"สุเทพสังคโลก"ร้านต้นแบบ หัตถกรรมเชิงศิลป์ดินเผาสุโขทัย
เครื่องสังคโลก จ.สุโขทัย วัฒนธรรมเชิงศิลป์ที่เป็นเอกลักษณ์สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน จนพัฒนามาเป็นเครื่องมือใช้สอยที่ทันสมัยในปัจจุบัน หากแต่ร้าน "สุเทพสังคโลก" ตั้งอยู่เลขที่ 203/2 หมู่ 3 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัย นั้นคือ เป็นร้านต้นแบบดั้งเดิมของผลิ
คำว่า "สังคโลก" มีผู้สันนิษฐานไว้ต่างกัน บ้างว่ามาจากคำว่า "ซ้องโกลก" แปลว่าเตาแผ่นดินซ้อง บ้างว่ามาจากคำว่า "ซันโกโรกุ" หรือ "ซังโกโรกุ" ในภาษาญี่ปุ่น ซึ่งอาจเพี้ยนมาจากคำว่า "สวรรคโลก" อันเป็นชื่อที่แพร่หลายของเมืองเชลียงหรือศรีสัชนาลัยในพงศาวดารอยุธยา ซึ่งได้พบเตาผลิตมากมายในบริเวณนี้ที่จริงการผลิตเครื่องสังคโลกมีมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยสุโขทัยเป็นราชธานี และได้สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน โดยชาวตำบลเมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัย ที่ชื่อ แฟง พรมเพ็ชร ได้ชื่อว่าเป็นผู้รักงานหัตถกรรมเชิงศิลป์นี้เป็นอย่างมาก ในฐานะเป็นตระกูลเก่าแก่ที่ผลิตเครื่องสังคโลกมาอย่างยาวนานและมีโอกาสได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อครั้งเสด็จฯ มาสุโขทัยอีกด้วย
สุเทพ พรมเพ็ชร อายุ 53 ปี เจ้าของร้าน "สุเทพสังคโลก" ซึ่งเป็น 1 ใน 9 ที่เป็นทายาทของแฟง พรมเพ็ชร ได้สานต่ออาชีพผลิตเครื่องสังคโลกจากรุ่นพ่อ และมีการพัฒนารูปแบบของสินค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น แต่ยังเน้นรูปแบบตามของโบราณสมัยสุโขทัย ซึ่งเครื่องปั้นดินเผาสมัยนั้นจะไม่มีการเคลือบหรือที่เรียกว่า "ของแดง" ถือเป็นจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ชนิดนี้
สนอง พรมเพ็ชร ภรรยาสุเทพได้ย้อนอดีตให้ฟังว่า หลังจากสามีได้รับการว่าจ้างจากกรมศิลปากรที่ 3 ให้เข้าร่วมงานในตำแหน่งช่างซ่อมโบราณวัตถุ ทำให้มีความคิดจะทำเครื่องปั้นดินเผาสังคโลกเลียนแบบของโบราณ ซึ่งได้รับคำแนะนำจากนายมะลิ โครกสันเที๊ยะ หัวหน้ากรมศิลปากรที่ 3 สมัยนั้นในเรื่องเทคนิคการผลิตต่างๆ เช่นน้ำเคลือบจะต้องประกอบไปด้วย ขี้เถ้าไม้ หินและดิน เป็นต้น จนเกิดความชำนาญ ก่อนจะผันตัวเองมาตั้งโรงงานโดยใช้ชื่อว่า "สุเทพสังคโลก" และได้ถ่ายทอดวิชาความรู้แก่ญาติพี่น้องเพื่อทำเป็นอาชีพสร้างรายได้แก่ตนเองและครอบครัว
"ที่นี่เป็นร้านแรก เก่าแก่ที่สุดของตระกูล ปัจจุบันมีอยู่ 3 สาขา ซึ่งเป็นร้านของญาติพี่น้องที่แยกตัวออกไปทำกัน ก็ยังใช้ชื่อสุเทพสังคโลก เช่นเดิม แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ยังให้ความสนใจที่ร้านนี้กัน เพราะเป็นร้านดั้งเดิม ถ้ามาสุโขทัยอยากจะได้ผลิตภัณฑ์เครื่องสังคโลกส่วนใหญ่จะมาแวะที่ร้านกัน" สนองให้ความเห็นถึงกลุ่มลูกค้าที่เข้าร้าน ซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกหาซื้อผลิตภัณฑ์ถ้วย ชาม ชุดกาแฟ และพระพิฆเนศ ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความสำเร็จ ราคาจำหน่ายมีตั้งแต่หลักสิบยันหลักแสน ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของลูกค้าที่จะนำไปใช้สอย
ส่วนเรื่องการตลาดนั้น เธอระบุว่าที่ผ่านมาไม่ค่อยมีปัญหา แต่เริ่มมีปัญหาในช่วงปีที่ผ่านมา เนื่องจากตลาดต่างประเทศที่เป็นลูกค้าหลักอย่างสหรัฐอเมริกา เยอรมนี ไม่มีออเดอร์เข้ามา อาจเป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจที่มีปัญหาที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็ได้ ทำให้รายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์อยู่ตลาดในประเทศเป็นหลัก ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นลูกค้าประจำ
"ตอนนี้ตลาดหลักอยู่ที่กรุงเทพฯ และนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวสุโขทัย ผลิตภัณฑ์ที่ขายดีในช่วงนี้ก็จะมีพระพิฆเนศ ถ้วย ชาม ชุดกาแฟเป็นส่วนใหญ่ ผู้สนใจเครื่องสังคโลกติดต่อได้ที่ 08-7198-0203 ได้เลย" สนองกล่าวย้ำ
เครื่องสังคโลกสุโขทัย นับเป็นหัตถกรรมเชิงศิลป์อันล้ำค่า ที่ไม่เพียงแค่อนุรักษ์ไว้ให้ชนรุ่นหลังได้ชื่นชมเท่านั้น ยังเป็นการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน คนเมืองพ่อขุนได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
เคล็ดลับการทำเครื่อง"สังคโลก"
ใช้ดินจากเตาทุเรียงหรือดินสุโขทัยนำมาหมักให้เหลวประมาณ 3-4 วัน จนดินมีลักษณะเหมือนโคลนหรือเลน จากนั้นนำผ้าขาวบางมากรองสิ่งเจือปนออกจากดินปั้นให้เป็นก้อนแล้วนำไปผึ่งลมให้ดินพอหมาดๆ นำไปตำให้ละเอียด ผสมน้ำนวดให้เหนียวแล้วนำมาทุบให้เป็นก้อนสี่เหลี่ยมแล้วนำไปใส่ถุงเก็บไว้ทำแบบนี้ประมาณ 5 ครั้งแล้วจึงจะนำดินมาปั้นแล้วนำไปผึ่งลมตามธรรมชาติ ใช้กระดาษทรายถูผิวของดินที่นำไปปั้นเป็นชิ้นงานให้เรียบร้อย จากนั้นนำเข้าเตาเผาใช้เวลาประมาณ 1 วันแล้วอบให้ร้อน 2 วันแล้วบีสประมาณ 1 วันในอุณหภูมิ 800 องศาเซลเซียส
จากนั้นทิ้งให้เตาเย็นประมาณครึ่งวันแล้วเปิดเตาเอาผลิตภัณฑ์ที่ได้ออกมาแล้วนำมาขัดด้วยกระดาษทราย จุ่มน้ำยาเคลือบซึ่งประกอบด้วยขี้เถ้า และไม้ต่างๆ เช่น ไม้ยง ไม้มะม่วงแล้วผสมกับสี จากนั้นนำมาเช็ดให้สะอาดแล้วนำเข้าเตาเผาอีกครั้งประมาณ 1 วัน (12 ชั่วโมง) ในอุณหภูมิ 1,250 องศาเซลเซียส เสร็จแล้วนำออกจากเตามาขัดด้วยกระดาษทรายอีกครั้ง จากนั้นนำออกจากเตาเผามาขัดตกแต่งให้เกลี้ยง พร้อมที่จะนำส่งจำหน่ายหรือวางขายได้ทันที
"สุรัตน์ อัตตะ"