ไลฟ์สไตล์

ยาดม ยาหม่อง ยาสามัญประจำตัวคู่คนไทย

ยาดม ยาหม่อง ยาสามัญประจำตัวคู่คนไทย

27 มิ.ย. 2557

ดูแลสุขภาพ : ยาดม ยาหม่อง ยาสามัญประจำตัวคู่คนไทย

 
                           ถ้าพูดถึงสิ่งที่คนไทยใช้และนิยมพกพาติดตัวกันเป็นยาสามัญประจำตัว คงจะหนีไม่พ้น ยาดม ยาหม่อง ที่แค่พูดชื่อ ก็บ่งบอกถึงสรรพคุณมากมาย ยาดม ยาหม่อง เป็นยาที่ได้ชื่อว่าสะดวกพกพาง่ายหาซื้อได้ตามร้านค้าหรือร้านขายยาทั่วไป ซึ่งถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่ายาดมยาหม่องนั้นถูกวางขายไว้คู่กันเสมอ
 
                           “ยาดม” จัดเป็นยาที่ใช้กลิ่นบำบัด (Aromatherapy) แบบไทยๆ มีสรรพคุณ บรรเทาอาการหวัด คัดจมูก หน้ามืดตาลาย วิงเวียนศีรษะ คลายเครียด คนไทยโบราณโดยเฉพาะในภาคกลาง ทำยาดมจากผิวส้มโอมือผสมเครื่องหอมอื่นๆ ที่มีส่วนช่วยทำให้สดชื่น และบำรุงหัวใจ แต่ต่อมามีการเติมพิมเสนการบูรและเกล็ดสะระแหน่ เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมเย็นซ่า ปัจจุบันยาดมมีหลากหลายชนิด ทั้งที่เป็นแบบดั้งเดิมที่มีชิ้นสมุนไพร เช่น ส้มโอมือชนิดน้ำ ชนิดชุบไส้กรอง รวมทั้งมีการปรับปรุงรูปลักษณ์ให้ทันสมัย จึงเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่นและคนในวัยทำงานมากขึ้น
 
 
 
ส่วนประกอบของยาดม ประกอบด้วย 
 
                           1.เกล็ดสะระแหน่ 60 กรัม 
 
                           2.การบูร 50 กรัม 
 
                           3.น้ำมันยูคาลิปตัส 30 ซีซี
 
                           4.น้ำมันเขียว 30 ซีซี 
 
                           5.น้ำหอมลาเวนเดอร์ 2 ซีซี
 
 
 
ขั้นตอนการทำ 
 
                           1.นำส่วนผสมข้อ 1 และ ข้อ 2 เทรวมกันปล่อยให้ละลายจนหมดในขวดโหลที่มีฝาปิด เมื่อละลายจนหมดเติมส่วนประกอบในข้อ 3-5 ลงไป
 
                           2.นำไส้ยาดมมาตัดเป็นท่อนๆ แล้วจุ่มไส้ยาดม ลงในน้ำยาในข้อ 1 ปิดฝาขวดโหลให้สนิท ทิ้งไว้ 1 คืน
 
                           3.เมื่อครบเวลานำหลอดยาดมออกมาบรรจุหลอดและติดฉลาก
 
                           ส่วน “ยาหม่อง” นั้น ถือกำเนิดในประเทศแถบยุโรป เนื่องจากเป็นเมืองหนาว อากาศมักจะเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอๆ เป็นเหตุให้คนก็จะเป็นหวัดคัดจมูกกันมาก ดังนั้น จึงมีการใช้น้ำมันที่เรียกว่า เมนทอลาทัม ทาบรรเทาอาการเป็นหวัด คัดจมูก 
 
                           “ยาหม่อง” ถือเป็นสีผึ้งไทยที่ได้รับอิทธิพลจากตะวันตกผ่านมาทางพม่า โดยปกติแล้วคนไทยจะเคี่ยวสมุนไพรเก็บไว้ในขี้ผึ้ง หรือที่เรียกว่ายาหุงขี้ผึ้ง เมื่ออังกฤษได้ยึดครองพม่านำยาในรูปแบบเมนทอลาทัมเข้ามา และแพร่เข้ามาในเมืองไทย “ยาหม่อง” จึงหมายถึงยาที่นำเข้ามาโดยพม่า ซึ่งคนไทยเรียกคนพม่าว่าหม่อง เช่น รัฐบาลหม่อง (หม่องในภาษาพม่าจะใช้นำหน้าชื่อผู้ชายที่มีอายุไม่เกิน 15 ปีคล้ายๆ กับเราที่ใช้คำว่า เด็กชาย) ยาชนิดนี้ต่อมาถูกเรียกติดปากเรื่อยมาว่า “ยาหม่อง” ปัจจุบันคนไทยได้มีการพัฒนายาหม่องมากมายหลากหลายกลิ่น หลากหลายรสสัมผัส รวมทั้งมีการผสมใส่สมุนไพรนานาชนิด เช่น ยาหม่องเสลดพังพอน หรือพญายอ ยาหม่องไพล เป็นต้น ใช้ในการบรรเทาอาการฟกช้ำดำเขียว แก้แมลงสัตว์กัดต่อย แก้หวัดคัดจมูก
 
 
ส่วนประกอบของยาหม่อง ประกอบด้วย 
 
                           1.ใบพญายอ (เสลดพังพอน) แห้งบดหยาบ 20 กรัม
 
                           2.วาสลีน 18 กรัม
 
                           3.ขี้ผึ้ง 18 กรัม
 
                           4.น้ำมันระกำ 28 กรัม
 
                           5.น้ำมันยูคาลิปตัส 10 กรัม
 
                           6.เมนทอล 12 กรัม
 
                           7.การบูร 4.8 กรัม
 
                           8.Hard paraffin 10 กรัม
 
 
 
ขั้นตอนการทำ
 
                           1.ชั่งและตวงสารตามสูตร
 
                           2.ละลายเมนทอลและการบูรในน้ำมันระกำและน้ำมันยูคาลิปตัส
 
                           3.หลอมขี้ผึ้ง, Hard paraffin และวาสลีนให้เข้ากันจนเหลว และใส่ใบพญายอ (เสลดพังพอน) ลงไปเคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ จนกรอบกรองเอากากออก
 
                           4.รอจนเย็นเอามือจับได้จึงเติมลงข้อ 2
 
                           5.บรรจุลงขวด ติดฉลาก
 
                           ยาดม ยาหม่อง ที่นิยมใช้กันในปัจจุบันล้วนพัฒนารูปแบบ กลิ่น สีสัน รสสัมผัส มากจากสมุนไพรไทยโบราณทั้งสิ้น เพื่อให้เข้ากับคนในยุคปัจจุบันมากขึ้น ถือได้ว่า ยาดม ยาหม่อง เป็นยาสามัญประจำบ้านและประจำตัวชั้นเยี่ยม ที่อยู่คู่คนไทยเสมอมา
 
 
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
 
โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
 
โทร.0-3721-1289