ไลฟ์สไตล์

เที่ยวนี้ขอเล่า : อร่อยล้ำในเกาหลี

เที่ยวนี้ขอเล่า : อร่อยล้ำในเกาหลี

06 ก.ค. 2557

เที่ยวนี้ขอเล่า : อร่อยล้ำในเกาหลี : โดย...กาญจนา หงษ์ทอง [email protected]

 
                        พูดเลยว่าฉันไม่ใช่พวกเกาหลีฟีเวอร์ และไม่ได้เป็นแฟนคลับอาหารเกาหลี  แต่ทุกครั้งที่ไปเกาหลี เป็นอันว่าแบกน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นกลับมาเป็นของที่ระลึกให้ตัวเองทุกทีสิน่า 
 
                        เป็นเที่ยวที่เกาะเรือบินของสายการบิน ไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์ (www.airasia.com) ไปเกาหลี หลังจากเขาเปิดเส้นทางบินตรงจากดอนเมืองไปกลับโซลทุกวัน วันละไฟลท์ ด้วยเครื่องแอร์บัส เอ330 ที่ไม่ธรรมดาตรงที่มีที่นั่งชั้นบิสิเนส และ Quiet Zone ด้วย 
 
                        โรงแรมย่าน Jongno ที่จับจองผ่านเว็บไซต์แอร์เอเชียโก(www.airasiago.com) นั้น ใกล้แหล่งท่องเที่ยวดีจริงๆ  ที่จริงในโซลมีที่พักให้เลือกเยอะมาก  แต่เว็บไซต์แอร์เอเชียโกช่วยแยกตามโซนและเลือกได้ตามราคาที่เราพึงพอใจ เลยค้นหาเรือนพักได้แสนสะดวก
 
                        เป็นเที่ยวที่ได้ชิมอาหารเกาหลีตั้งแต่อยู่บนเรือบินแล้ว พอลงจากเครื่องก็พุ่งไปหาตลาดกวางจาง เพื่อหาของอร่อยๆ ชิมอย่างเป็นล่ำเป็นสัน 
 
                        มื้อแรกในโซล  ได้ชิมพาจอน อาหารทอดยอดนิยมที่บางคนก็เรียกว่าแพนเค้กเกาหลี บางคนก็เรียกพิซซ่าเกาหลี บางคนก็เรียกหอยทอดเกาหลี  จะเรียกอะไรก็ช่าง แต่ทุกครั้งที่แวะเวียนไปเกาหลี ฉันมักจะหาพาจอนชิมเสมอ ที่ตลาดกวางจางนั้นมีพาจอนให้เลือกชิมหลายร้าน และยังคงเป็นเมนูที่หากินได้ง่ายเหมือนเคย  
 
                        พาจอนนั้นทำจากแป้งผสมกับกุ้ง ปลาหมึก ไข่และต้นหอม  ตีให้เข้ากันแล้วเอามาทอดบนกระทะร้อนๆ  ดูไปก็เหมือนหอยทอดบ้านเรานั่นแหละ ปกติถ้าเป็นร้านในตลาดก็แผ่นละ 5,000 วอน  แต่ถ้าเป็นตามร้านอาหารดังๆ ก็อาจจะเจอแผ่นละ 2 หมื่นวอน  
 
                        และตลาดกวางจางเป็นอีกที่หนึ่ง ที่นอกจากจะหาพาจอนกินได้ง่ายแล้ว เดินเร่ไปทางไหนก็มี กิมจิ ขายเต็มไปหมด อย่างที่รู้กันว่า ฉันว่าสาเหตุที่คนเกาหลีผอมเพรียว ไม่ค่อยมีคนอ้วน คงเพราะบริโภคกิมจินี่เอง เพราะกิมจิมอุดมไปด้วยสารอาหารตามหลักโภชนาสูงปรี๊ด แต่ปริมาณแคลอรี่ต่ำมาก อัดแน่นไปด้วยผักนานับชนิด ทั้งกระเทียม พริกแดง ต้นหอม น้ำซีอิ๊ว แป้งถั่วหมัก ขิง และน้ำมันงา ดูส่วนผสมแล้ว กินแล้วหุ่นเช้งกระเด๊ะ เพรียวลมสมส่วนแน่นอน แต่ความที่กิมจิเป็นผักที่ดองด้วยกรรมวิธีเก็บถนอมอาหารตามแบบของเกาหลี จึงมีรสเปรี้ยวๆ เค็มๆ และกิมจิบางประเภทมีรสเผ็ดแถมมาด้วย 
 
                        ไม่น่าเชื่อกิมจิที่เห็นวางใส่กะละมังใหญ่ๆ นั้น โดยปกติแค่วันสองวันก็เกลี้ยงแล้ว 
 
                        เส้นทางของผักดองแบบเกาหลีนี้ กว่าจะพัฒนามาเป็นกิมจิรสจัดจ้านแบบปัจจุบันนั้น มีตำนานเล่าขานกันมายาวนานไม่แพ้อาหารไทย ครั้งสมัยโบราณการทำกิมจินั้น ไม่พลิกแพลงหรือปรุงแต่งกันมาก มีแค่แบบเดียวเท่านั้น สูตรโบราณดั้งเดิมคือนำผักใบเขียวหรือหัวผักกาดมาดองกับเกลือหรือเกลือกับเหล้าเท่านั้น รสชาติจะออกเค็มเพียงรสเดียว แต่เดี๋ยวนี้ มีกิมจิหลายสายพันธุ์ แต่ก็ยังคงเป็นอาหารสามัญประจำบ้าน เรียกว่าทุกมื้อในเกาหลี ไม่มีมื้อไหนไม่เจอกิมจิ
 
                        และเหมือนทุกเที่ยวอีกเหมือนกัน ที่ฉันต้องสั่ง ซัมเกทัง หรือไก่ตุ๋นโสมมาจิบให้อุ่นท้อง ยิ่งถ้ามาช่วงฤดูหนาวกินแล้วจะมีความสุขมาก เพราะยิ่งอุณหภูมิดำดิ่งถ้าได้ซดไก่ตุ๋นโสมร้อนๆ ช่วยคลายหนาวได้จริงๆ 
 
                        แต่สำหรับคนที่ชอบรสชาติอาหารจัดจ้านเป็นทุนเดิมคงไม่ถูกใจนัก เพราะซัมเกทัง เป็นอาหารสุขภาพ จึงเป็นอาหารรสจัด คือจัดว่าจืด แถมไม่ได้จืดธรรมดา แต่จืดสนิท 
 
                        ซัมเกทังก็ใช่ว่าจะอร่อยไปเสียทุกร้าน เพราะถ้าไปเจอร้านที่ตุ๋นไก่เปื่อยตามสูตรตุ๋น 48 ชั่วโมง น้ำซุปจะหวาน แค่เอาเกลือเหยาะลงไปหน่อยก็อร่อยเหาะแล้ว แต่ถ้าเจอร้านที่ประหยัดแก๊ส ตุ๋นประเดี๋ยวประด๋าว คุณจะนึกรำคาญไก่ตัวนั้นขึ้นมาทันที เพราะการชิมซัมเกทังไม่ได้จิบน้ำซุปอย่างเดียว แต่สนุกตรงได้คุ้ยแคะชำแหละเนื้อไก่กันเป็นตัว ที่ด้านในซ่อนทั้งข้าวเหนียวที่ สมุนไพรชนิดต่างๆ ทั้งพริกไทยแดง รากโสม เกาลัด พุทราจีน  
 
                        ถ้าจะว่ากันด้วยเรื่องอาหารการกินแล้ว ขาดซะไม่ได้ก็คงเป็นพวกปิ้งย่างเกาหลี ที่มากี่เที่ยวก็หนีกันไม่พ้น โฉบเข้าไปร้านไหนก็เห็นเตาปิ้งย่างอยู่ประจำโต๊ะแล้ว เที่ยวนี้ก็ไม่รอด พุลโกกิ และ คาลบิ คือเมนูหาชิมง่ายของเกาหลี 
 
                        จะว่าไปแล้ว พุลโกกิ ถูกจัดเป็นหนึ่งในอาหารแถวหน้าของเกาหลี  เนื้อนุ่มๆ หั่นบางๆ หมักในซอสที่ทำด้วยซอสถั่วเหลือง น้ำมันงา กระเทียมและเครื่องปรุงรสพื้นเมืองของเกาหลี  ย่างบนเตาบนโต๊ะอาหาร บางร้านตั้งกระทะตรงกลางโต๊ะ ในกระทะจะมีน้ำตุ๋นของเนื้อหอมหวาน ขลุกขลิกอยู่ในกระทะ 
 
                        พุลโกกิเป็นเนื้อที่ถูกหั่นเป็นชิ้นบางๆ คัดสรรเนื้อจากส่วนที่นุ่มที่สุด เช่นเนื้อสันใน มีตั้งแต่เนื้อวัว เนื้อหมู  เนื้อไก่ เนื้อแกะ ไปจนถึงปลาหมึก โดยเนื้อสัตว์พวกนี้จะถูกนำมาหมักกับเครื่องปรุงจนได้ที่ ก่อนที่จะนำไปย่างบนเตาไฟ พอเนื้อสุกได้ที่ก็หนีบมาวางบนผักสด จากนั้นหนีบกิมจิมาวางบนเนื้อ บรรจงคีบกระเทียมและพริกไทยสดมาวางข้างบน จากนั้นถึงห่อผักให้เป็นคำเหมือนเมี่ยง 
 
                        กวาดสายตามองไปโต๊ะข้างๆ จะเห็นว่าแทบทุกโต๊ะ มีอีกอย่างที่ตั้งประดับโต๊ะคือเหล้าปกติเหล้าพื้นเมืองของเกาหลีมีหลายแบบ ถ้าเป็นเหล้าบริสุทธิ์เขาเรียกยักจู  เหล้าข้นไม่ได้กลั่นเรียกตั๊กจู แต่แบบที่มีอยู่แทบทุกโต๊ะคือโซจู เหล้ากลั่นขวดสีเขียวที่ทำให้ยามค่ำคืนของคนเกาหลีมีความสุขเสมอ
 
                        ไม่ใช่พวกขาช็อปเท่านั้นนะที่หลงรักเกาหลี  แต่พวกขาชิมก็มีเมนูอร่อยล้ำที่ทำให้เอ็นจอยอีทติ้งสุดๆ บางทีนี่อาจจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เทียวไปเทียวมาเกาหลีได้อย่างไม่รู้เบื่อ
 
 
 
 
 
--------------------------
 
(เที่ยวนี้ขอเล่า : อร่อยล้ำในเกาหลี : โดย...กาญจนา หงษ์ทอง [email protected])