 44 จังหวัด มีระยะเวลาดำเนินงานประมาณ 15 ปี หรือเทียบเท่าการศึกษาขั้นพื้นฐานของเด็ก ซึ่งหากต้องเรียนต่อในระดับชั้นอุดมศึกษา เด็กหลายคนแม้จะมีศักยภาพแต่ไม่มีทุนทรัพย์ก็ต้องหยุดเรียน จากปัญหานี้มูลนิธิศุภนิมิตจึงได้เริ่มโครงการ “ส่งน้องจบ ป.ตรี” ขึ้นเมื่อปี 2554 โดยมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนจำนวน 50 คน ผ่านเงินบริจาคสมทบจากผู้มีจิตเมตตาจนสำเร็จการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย 4 ปี
“เป็นการต่อยอดจากโครงการอุปการะเด็กที่ดำเนินงานมากว่า 38 ปี เพื่อให้ครอบคลุมการศึกษาถึงระดับชั้นปริญญาตรี ซึ่งในปี 2555 มีเยาวชนได้รับทุนเพิ่มจำนวน 111 คน เป็นทุนการศึกษาเดือนละ 2,500 บาท หรือปีละ 30,000 บาท มาจากครอบครัวฐานะยากจน มีความมุ่งมั่นตั้งใจเรียน และมีผลการเรียนในระดับมัธยมปลายหรือระดับมหาวิทยาลัยอยู่ในเกณฑ์ดี (เกรดเฉลี่ย 2.50 ขึ้นไป) โครงการส่งน้องจบป.ตรี เป็นโครงการระยะยาว มูลนิธิมีเป้าหมายที่จะมอบทุนให้แก่เด็กเป็นจำนวนหลายพันคนต่อปี โดยจากนี้จะรณรงค์สร้างจิตสำนึกแห่งการแบ่งปันแก่คนในสังคมต่อไป” จิตตรา กล่าว
ด้าน รุ่งทิพย์ คำพิทุม หรือ “แนน” อายุ 20 ปี เป็นเด็กในความอุปการะของมูลนิธิศุภนิมิตตั้งแต่ชั้น ป.2 ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาวิทยุกระจายเสียง-โทรทัศน์ และสื่อใหม่ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม อาศัยอยู่กับแม่เพียงลำพัง และมีรายได้จากการขายของชำเล็กๆ น้อยๆ เดือนละ 6,000 บาท “แนน” บอกว่า รู้สึกดีใจที่มูลนิธิศุภนิมิตเข้ามาช่วยเหลือทางด้านการศึกษา และแบ่งเบาภาระของครอบครัว ถ้าเรียนจบอยากนำความรู้ที่เรียนไปประกอบอาชีพเป็นนักผลิตรายการโทรทัศน์ เพื่อให้เยาวชนตระหนักถึงเรื่องการศึกษาซึ่งมีความสำคัญมาก
สอดคล้องกับ อดิสรณ์ เนื่องนุช หรือ “ไปป์” อายุ 19 ปี นักศึกษาปวส.1 สาขาช่างยนต์ เทคโนโลยีช่างฝีมือปัญจะวิทยา บอกว่า การศึกษาเปรียบเสมือนใบเบิกทางสู่วิชาชีพในอนาคต หากรู้สึกว่าชีวิตลำบากยิ่งต้องขวนขวายและอดทนเล่าเรียน และบอกอีกว่า อยากให้เด็กๆ ที่มีโอกาสตั้งใจเรียน เหมือนที่เขาได้โอกาสจากผู้อุปการะที่สนับสนุนผ่านมูลนิธิศุภนิมิตตั้งแต่ชั้น ป.5 ทั้งอุปกรณ์การเรียน เสื้อผ้า ถุงเท้า รองเท้านักเรียน ตลอดจนช่วยแบ่งเบาภาระค่าเทอม
ทั้งนี้มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทยเป็นองค์กรเอกชนเพื่อสาธารณกุศลที่ไม่แสวงหาผลกำไร โดยมุ่งงานด้านการอุปการะเด็กและการบรรเทาทุกข์เป็นหลัก เพื่อพัฒนาและส่งเสริมการศึกษา อนามัย จริยธรรม และการพัฒนาคุณภาพชีวิตผ่านโครงการต่างๆ เช่น โครงการอุปการะเด็ก และเสริมรายได้ให้ผู้ปกครองผ่านกลุ่มอาชีพต่างๆ โครงการมื้อเช้าเพื่อน้องท้องอิ่ม โครงการแฟมมิน อด ลด ละ เลิก เป็นต้น สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-2381-8863-5 โทรสาร 0-2711-4100-2 เว็บไซต์ www.worldvision.or.th
..................................................................
('ศุภนิมิต'ส่งน้องจบป.ตรี ให้โอกาสเด็กเรียนดีขาดทุนทรัพย์ : คอลัมน์ท่องโลกเรียนรู้ : โดย...พิพัฒน์ เสรีชุษณะ)