
ใช้ว่านชักมดลูกผิดชนิด เป็นพิษต่อตับและไต
07 พ.ย. 2557
ดูแลสุขภาพ : ใช้ว่านชักมดลูกผิดชนิด เป็นพิษต่อตับและไต
ว่านชักมดลูก ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Curcuma comosa Roxb. อยู่ในวงศ์ ZINGIBERACEAE และมีชื่ออื่นๆ ว่า ว่านชักมดลูกตัวเมีย ว่านทรหด ว่านหำหด มีลักษณะเป็นหัว หรือเหง้าหลักทรงกลม กลมแป้น รูปรี รูปไข่ ลำต้นเทียม ใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปใบหอก เส้นกลางใบสีแดง ช่อดอกออกจากกลางเหง้า รูปทรงกระบอก ก้านช่อดอกยาว 2-5 ซม. ใบประดับตอนล่างสีขาว มีแถบสีขาว กลีบดอกสีขาว ไม่ติดผล ขยายพันธุ์โดยการแยกหัว
ภญ.ดร.สุภาพร ปิติพร หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า ว่านชักมดลูก เป็นสมุนไพรที่อยู่ในตระกูลขมิ้น มีสรรพคุณในตำราไทย คือ ใช้เหง้าว่านชักมดลูกรักษาอาการของสตรี เช่น แก้มดลูกพิการ ทำให้มดลูกเข้าอู่ แก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ปวดท้องระหว่างมีประจำเดือน ตกขาว ขับน้ำคาวปลา แก้ธาตุพิการ อาหารไม่ย่อย ริดสีดวงทวาร และไส้เลื่อน เดิมว่านชักมดลูกเป็นสมุนไพรพื้นๆ ที่หมอยาพื้นบ้านจะใช้รักษาอาการข้างต้น แต่ปัจจุบันมีการนำว่านชักมดลูกทำเป็นผลิตภัณฑ์ขายกันอย่างกว้างขวาง จนกระทั่ง ศ.ดร.ภาวิณี ปิยะจตุรวัฒน์ ได้ทำการศึกษาวิจัยฤทธิ์ทางเภสัชและพิษวิทยา พบว่า ว่านชักมดลูกที่ขายในตลาดมีอยู่หลายสายพันธุ์ แยกได้เป็นพันธุ์ตัวเมีย และพันธุ์ตัวผู้
โดยว่านชักมดลูกตัวเมีย จะมีเส้นกลางใบสีเขียว ก้านช่อดอกสั้น หัวใต้ดินมีลักษณะกลมรีตามแนวตั้ง แขนงสั้น ผ่าดูเนื้อในมีสีขาวนวล วงในมีสีชมพูเรื่อๆ ทิ้งไว้สีชมพูจะเข้มขึ้น มีสรรพคุณที่เป็นประโยชน์กับผู้หญิงวัยทอง เนื่องจากมีสารที่มีฤทธิ์คล้ายโมนเอสโตรเจน มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ
ส่วนว่านชักมดลูกตัวผู้นั้น จะมีเส้นกลางใบสีแดง ก้านช่อดอกยาว หัวใต้ดินจะมีลักษณะกลมแป้นกว่า แขนงข้างยาวกว่า แต่บางครั้งแขนงข้างถูกตัดออกไป หรือหักไป ทำให้จำแนกได้ไม่ชัดเจน เมื่อผ่าดูเนื้อในมีสีขาวนวล วงในออกสีเขียวแกมเทาอ่อนๆ แต่เมื่อทิ้งไว้จะออกสีชมพูเข้มขึ้นเช่นเดียวกัน หากไม่มีตัวอย่างเปรียบเทียบจะแยกได้ยากมาก ว่านชักมดลูกตัวผู้ จะมีพิษต่อตับ ไต ม้าม แถมยังไม่มีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน หรือมีน้อยมากอีกด้วย
แม่หมอในสามจังหวัดภาคใต้ เล่าว่า ว่านชักมดลูก ช่วยกระชับหน้าท้องที่หย่อนคล้อยหลังคลอด ทำให้มดลูกเข้าอู่เร็ว รักษาอาการปวดประจำเดือนมาไม่ปกติ ขับประจำเดือน รักษาอาการตกขาวในสตรีให้ดีขึ้น แต่ไม่แนะนำให้รับประทานติดต่อทุกวัน อาจจะเว้นวันบ้าง ส่วนหมอยาภาคกลาง ภาคอีสาน และพ่อหมอแม่หมอเมืองเลย ใช้ว่านชักมดรักษาอาการมดลูกหย่อนหลังคลอดลูก แก้ริดสีดวงทวาร เป็นยาแก้ตกขาว
ตำรับยา
ยาทำให้มดลูกเข้าอู่
นำว่านชักมดลูกมาฝาน 3 ฝาน 7 ฝาน แล้วแต่ละหัว น้ำประมาณลิตรครึ่ง ต้ม 3 เอา 1 กินครั้งละ ? แก้ว วันละ 3 ครั้ง ดื่มไปจนกว่าไม่เจ็บปวด ท้องแฟบ หลังคลอด ควรกินหลังจากที่มีน้ำนมแล้ว
ยารักษาอาการตกขาว
นำกิ่งและใบของกระบือเจ็ดตัว 1-2 กำมือ และว่านชักมดลูก 5-7 แว่น ใส่น้ำให้ท่วมยา ต้มเดือดประมาณ 15 นาที ดื่มครั้งละ ?-1 แก้ว 3 เวลา ก่อนอาหาร
ยาแก้ปวดประจำเดือน
นำโกฐหัวบัว ว่านชักมดลูก ใช้ฝนกับน้ำพอกินหมด ฝนนาน 2 นาที จนได้น้ำยาสีขาวขุ่น กลิ่นหอม รสขม รับประทาน 1-2 ครั้ง ก็จะหาย
ยาคลอดลูกง่าย
นำว่านชักมดลูกฝานเป็นแว่น (4-5 แว่น) แช่น้ำอาบ จะทำให้คลอดลูกง่าย
ยาแก้มดลูกหย่อน
นำข่าหด 2 นิ้วมือ ว่านชักมดลูก 1 ฝาน ต้มดื่มครั้งละ 1 แก้ว เช้า-เย็น หรือใช้ข่าหด 1-20 กีบ ว่านชักมดลูก 1 ฝาน ตะไคร้ต้น 1-2 กีบ ข่าธรรมดา (แก่) 2-3 ท่อน ต้มเข้าด้วยกัน ดื่ม เช้า-เย็น
ยาแก้ปวดมดลูก ปวดท้อง แน่นท้อง ปัสสาวะกะปริดกะปรอย ทำงานหนักไม่ได้
ว่านชักมดลูก ฝาน 3 แว่น ต้มดื่มเฉพาะเวลาปวด
ยาสตรีปวดมดลูก
นำพริกไทยล่อน 7 เม็ด ดีปลี 7 เม็ด กระเทียม 7 กลีบ ขิง 7 ชิ้น ไพลสด 7 แว่น ว่านชักมดลูก 7 แว่น เอาตัวยารวมกันตำให้ละเอียด นำไปต้ม ดื่มเช้า-เย็น ประมาณ 3 วันก็จะหาย
ยาแก้เจ็บขา ปวดขา
ฝานว่านชักมดลูก 7 แว่น ย่างไฟจนกรอบ ดองเหล้า 3 คืน กินเช้าก๊ง แลงก๊ง (ค่อยๆ กิน)
น่ารู้
-การเก็บว่านชักมดลูก ต้องเก็บในฤดูแล้ง ประมาณเดือน 11 แรม 1 ค่ำ ไปถึงกลางเดือน 3 (เดือนไทย) ถ้าฝนตกแล้ว สรรพคุณจะน้อย ใช้รักษาไม่ค่อยได้ผล
-การต้มว่านชักมดลูก ต้องต้มจนฟองยุบลง จึงจะใช้ได้ ถ้ายังไม่ยุบแสดงว่าใช้ไม่ได้ ทำให้เกิดอาการเมาเบื่อ
-การใช้ว่านชักมดลูกเพื่อให้มดลูกเข้าอู่ แม่หลังคลอดต้องรอให้มีน้ำนมก่อนจึงจะใช้ได้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
โทร.0-3721-1289