ไป'ดิห์กู'ดู'มัลดีฟส์' | คมชัดลึก

 

 

                 มี.ค.ปี 2012  ฉันขยิบตาใส่ มัลดีฟส์ ในจังหวะที่ต้องบอกลากัน ไม่ได้อาวรณ์กันเท่าที่ควร เพราะคิดอยู่แล้วว่ามัลดีฟส์เที่ยวนั้น ไม่ใช่เที่ยวสุดท้ายในมัลดีฟส์แน่นอน

                แล้วก็เป็นแบบนั้น มัลดีฟส์ 2013 ถูกก่อร่างสร้างแผนขึ้นอย่างเป็นรูปเป็นร่าง โชคดีได้สายการบินศรีลังกัน แอร์ไลน์ (0-22368450-6) ช่วยประดิษฐ์ให้แผนนี้เป็นจริง แต่ละวันเขาจะมีเที่ยวบินไปกลับมัลดีฟส์วันละหลายเที่ยวบินเลยทีเดียว แต่ต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่โคลอมโบ

               เรื่องต่อเครื่องนี่ไม่เป็นปัญหา ฉันได้สนทนากับคุณชารูกา วิครามา อะดิดติยะ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทยและลุ่มแม่น้ำโขง สายการบินศรีลังกันแอร์ไลน์ เขาบอกว่า ใครที่ไปมัลดีฟส์แล้วอยากจะแวะเที่ยวศรีลังกาด้วย  ศรีลังกัน แอร์ไลน์ ถือว่าเหมาะมาก และนักท่องเที่ยวหลายคนก็เลือกเที่ยวแบบนี้ เพราะเขาถือว่าเป็นกำไรได้ศรีลังกาเป็นของแถม

                หรือต่อให้ไม่แวะเที่ยว บางเที่ยวบินใช้เวลาต่อเครื่องไม่ถึงชั่วโมง ทำให้ไม่เสียเวลามากนัก เพราะแบบนี้คุณชารูกาถึงได้บอกว่าไฟลท์ที่บินเข้ามัลดีฟส์จึงค่อนข้างแน่นตลอดทั้งปี

 

 

                เรื่องดินฟ้าอากาศของมัลดีฟส์ไม่ค่อยเป็นปัญหาในการเที่ยว ต่อให้เป็นฤดูฝน ฝนก็ไม่ได้ตกแบบฟ้ารั่ว ตกประเดี๋ยวเดียวแดดก็ปรากฏตัว เป็นแบบนี้เสมอ เพราะแบบนี้เรื่องห้องพักก็ถูกจับจองกันแน่นเหมือนกัน  เรื่องนี้เว็บไซต์จองที่พักอย่างอโกดา (www.agoda.com) ยืนยันได้

                กว่าจะมาลงเอยที่ อนันตรา ดิห์กู รีสอร์ทแอนด์สปา (http://dhigu-maldives.anantara.com) ก็คลิกหาในอโกดาอยู่หลายตลบ ขึ้นชื่อว่าแบรนด์อนันตรา ทำฉันอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะนี่คืออีกหนึ่งแบรนด์ไทยที่ไปยึดหัวหาดอยู่ในมัลดีฟส์ โดยมีบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยเป็นเจ้าของ

                เท่าที่กวาดสายตาดู ไมเนอร์ไม่ได้มีแค่อนันตรา ดิห์กูเท่านั้น  แต่ยังมีโรงแรมอนันตรา เวลี, อนันตรา คิฮาวาห์ และโรงแรมสุดหรูอย่างนาลาดู นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารไทยชื่อ Thai Express, เบอร์เกอร์คิง และไอศกรีมเซเวนเซ่น ที่ไปยึดพื้นที่ในสนามบินนานาชาติของมัลดีฟส์เรียบร้อยแล้ว

               และแน่นอนว่า เมื่อถึงอนันตรา ดิห์กู รีสอร์ทแอนด์สปา ฉันจึงถูกต้อนรับด้วยความอบอุ่นแบบไทยๆ และวิลล่าน่าพักที่เดินแค่ไม่กี่ก้าวก็ถึงทะเล เปิดประตูรออาคันตุกะจากขวานทอง

                หนังสือเล่มที่อยากอ่าน แว่นตา ครีมกันแดด และชุดนุ่งน้อยห่มน้อย เป็นแพ็กเกจความสุขที่ฉันยกไปไว้บนชายหาดหน้าเรือนพัก

                ดูเหมือน พ.ศ.นี้ ที่ใครๆ ก็พากันบูชาเทคโนโลยี ถ้าโรงแรมไหนไม่มีฟรีไวไฟ ก็อาจต้องเตรียมม้วนเสื่อได้เลย อย่างที่อนันตรา ดิกู รีสอร์ทแอนด์สปา ไวไฟแน่นมาก เพราะแบบนี้มนุษย์ที่นอนเลื้อยบนชายหาดจึงยังคงถูกสะกดจิตด้วยสมาร์ทโฟน และจอสี่เหลี่ยมที่แออัดไปด้วยแอพพลิเคชั่น

 

 

               หนุ่มสาวชาวจีนหลายคู่เลือกที่นี่เป็นมุมดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ของพวกเขา แทนที่จะใช้คืนวันอันแสนหวานด้วยกัน พวกเขาต่างฝ่ายเดินเร่หาสัญญาณไวไฟอย่างร้อนรน สาวจีนบางกลุ่มโพสท่า อัพรูปเหมือนเป็นโรคติดต่อกัน

                ตรงกันข้ามกับนักเดินทางจากฝั่งตะวันตก พวกเขาพาร่างไปนอนทอดเรือนกายบนชายหาด อนุญาตให้แสงแดดลูบไล้ไปทุกอณู ลืมคืนวันอันวุ่นวายในวันทำงาน ฮอลิเดย์คือฮอลิเดย์ พักผ่อนคือหย่อนอารมณ์ ไม่ให้งานการตามมารังควาน  และดูเหมือนว่า  พวกเขาไม่ออกวีซ่าให้โซเชียลเน็ตเวิร์กตามมาพักร้อนด้วย

                มารู้ตัวอีกที ฉันกลายเป็นนักสำรวจอิริยาบถคนอยู่เกาะไปแล้วหรือ หรือนี่คือวิสัยของกระจอกข่าว ที่แม้แต่พักผ่อนยังเผลอสอดส่อง

               ถึงแม้เกาะนี้จะเล็กกว่าหลายๆ เกาะของมัลดีฟส์ที่ฉันเคยไปเยือนมา แต่การมีจักรยานเป็นพาหนะสำรวจเกาะก็ช่วยอำนวยความสะดวกได้เยอะ

                แปลกดี ทุกครั้งที่นั่งบนหลังอาน ฉันมักรู้สึกอิสระและสัมผัสถึงการปลดปล่อยเสมอ  ยิ่งสองล้อเคลื่อนไปกลางเกาะที่ห้อมล้อมไว้ด้วยสีเขียวของร่มไม้  โผล่ไปอีกทีเจอทรายขาว บางช่วงสลับไปปั่นสะพานไม้ที่เชื่อมวิลล่ากลางทะเลดูบ้าง มันทำให้ฉันอยากประคองตัวอยู่บนสองล้อทั้งวัน อย่างไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเมื่อยน่อง 

               
มัลดีฟส์ก็เป็นมัลดีฟส์อยู่วันยันค่ำ จะเที่ยวที่เท่าไหร่หรือเกาะไหน ก็ถูกปรนเปรอด้วยแสงแดด ฟ้าคราม น้ำใส และที่ไม่เคยขาดแคลนเลยคือ อากาศดีๆ ที่ห่มไว้ด้วยความโรแมนซ์  

 .................................

(ไป'ดิห์กู'ดู'มัลดีฟส์' : คอลัมน์เที่ยวนี้ขอเล่า : โดย...กาญจนา หงษ์ทอง)