ไลฟ์สไตล์

ติดคุกมาแล้วต่อใบขับขี่ไม่ได้

ติดคุกมาแล้วต่อใบขับขี่ไม่ได้

03 มิ.ย. 2557

เปิดซองส่องไทย : ติดคุกมาแล้วต่อใบขับขี่ไม่ได้ : โดย...ลุงแจ่ม

 
                          ดิฉันรบกวนสอบถามเรื่องการต่ออายุใบขับขี่ชนิดที่ 4 ทุกประเภทของแฟน เนื่องจากแฟนดิฉันใกล้จะพ้นโทษได้ออกจากเรือนจำแล้วประมาณเดือนสิงหาคม 2557 ที่จะถึงนี้ แต่ได้โทรไปสอบถามขนส่งเรื่องการต่ออายุใบขับขี่ เพราะอาชีพเดิมคือขับรถแท็กซี่ ดิฉันขอเล่าเรื่องโดยสังเขปดังต่อไปนี้
 
                          ศาลฎีกาตัดสินให้แฟนหนูต้องโทษติดคุกเป็นเวลา 3 ปี 18 เดือน ข้อหาฆ่าคนตาย ฟังดูอาจจะร้ายแรง แต่แฟนหนูเข้าไปช่วยหลานชายที่โดนรังแก เนื่องจากหลานชายตอนนั้นได้มาเช่ารถตู้ของดิฉันขับ ได้เกิดการชกต่อยกัน แฟนดิฉันได้ใช้มีดแทงคู่กรณีแต่ไปโดนจุดสำคัญ เขาไม่ตาย จึงโดนข้อหาพยายามฆ่า ดิฉันจึงหาข้อมูลเพื่อเตรียมตัวไว้ เมื่อแฟนออกมาจะได้ทำมาหากินได้เพราะเสียเวลามานานแล้ว แฟนดิฉันอายุ 56 ปีแล้ว ไม่เคยต้องโทษ ไม่เคยมีคดี ครั้งนี้เป็นครั้งแรก โทษเรื่องใบขับขี่ก็ไม่มี ที่ได้ออกเร็วเพราะได้เป็นนักโทษชั้นเยี่ยม เป็นคนดี ไม่มีปัญหา จึงได้คัดชื่อทำพักโทษได้เร็ว ดิฉันได้โทรถามเจ้าหน้าที่ขนส่งที่สำนักงานใหญ่ เขาบอกว่าคนเคยติดคุกมาแล้ว ใบขับขี่สาธารณะ หรือใบขับขี่ชนิดที่ 4 ทุกประเภทของแฟนดิฉันไม่สามารถต่อได้ ต้องรอให้ผ่าน 3 ปีไปก่อน ทราบแล้วก็ตกใจ แล้วแบบนี้จะไปทำมาหากินอะไรกัน 
 
                          ออกมาแล้วดิฉันวางแผนไว้จะออกรถแท็กซี่เขียว-เหลือง ขับเหมือนเดิมเพราะทำมาตลอด แต่หากต่อใบขับขี่ไม่ได้หนทางก็มืดมน พอจะมีแนวทางไหนช่วยแนะนำได้บ้าง ดิฉันถามเจ้าหน้าที่ว่าหากขอคัดคำพิพากษามาประกอบ ขอใบพ้นโทษมายืนยัน และเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอีกครั้ง ไม่เคยมีประวัติอะไรร้ายแรง เขาน่าจะอนุโลมได้ไหม ดิฉันไม่รู้จะปรึกษาใคร รบกวนลุงแจ่มช่วยแนะนำแนวทางด้วย
 
                          เจ้าหน้าที่บอกว่า สามารถทำใบขับขี่ส่วนบุคคลได้ แต่ทำมาแล้วก็ประกอบอาชีพไม่ได้ หาเงินส่งค่างวดรถก็ไม่ได้ จะทำอย่างไรดี
 
 
วรินทร
 
 
ตอบ
 
 
                          นายชัยรัตน์ พรสวัสดิ์ หัวหน้าส่วนใบอนุญาตขับรถ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 5 (สขพ.5 จตุจักร) กรมการขนส่งทางบก ชี้แจงว่า ตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 96 วรรค 9 กำหนดคุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจำรถตามมาตรา 93 ในประเภทการขนส่งประจำทาง การขนส่งไม่ประจำทาง หรือการขนส่งโดยรถขนาดเล็กต้องไม่เป็นผู้เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดหรือคำสั่ง ที่ชอบด้วยกฎหมายให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดอันได้กระทำโดยประมาทที่มิใช่เกี่ยวกับการใช้รถในการกระทำผิดหรือความผิดลหุโทษ หรือได้พ้นโทษมาแล้วเกินสามปี
 
                          และคุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตขับขี่รถสาธารณะ (รถแท็กซี่) ที่กฎหมายกำหนด ต้องไม่เคยเป็นผู้ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ หรือความผิดเกี่ยวกับความสงบสุขของประชาชน ความผิดเกี่ยวกับการก่อให้เกิดภยันตรายต่อประชาชน ความผิดเกี่ยวกับเงินตรา ความผิดเกี่ยวกับเพศ ความผิดต่อชีวิต ความผิดต่อร่างกาย ความผิดต่อเสรีภาพ ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ความผิดฐานรับของโจร และความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตามประมวงกฎหมายอาญา หรือความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ หรือโดยคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ หรือพ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี ในกรณีที่เป็นผู้ขาดคุณสมบัติดังกล่าว ต้องพ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า
 
                          (ก) หกเดือนสำหรับโทษจำคุกตามคำพิพากษาไม่เกินสามเดือน
 
                          (ข) หนึ่งปีสำหรับโทษจำคุกตามคำพิพากษาไม่เกินสามเดือนในคดีเกี่ยวด้วยการใช้รถกระทำความผิด หรือ
 
                          (ค) หนึ่งปีหกเดือนสำหรับโทษจำคุกตามคำพิพากษาเกินสามเดือนแต่ไม่เกินสามปี และได้ยื่นคำร้องต่อนายทะเบียนโดยชี้แจงถึงเหตุผลที่ตนต้องโทษพร้อมกับแสดงหลักฐานว่าตนเป็นบุคคลที่มีความประพฤติเรียบร้อยควรไว้วางใจให้ขับรถยนต์สาธารณะหรือรถจักรยานยนต์สาธารณะได้ แล้วแต่กรณี
 
                          กรณีร้องเรียนนี้ ถ้าใบอนุญาตขับขี่ดังกล่าวยังไม่หมดอายุในขณะที่พ้นโทษแล้วไม่เกิน 3 ปี ผู้ถือใบอนุญาตขับขี่สามารถใช้ใบขับขี่ได้จนกระทั่งหมดอายุ แต่เมื่อดำเนินการต่อใบอนุญาตขับขี่ในปีต่อมา และขณะนั้นผู้ถือใบอนุญาตขับขี่พ้นโทษไม่เกิน 3 ปี กรมการขนส่งทางบกไม่สามารถต่ออายุใบขับขี่ให้ได้ เนื่องจากผู้ถือใบอนุญาตขับขี่มีคุณสมบัติต้องห้ามตามกฎหมายข้างต้น
 
                          สำหรับการคัดคำพิพากษาและการขอใบพ้นโทษเพื่อขออนุโลม นั้น ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากกฎหมายไม่เปิดช่องให้ทำเช่นนั้น ส่วนการนำใบขับขี่ส่วนบุคคลมาใช้ในการขับรถรถยนต์สาธารณะ เป็นการใช้ใบอนุญาตขับขี่ผิดประเภท หากเจ้าหน้าที่ตรวจพบ จะมีความผิดต้องระวางโทษปรับ และอาจถูกนายทะเบียนเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
 
 
ลุงแจ่ม
 
 
 
สามี(ตัวดี) แบ่งทรัพย์สินคนละครึ่ง
 
 
                          ​ดิฉันมีเรื่องอยากขอคำแนะนำด้วยค่ะ คือว่า หลังจากแต่งงานอยู่กินกับสามีมาได้ 15 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน ปัญหาของดิฉันก็คือ จับได้ว่าสามีไปมีผู้หญิงอื่น และพาไปงานจนออกนอกหน้า ​แรกๆ สามีก็ไม่ยอมรับ เมื่อถามก็พยายามบ่ายเบี่ยง หนักเข้าก็ทำเป็นโมโหและหาว่าดิฉันหาเรื่อง และไม่เชื่อใจ จนดิฉันต้องหาหลักฐานเพิ่ม จนเริ่มจับได้ สุดท้ายก็ต้องยอมรับ เพราะจำนนด้วยหลักฐาน ทั้งภาพถ่าย และดิฉันตามไปเจอด้วยตัวเอง ​แม้จะเสียใจ และเครียด แต่ดิฉันก็คิดว่า พอจะทำใจได้ค่ะ เพราะดิฉันยังมีลูกๆ ที่ต้องรับผิดชอบ ดังนั้น ไม่อยากมานั่งเสียใจจนทำให้ชีวิตก้าวเดินไปข้างหน้าไม่ได้ ​ดิฉันบอกสามีว่า ขอหย่า ในเมื่อไม่รักกันแล้วก็ควรจะแยกย้ายกันไป จะได้ไม่มีปัญหาคาราคาซัง และลูกๆ ก็จะได้ไม่ต้องมาเครียดไปกับเราด้วย แต่สามีไม่ยอมหย่า บอกว่ายังรักดิฉันอยู่ แต่ดิฉันไม่เชื่อแล้วค่ะ คิดอย่างเดียวกว่า ต้องการหย่า เพราะถ้าอยู่ด้วยกันอย่างนี้ดิฉันก็คงไม่เชื่อใจสามีเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
 
                          อยากทราบว่า ถ้าดิฉันต้องเลิกกับสามี ลูกของดิฉันจะได้สิทธิอะไรบ้าง และทรัพย์สินที่มีจะแบ่งกันอย่างไร
 
 
แดง
 
 
ตอบ
 
 
                          ศูนย์ปรึกษากฎหมายชุมชน อาจารย์ปราชญา อ่อนนาค คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต แนะนำเรื่องนี้ว่า กรณีนี้ควรเจรจากับสามีให้ดี ถ้าต้องการจะเลิกกันจริงๆ อยากให้คิดถึงลูกด้วย และถ้าต้องเลิกรากันก็ควรจะตกลงกันโดยดีว่า ทรัพย์สินที่มีอยู่นี้จะแบ่งครึ่งกันอย่างไร หากจดทะเบียนสมรสกัน เมื่อหย่ากันทรัพย์สินที่หามาได้หลังแต่งงาน ซึ่งก็คือ สินสมรส จะต้องแบ่งกันคนละครึ่ง
 
                          แต่ถ้าไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ทรัพย์สินที่หามาได้ ถ้าคุณและสามีเจรจากันได้ก็น่าจะตกลงได้ว่า ใครควรจะได้อะไรไปบ้าง หรือ ถ้าจะให้ดีก็ให้จัดการยกทรัพย์สินที่มีให้ลูกไปเลย ​ส่วนเรื่องสิทธิของลูกนั้น ลูกของคุณมีสิทธิตามกฎหมายทุกอย่างที่จะได้รับสิทธิมรดกทรัพย์สินจากผู้เป็นพ่อตามกฎหมาย
 
 
​ลุงแจ่ม