
คลี่กลีบ...ดอกลิลลี่ ในสวนเอเดน
อมหมึกเคี้ยวกระดาษ : คลี่กลีบ...ดอกลิลลี่ ในสวนเอเดน : โดย...ปลวกหวาน
เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเทคโนโลยีที่เจริญก้าวหน้าในยุคนี้ มีผลทำให้การติดต่อสื่อสารสะดวกรวดเร็ว มันวิ่งเร็วกว่าเราจนบางครั้งเราก็ไม่สามารถวิ่งตามมันทันได้ นักคิดนักเขียนคนหนึ่งเคยเปรยไว้ว่า มีสองอย่างที่มนุษย์เรายังตามไม่ค่อยทัน หนึ่งก็คือ "เทคโนโลยี" และสองก็คือ "หัวใจ" มีนวนิยายอิงเค้าโครงเรื่องจริง แหวกประวัติศาสตร์ แหกศาสนา ท้าการตัดสินใจ “ดอกลิลลี่ในสวนเอเดน” ที่โด่งดังและเป็นที่กล่าวขวัญถึงในเนื้อหา เป็นเรื่องราวของหญิงสาวสองคนในรั้วคอนแวนต์ ที่ร่ำเรียนเพื่อฝึกตนเป็นนักบวชในศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก คนหนึ่งไม่ได้บวชแต่อีกคนหนึ่งได้บวชเป็นซิสเตอร์สมความตั้งใจ
ทั้งสองพบกันอีกครั้งโดยบังเอิญในกรุงเยรูซาเล็ม โดยมีกล่องไม้ใบหนึ่งเป็นของที่ระลึกให้ไว้แก่กัน แต่ด้วยความรีบร้อนคนหนึ่งจึงได้ไปแต่กล่องในขณะที่อีกคนได้ไปเพียงแต่กุญแจ ชีวิตของทั้งสองเข้าสู่ความผกผันอีกครั้ง เมื่อกามเทพเล่นตลกให้นักบวชสาวตกหลุมรักสถาปนิกแต่โชคชะตาก็ไม่ปรานีเพราะชายคนนั้นเป็นคนที่มีครอบครัวแล้ว ท่ามกลางกระแสสังคมที่ไม่ปรานี มโนธรรมของมนุษย์จะวัดกันได้จากขนาดและอัตราการเต้นของหัวใจหรือไม่
คุณลัลตรา วรสุมาวงศ์ พีอาร์คนขยันและนักอ่านตัวเอ้ มีโอกาสได้เปิดใจนักเขียนสาว เกศณี ไทยสนธิ เจ้าของนวนิยายเรื่องนี้ ที่พำนักอยู่ ณ มลรัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา เธอเลยอาสาพาคุณผู้อ่านชอนไชไขความลับของดอกลิลลี่ซะหน่อย
เล่มนี้ต่างจากหนังสือที่เคยเขียนๆ มา เพราะมีเค้าโครงจากเรื่องจริงและยังเกี่ยวข้องกับศาสนาอีกด้วย ได้แรงบันดาลใจมาจากไหน
แรงบันดาลใจมาจากบุคคลในเรื่องที่เป็นซิสเตอร์ การเขียนอะไรสักอย่างสำหรับเรา ต้องเป็นเรื่องที่เรารู้จริง ค้นคว้าจริง สัมผัสมาจริงและมีประสบการณ์จริง มี root in personal experience เพียงแต่ทำให้เป็นนิยายโดยการแต่งแต้มคลุกเคล้าต้องมีส่วนประกอบของเรื่องแต่งและจินตนาการ เราเขียนเพราะเรามีอะไรที่อยากจะบอก และเป็นการบอกเล่าในมิติที่ค่อนข้างท้าทาย
เคยเป็นล่ามทำงานกับ NCIS และคอบบร้าโกลด์มาก่อน ได้อะไรจากการทำงานนี้และมันมีผลอย่างไรกับชีวิตบ้าง
หลายอย่างมากที่นอกเหนือจากประสบการณ์ อันดับแรกคือการใช้ชีวิต ทำให้เราเป็นคนที่แอ็กทีฟตลอดเวลา เป็นคนใช้ชีวิต เราเรียนรู้คน และวิธีการอยู่ร่วมกับคน เราส่งสารอย่างจริงใจและตรงไปตรงมา เพราะในการแปล การบิดเบือนแม้เพียงเล็กน้อยอาจจะสร้างความขุ่นข้องหมองใจได้ เช่นถ้าเราบอกว่าเราจะทำให้ดีที่สุดมันคือ I will do my best ซึ่งคนฟังก็คาดหวังว่าเราจะทำดีที่สุด พยายามดีที่สุด แต่สมมุติว่าจริงๆ แล้วเราทำไม่ดีที่สุด เราแค่ทำตามความเหมาะสม มันอาจจะแค่ระดับ reasonable good และเขาก็จะรู้สึกผิดหวังว่า โธ่เอ๊ย…นี่มันไม่ดีที่สุดนี่ ยูไม่ได้พยายามถึงที่สุดนี่นา ความเชื่อถือและความไว้ใจมันจะลดลงได้อย่างฮวบฮาบเลยทีเดียว ในระดับเพื่อนสนิทอาจจะโอเคพอถูไถไปได้ แต่ถ้าในระดับชาติ เชื่อเถอะว่า มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลย
คุณเลือกที่จะออกเป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษก่อนภาษาไทย และยังมีเวอร์ชั่นอักษรเบรลล์อีกด้วย คุณมีลำดับขั้นการผลิตไม่เหมือนคนอื่น มันมีผลต่อการตลาดสำหรับนวนิยายหรือไม่
อาจมีผลทางการตลาดทางอ้อม แต่นั่นไม่สำคัญเท่าความตั้งใจดี สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเนื่องจากจังหวะของเวลามากกว่า เราเป็นคนที่ฉกฉวยโอกาสนะ คือถ้าโอกาสมาถึงในจังหวะที่ดีและเราเตรียมพร้อม ถือว่าเป็นโชคดี ถ้าโอกาสไม่มา เราชอบสร้างขึ้นมาเอง (ฮา) สำหรับเวอร์ชั่นอักษรเบรลล์นั้นค่อนข้างภูมิใจ เพราะเหมือนว่าเราไม่ได้ละเลยกลุ่มผู้พิการทางสายตา อย่าลืมว่าคนกลุ่มนี้เขาก็ต้องการเสพงานลักษณะนี้เหมือนกับเรา การเขียนนิยายเป็นการพาคนอ่านเข้าไปในโลกที่เราสร้าง การทำเป็นอักษรเบรลล์ก็เหมือนการเดินจูงมือเพื่อนผู้พิการทางสายตาเข้าไปในอีกโลกหนึ่ง
มีคนเคยบอกไหมว่างานของคุณมีความเป็นสารคดีท่องเที่ยวปนอยู่อย่างแนบเนียน
มีหลายคนบอกอย่างนั้น แต่นั่นก็เป็นความตั้งใจของเราที่จะทำให้เป็นอย่างนั้น เราบอกเล่าผ่านตัวละครที่เป็น Primary character คือเราเขียนในสิ่งที่เราชอบอ่าน เราซื้อหนังสือเพราะเราอยากได้อะไรสักอย่างในนั้น เราหวังว่ามันจะมีอะไรสักอย่างบนหน้ากระดาษพวกนี้ที่นอกเหนือจากอารมณ์ โดยส่วนตัวเราชอบอ่านงานกว้างๆ มากกว่างานแคบๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่างานแคบไม่ใช่งานที่ดีนะคะ มีงานแคบที่คมมากมาย กระแทกหัวใจเป็นรู เลือดสาดเลยก็มี งานกว้างอาจเป็นกว้างแบบไม่มีคุณภาพก็ได้
ทำไมถึงชื่อ "ดอกลิลลี่ในสวนเอเดน” ทำไมไม่เป็นสวนอีเดนแบบภาษาอังกฤษ
ข้อแรกเลย ในใบเบิ้ลของพี่น้องชาวคริสต์ใช้คำว่า ”เอเดน” แน่นอน ทางศูนย์พระคริสตธรรมคัมภีร์ไม่เคยใช้คำว่า ”อีเดน” เพราะคำว่าอีเดนเป็นคำที่มาจากภาษาอังกฤษ แต่พระคัมภีร์นั้นมาจากภาษาฮีบรูซึ่งอ่านออกเสียงว่า ”เอเดน” เหมือนกับคำว่าซาโลมอน แม้ภาษาอังกฤษจะเขียนว่า Solomon แต่ในพระคัมภีร์ก็เรียกว่าซาโลมอนตามสำเนียงฮีบรู ข้อสอง ชื่อหนังสือเล่มนี้เป็นชื่อภาษาไทย สำหรับภาษาอังกฤษได้ตั้งชื่อว่า Only God Will Judge me นะคะ ส่วนข้อสุดท้าย ทางศูนย์การแปลพระคัมภีร์ยืนยันว่าจะไม่มีการเปลี่ยนเป็นสวนอีเดนอย่างแน่นอน คือก่อนตัดสินใจใช้ชื่อนี้เราก็ได้ทำการค้นคว้าพอสมควร
บรรณาธิการมีผลต่องานของคุณมากน้อยเพียงใด
มีผลพอสมควร เราโชคดีที่ได้ร่วมงานกับนิว สิริกัญญา ชุ่มเย็น คุณหมู ปรียา และคุณนิวัต พุทธประสาท คือทุกคนก็ได้ให้ข้อสังเกตและคำแนะนำที่ดีมากๆ คือเฮมมิ่งเวย์เคยบอกว่าสิ่งที่นักเขียนทุกคนควรจะมีคือ build-in shockproof, Shit detection เป็นเหมือนตัวเซ็นเซอร์ในสิ่งที่เขียนว่าอะไรดีไม่ดี ดีเก็บไม่ดีตัดทิ้ง ถ้าระบบในตัวเราไม่ดีพอ บรรณาธิการนั้นมีความสำคัญอย่างไม่ต้องสงสัย
เนื่องจากคุณเคยเรียนเป็นนักบวชในศาสนาคริสต์มาก่อน คุณมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับความรักต้องห้าม
ความรักเกิดขึ้นได้แน่นอน เพราะเราเป็นมนุษย์ เราถูกสร้างให้เป็นผู้หญิง ผู้ชาย ให้คู่กัน ให้มีการสืบเผ่าพันธุ์ ถ้าคุณตกหลุมรักได้ คนอื่นก็ตกหลุมรัก ไม่จำกัดว่าอยู่ในเครื่องแบบใดๆ กฎเกณฑ์ต่างๆ มนุษย์ตั้งขึ้นมาภายหลังทั้งสิ้น
หนังสือเล่มไหนที่มีผลต่อชีวิตคุณ และใครเป็นคนแนะนำให้คุณอ่านหนังสือเล่มนั้น
หนังสือของ Paolo Coello เกือบทุกเล่มมีผลต่อชีวิตมาก คนที่แนะนำให้อ่านคือคุณ Tom Claytor เขาบอกว่าหนังสือเรื่อง The Alkemist ของเปาโล โคเอลโย่ เราหามาอ่าน ชอบมากจนกลายเป็นแฟนหนังสือของเปาโลมาโดยตลอด
ถ้าถามพระเจ้าได้คำถามเดียว คุณจะถามว่าอย่างไร
อยากถามว่า ก่อนที่พระองค์สร้างโลกนั้น พระองค์ทำอะไร
ที่จริงคุยกันหลากเรื่องหลายรสแสนสนุกแต่บรรทัดมีจำกัด ขอบอกว่านวนิยายสุดเข้มข้นเรื่องนี้ เขียนโดย “เกศณี ไทยสนธิ” นักเขียน นักแปล
ต้นฉบับได้ถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษ และออกสู่ตลาดก่อนฉบับภาษาไทย ในชื่อว่า Only God will judge me ส่วนฉบับเวอร์ชั่นภาษาไทยนั้น ใช้ชื่อว่า “ดอกลิลลี่ในสวนเอเดน” ราคา 165 บาท โดย สนพ.เม่นวรรณกรรม
สนุกขนาดนึ้ คนมีรัก (ต้องห้าม) หามาอ่านซะ!
---------------------
(อมหมึกเคี้ยวกระดาษ : คลี่กลีบ...ดอกลิลลี่ ในสวนเอเดน : โดย...ปลวกหวาน)