ไลฟ์สไตล์

"โรคเริม" ควบคุม รักษาได้

"โรคเริม" ควบคุม รักษาได้

19 ส.ค. 2556

โรค "เริม" นั้นเป็นโรคติดเชื้อที่ผิวหนังและเยื่อบุบริเวณปากและอวัยวะเพศเกิดจากเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า เฮอร์ปีซิมเพลกซ์ (HSV)

ซึ่งมี 2 ชนิด คือ เฮอร์ปีซิมเพล็กซ์ 1 Herpessimplex virus 1 (HSV-1) ถ้าติดเชื้อนี้แล้วมักจะเกิดอาการโรคบริเวณปากและผิวหนังเหนือสะดือขึ้นไป เกิดที่ปากเรียก Herpes labialis และเฮอร์ปีซิมเพล็กซ์  2 (Herpessimplex virus 2 (HSV-2) มักเกิดบริเวณอวัยวะเพศและติดต่อโดยเพศสัมพันธ์เรียก Herpes  genitalis ไวรัสชนิดนี้มี 2 แบบคือ การติดเชื้อครั้งแรก (Primary) ซึ่งเป็นในผู้ป่วยที่ไม่เคยได้รับเชื้อมาก่อน อาจจะรุนแรงกว่า สามารถหายเองได้ เชื้อจะกลับไปซ้อนในปมประสาทและการเป็นซ้ำจากเชื้อที่ถูกกระตุ้นออกมาจากปมประสาท 
ทุกคนทุกเพศและทุกวัย จะมีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อนี้ได้ เชื้อไวรัสเริมติดต่อทางการสัมผัสโดยตรงกับผู้ได้รับเชื้อที่มีแผลถลอกอยู่ โดยเจ้าเชื้อนี้สามารถเคลื่อนผ่านรอยแตกเล็กๆ บริเวณผิวหนังหรือเยื่อบุผิวที่ชุ่มชื่นบริเวณริมฝีปาก ช่องคลอดหรือทวารหนักทำให้เชื้อเริมเข้าไปได้ 
เชื้อเฮอร์ปีซิมเพล็กซ์ 1 Herpessimplex virus 1 (HSV-1) จะติดต่อทางสารหลั่งในปาก โดยมากมักพบเริมที่ริมฝีปากหรือบริเวณอวัยวะเพศ การจูบหรือดื่มน้ำแก้วเดียวกันทำให้เชื้อเริมติดต่อได้ 
อาการที่แสดงมักมีผื่นเกิดขึ้นที่บริเวณใบหน้า แต่ก็สามารถพบได้บริเวณก้นและอวัยวะเพศได้ โดยในการติดเชื้อครั้งแรก มักเริ่มเกิดอาการประมาณ 2-24 วันหลังสัมผัสเชื้อ จะเกิดอาการปวดในช่องปาก มีตุ่มน้ำจำนวนมากแตกเป็นแผลตื้นๆ อาจมีอาการไข้ และต่อมน้ำเหลืองที่บริเวณคอโตรวมอยู่ด้วย อาการเป็นอยู่นานประมาณ 1-2  สัปดาห์ หลังจากนั้นเชื้อเริมจะเข้าไปฝังตัวพักอยู่ในปมประสาท เมื่อถูกการกระตุ้นที่เหมาะสม  เช่น ภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอ ความเครียด ไม่สบาย การมีประจำเดือน ตากแดดหรือบาดเจ็บที่บริเวณผิวหนังส่วนนั้น จะเกิดการเป็นซ้ำจากเชื้อที่ฝังตัวในปมประสาทออกมาที่บริเวณผิวหนัง บริเวณที่เคยมีการติดเชื้อครั้งแรก แต่อาการที่เป็นซ้ำมักไม่รุนแรง 
ส่วน เชื้อเฮอร์ปีซิมเพล็กซ์ 2 Herpessimplex virus 2 (HSV-2) ผื่นมักเกิดที่บริเวณก้นและอวัยวะเพศ การติดเชื้อแบ่งเป็น 2 แบบ เหมือนใน HSV ชนิดที่ 1 คือ การติดเชื้อครั้งแรก อาการแสดงมักรุนแรงมีตุ่มน้ำจำนวนมาก ซึ่งแตกออกเป็นแผลตื้นๆ มีอาการปวด บางรายพบมีอาการปัสสาวะแสบขัด มีหนองออกมาจากท่อปัสสาวะหรือช่องคลอดร่วมกับมีอาการไข้และต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบโตได้ อาการมักเป็นอยู่นานประมาณ 2-3  สัปดาห์ 
จากนั้นเชื้อจะฝังตัวพักอยู่ในปมประสาท เมื่อมีการกระตุ้นที่เหมาะสมจะเกิดการติดเชื้อซ้ำบริเวณที่เคยติดเชื้อครั้งแรก แต่อาการจะรุนแรงน้อยกว่า มักมีอาการแสบคันบริเวณผิวหนังนำมาก่อน หลังจากนั้นเกิดเป็นตุ่มแดงร่วมอยู่เป็นกลุ่มและกลายเป็นตุ่มน้ำตกสะเก็ดในเวลาประมาณ 7-10 วัน
การรักษา ในรายที่เป็นการติดเชื้อครั้งแรก (Primary) ควรต้องให้การรักษาทุกรายด้วยยาต้านไวรัส ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษา ส่วนในรายที่เป็นซ้ำ (recurrent) ถ้าเป็นเริมริมฝีปาก ส่วนใหญ่อาการจะไม่รุนแรงและมักหายเองภายใน 1 สัปดาห์  
การดูแลและควบคุมโรคเริม คือ ความเครียด การทำงานหนักมากเกินไปนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ จะทำให้ร่างกายอ่อนแอ ภูมิต้านทานของร่างกายลดน้อยลง ทำให้ติดเชื้อไวรัสได้ง่ายขึ้น หรือถ้าเป็นโรคนี้อยู่แล้วก็จะมีอาการโรคแย่ลง ระยะเวลาเป็นของโรคก็จะนานขึ้น หรือกลับมาเป็นซ้ำได้บ่อยยิ่งขึ้น อย่าวิตกเกินไป โรคเริมสามารถควบคุมและรักษาได้ สุขอนามัยที่ดีเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เมื่อคุณผู้หญิงเริ่มมีอาการของโรคเริมการดูแลแผลเริมอย่างถูกวิธีจะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น และลดโอกาสการแพร่กระจายไปถึงผู้อื่น 
สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย