
ปลื้ม!ราคา'มังคุด'พุ่งแตะกก.ละ120บาท
เกษตร จ.ระนอง ปลื้มราคามังคุดพุ่งไม่หยุดแตะ 120 บาทต่อกก. ตปท.ออเดอร์ต่อเนื่อง หลังจับมือเกษตรกรพัฒนาคุณภาพจนได้รับความเชื่อมั่น เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภค
21 ส.ค. 56 นายมงคล จอมพันธ์ เกษตรจังหวัดระนอง เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาผลไม้โดยเฉพาะมังคุดว่าล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 21 ส.ค. ราคารับซื้อมังคุดเกรดเอ ซึ่งเป็นมังคุดที่คัดเพื่อการส่งออกราคาซื้อขายอยู่ที่ กก.ละ 120 บาท ซึ่งเป็นราคาสูงสุดในรอบหลายปี ทั้งนี้เป็นเพราะผลจากการที่ทาง สนง.เกษตรจังหวัดระนอง ร่วมกับเกษตรกรชาวสวนมังคุดพัฒนาคุณภาพของมังคุดมาอย่างต่อเนื่องทำให้ตรงกับความต้องการของตลาดต่างประเทศ จนได้รับความเชื่อมั่น และเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคในหลายประเทศ รวมถึงมีประเทศใหม่ๆ ที่มีการขยายตลาดเพิ่ม ส่งผลมียอดการสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก จนราคาซื้อขายเพิ่มขึ้นจนเป็นที่พอใจแก่ชาวสวนมังคุดทั้งยังก่อให้เกิดรายได้ ทำให้เศรษฐกิจชุมชนมีเงินทุนหมุนเวียน ส่วนราคามังคุดเกรดอื่นๆ ก็อยู่ในระดับราคาที่ดี เป็นที่พอใจของเกษตรกร
นายมงคล กล่าวต่อว่า และเพื่อพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์มังคุดสร้างความหลากหลายในตัวสินค้า เพื่อเป็นการสร้างความมั่นคงในด้านอาชีพแก่เกษตรกรชาวสวนมังคุด ทางสำนักงานเกษตรจังหวัดระนองจึงได้จัดทำโครงการเพื่อขอรับงบประมาณสนับสนุนจากงบยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัดระนองจำนวน 3,068,500 บาท เพื่อดำเนินการก่อสร้างโรงงานแปรรูปมังคุด (ผลิตน้ำมังคุด) ซึ่งเป็นโครงการนำร่องในการช่วยเกษตรกรชาวสวนมังคุด ในการต่อยอดให้เกิดผลิตภัณฑ์จากมังคุด ทำให้เกิดความมั่นคงในอาชีพ กำหนดก่อสร้างที่บริเวณศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตการเกษตรประจำ ต.ลำเลียง อ.กระบุรี จ.ระนอง
สำหรับโรงงานผลิตแปรรูปมังคุดที่จะผลิตน้ำมังคุด ถือเป็นโรงงานแรกในฝั่ง จังหวัดอันดามัน ซึ่งจะเป็นโรงงานต้นแบบให้กับผู้สนใจทั้งใน จ.ระนอง และพื้นที่ใกล้เคียง ขณะนี้ได้ทำสัญญากับผู้รับเหมาก่อสร้างเรียบร้อยแล้วคาดจะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงปลายปี และทดลองเดินสายการผลิตได้ในช่วงกลางปี โดยมีกำลังการผลิต 1,000 ขวดต่อวัน ซึ่งคาดว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรชาวสวนมังคุดได้
นายมงคล กล่าวต่อว่าระนองเป็นแหล่งผลิตผลไม้ที่สำคัญของภาคใต้ฝั่งอันดามันจังหวัดหนึ่ง เป็นที่มาของรายได้ของเกษตรกรที่มีมูลค่าค่อนข้างสูงรองจากางพาราและปาล์มน้ำมัน ปัจจุบันจังหวัดระนองมีพื้นที่ปลูกไม้ผล รวม 37,186 ไร่ แยกเป็นพื้นที่ปลูก ทุเรียน 9,295 ไร่ มังคุด 16,632 ไร่ ลองกอง 9,456 ไร่ และเงาะ 1,803 ไร่ จะมีผลผลิตโดยรวมปี 2556 ประมาณ 19,695 ตัน แนวโน้มผลผลิตจะเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี เนื่องจากอายุของไม้ผลมากขึ้น ทรงพุ่มโตขึ้น แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศอีกส่วนหนึ่งที่มีผลต่อการติดผลของไม้ผลในปีนั้นๆ ด้วย สำหรับพืชที่มีปัญหาด้านราคาผลผลิตมากที่สุดคือลองกอง , มังคุด , เงาะ และทุเรียน ตามลำดับ
ในส่วนของมังคุดที่กำลังออกสู่ตลาดช่วงระหว่างเดือน มิ.ย.-ส.ค. ของทุกปีนั้นในส่วนของ จ.ระนองคาดว่าจะมีผลผลิตรวม 10,235 ตัน โดยในเดือน มิ.ย.ผลผลิตมังคุดจะออกสู่ตลาดประมาณ 30% ของผลผลิตทั้งหมด หรือประมาณ 3,071 ตัน เดือน ก.ค. - ส.ค. ออกสู่ตลาดประมาณ 40% หรือประมาณ 4,093 ตัน โดยแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมากในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค. ทางจังหวัดระนองกำหนดแนวทางการดำเนินการไว้ดังนี้ ประสานงานผู้รับซื้อให้เข้ามารับซื้อผลผลิตของเกษตรกรตามจุดคัดแยกมังคุดที่กระจายตามอำเภอต่างๆ , ดำเนินการแต่งตั้งคณะทำงานศูนย์ประสานงานป้องกันและแก้ไขปัญหาผลไม้ เพื่อเตรียมการแก้ไขปัญหาด้านการตลาด และราคาผลผลิตตกต่ำในช่วงผลผลิตไม้ผลออกสู่ตลาดมากระหว่างเดือน มิ.ย.-ส.ค. , สำนักงานเกษตรอำเภอทุกอำเภอและสำนักงานเกษตรจังหวัด
โดยคณะทำงานศูนย์ประสานงานป้องกันและแก้ไขปัญหาผลไม้ บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกลุ่มผู้ผลิตฯร่วมกันติดตามสถานการณ์ตลาดไม้ผล จากจุดรวบรวมผลผลิตศูนย์คัดแยกผลไม้ของทุกอำเภอ , จัดทำแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนและบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาผลผลิตทางการเกษตร จ.ระนอง ปี 2556 และดำเนินการตามแผนในการแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ โดยใช้แนวทางการจัดการผลผลิตไม้ผลดังนี้ ประสานหาตลาดปลายทางเพื่อกระจายผลผลิตไปยังจังหวัดที่ไม่ใช่แหล่งผลิต หรือประชาสัมพันธ์ให้พ่อค้ามารับซื้อผลผลิตของกลุ่มโดยตรง , ขอสนับสนุนงบประมาณจาก อบจ. , อบต.ในพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาผลผลิตราคาตกต่ำในช่วงวิกฤติ โดยรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรในราคาหน้าตลาดและไม่ต่ำกว่าต้นทุนการผลิต , รณรงค์ประชาสัมพันธ์ การบริโภคผลไม้จังหวัดระนอง จัดเทศกาลต่างๆ และส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรให้เป็นรูปธรรม