ไลฟ์สไตล์

พลิกหน้าหนังสือท่องเที่ยวเนื้อแน่น

พลิกหน้าหนังสือท่องเที่ยวเนื้อแน่น

14 ธ.ค. 2557

อมหมึกเคี้ยวกระดาษ : พลิกหน้า..หนังสือท่องเที่ยวเนื้อแน่น : โดย...ปลวกหวาน

 
              "โลกใบนี้เปรียบเสมือนหนังสือและผู้ที่ไม่เคยเดินทางเลยก็เปรียบเสมือนผู้ที่ได้อ่านหนังสือเพียงหน้าเดียว…" เซนต์ออกัสติน เคยกล่าวไว้อย่างนั้น
 
              ดูเหมือนว่านักเดินทางทั่วโลกต่างเข้าใจความจริงข้อนี้เป็นอย่างดี จึงได้แสวงหาดินแดนที่แปลกใหม่ แง่มุมที่ไม่ซ้ำใครมานำเสนอไว้อย่างน่าสนใจ ยุคที่หนังสือท่องเที่ยวผุดพรายราวดาวกระจาย แต่ก็มีอยู่ไม่มากนัก ที่นับเป็นสารคดีท่องเที่ยวเนื้อหาเข้มข้น  แน่นด้วยสาระบันเทิงที่อยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง
 
              กว่าจะได้หนังสือท่องเที่ยวดีๆ สักเล่มให้นักอ่านได้หยิบจับ นักเขียนมากมายเหล่านั้นให้ความสำคัญต่อคอนเทนต์ของตัวเองกันอย่างไร ลองฟัง ‘ณัฐพงศ์ ไชยวานิชย์ผล’ หรือ ‘นัทคุง’ หนุ่มหล่อจากสำนักพิมพ์แซลมอนบุ๊คส์ สุดยอดแฟนพันธุ์แท้ประเทศญี่ปุ่น เจ้าของผลงาน เอ๊ะ! เจแปน, JAPAN DID และ เอ๊ะ! เจป๊อป และนักเขียนสาวหัวใจแกร่ง ที่ฝ่าความหนาวเหน็บกับอุณหภูมิติดลบในขั้วโลกใต้ ลุยทะเลหิมะสู่ดินแดนแอนตาร์กติกา ‘เกศณี’ ไทยสนธิ กับ แอนตาร์กติกา แรกรัก...น้ำต้มผักยังแข็ง สำนักพิมพ์ HIDEAWAY
 
              "นัทคุง" เปิดหัวใจของการถ่ายทอดคอนเทนต์จากนักเขียนไปถึงผู้อ่านว่า “ผมชอบงาน non-fiction ของนักเขียนเก่งๆ เพราะมีความแม่นยำเรื่องเนื้อหา และเล่าออกมาได้สนุก นั่นคือสิ่งที่ผมคิดว่าสำคัญมากครับ ผมพยายามเช็กข้อมูลให้แม่นที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ ไม่อยากเอาข้อมูลแบบลอยๆ หรือเคยได้ยินคนอื่นพูดมาใส่ในหนังสือ เพราะถือว่าไม่ให้เกียรติคนอ่านครับ”
 
              นอกจากนี้ยังเชื่อว่า หนังสือแต่ละเล่มมีอิทธิพลต่อผู้อ่านเสมอ สำหรับหนังสือที่เขาเขียน คิดว่าไม่ต้องถึงขั้นส่งอิทธิพลจนเกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรก็ได้ แค่ผู้อ่านได้ความรู้และเข้าใจประเทศญี่ปุ่นมากขึ้นก็ดีใจแล้ว..(ว้าว)
 
              มาถึงอีกหนึ่งนักเขียนนาม "เกศณี ไทยสนธิ" ก่อนอื่นต้องบอกว่าเธอเป็นหญิงเดี่ยวเที่ยวรอบโลกตัวจริง และหนังสือเล่มนี้ของเธอเนื้อแน่นไม่แพ้กัน ใครอยากได้ข้อมูล Excusive เกี่ยวกับทวีปแอนตาร์กติกา เล่มนี้เป็นตัวช่วยแรกที่ต้องกดไฟเขียว
 
              เกศณี..เล่าถึงแหล่งข้อมูลที่นำมาถ่ายทอดลงในหนังสือว่า “แอนตาร์กติกาเป็นทวีปที่มีคนไปเยือนน้อยมาก โครงหลักข้อมูลส่วนใหญ่มาจากห้องเลคเชอร์บนเรือ เรียกว่าเป็นสถาบันการศึกษาหลักเลยก็ได้ เพราะเราใช้ชีวิตอยู่บนเรือนาน 21 วัน มีผู้เชี่ยวชาญจากสาขาต่างๆ เช่นนักประวัติศาสตร์ นักน้ำแข็งวิทยา นักชีววิทยาทางทะเล ปักษีวิทยา นักวิทยาศาสตร์อีกหลายๆ ท่านมาเลคเชอร์ให้ทุกวัน ยังมีพิพิธภัณฑ์ในเซาท์จอร์เจียที่มีข้อมูลให้ได้ศึกษาในเชิงลึก ค้นคว้าเพิ่มเติมจากห้องสมุดที่อาร์เจนตินา และตรวจสอบความถูกต้องกับผู้เชี่ยวชาญอีกหลายครั้ง รายละเอียดในการเดินทางนั้น แน่นอนว่าต้องมาจากประสบการณ์ในแต่ละวันที่ได้เห็นด้วยตาและสัมผัสมาจริงๆ”
 
              แอนตาร์กติกา แรกรัก..น้ำต้มผักยังแข็ง ถือเป็นสารคดีท่องเที่ยวที่ยังคงความเป็นสารคดีอยู่มาก เพราะเจตนาเบื้องต้นของผู้เขียนคือการให้สาระ แทรกความรู้และข้อเท็จจริง โดยเกศณีบอกว่า ชอบอ่านสารคดีแบบการเล่าเรื่องแบ่งปันประสบการณ์ให้คนอ่านฟัง แอนตาร์กติกานั้นมีความลี้ลับ ความพิเศษอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว เหมือนเวลาเจอหญิงสาวที่เกิดมางดงามโดยธรรมชาติ อยากนำเสนอแบบเพียวๆ โดยที่ไม่ต้องใช้เครื่องสำอางใด มาปรุงแต่งใบหน้าของผู้หญิงคนนี้เลย และขอยืนยันว่าเธอมหัศจรรย์มาก
 
              เดินทางไปดินแดนนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย สิ่งที่เธอได้กลับมาคือ ความแปลกของการเดินทาง เหตุการณ์ที่ได้พบเจอ ยิ่งไปได้ยาก เป็นทวีปที่เข้าถึงยาก ยิ่งอยากรู้ อยากเห็น สิ่งที่ปรากฎตรงหน้า เรื่องราวที่น่าสนใจกว่าที่คิดมากมาย เชื่อว่าหากได้แบ่งปันให้หลายๆ คนได้อ่านก็น่าจะมีประโยชน์รอบด้านทั้งในเชิงภูมิศาสตร์ สิ่งแวดล้อมและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ
 
              และสำหรับสิ่งที่นักเขียนทั้งคู่มีเหมือนกันคือ ความรักในสถานที่นั้นอย่างมาก อยากถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้รู้จักเช่นเดียวกับที่ได้ไปสัมผัสมา
 
              แม้ตัวอักษร รูปภาพภายในเล่มจะบอกล่ามาไม่ได้ทั้งหมด เชื่อว่า ผู้อ่านก็น่าจะเกิดแรงบันดาลใจ เกิดคำถาม ที่ต้องค้นหาคำตอบด้วยตัวเองและอยากแพ็กกระเป๋าออกเดินทางเพื่อหาความประทับใจในรูปแบบของตัวเองบ้าง..(สักวัน)