ผู้ค้างาช้าง-ผู้ครอบครอง...ต้องแจ้งครอบครอง (2) | คมชัดลึก

 

                              กรณีเป็นผลิตภัณฑ์จากงาช้าง เครื่องประดับ ของใช้ เครื่องมือ อุปกรณ์ หรือสิ่งของใดๆ ที่ทำจากงาช้าง หรือมีงาช้างเป็นส่วนประกอบ 

 

                              -ผลิตภัณฑ์งาช้างแมมมอธ ไม่ต้องแจ้งการครอบครอง (ไม่เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง และไม่อยู่ในบัญชีไซเตส) 

 

                              -ผลิตภัณฑ์งาช้างแอฟริกา เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง ต้องแจ้งการครอบครองตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2557 ต่อกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2558 ถึงวันที่ 11 มิถุนายน 2558 พ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าว และถูกตรวจสอบพบว่ามีไว้ในครอบครองซึ่งผลิตภัณฑ์จากงาช้างแอฟริกา อาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 55 ฐานช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งสัตว์ป่าซากของสัตว์ป่าหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าอันได้มาโดยการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

 

                              -ผลิตภัณฑ์งาช้างป่า (ช้างเอเชีย) หากถูกตรวจสอบพบว่ามีไว้ในครอบครองซึ่งผลิตภัณฑ์จากงาช้างป่า อาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 55 ฐานช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งสัตว์ป่าซากของสัตว์ป่าหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าอันได้มาโดยการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

 

                              -ผลิตภัณฑ์งาช้างบ้าน (ช้างที่เป็นสัตว์พาหนะ) ต้องแจ้งการครอบครองตาม พ.ร.บ.งาช้าง พ.ศ.2558 ต่อกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช มี 2 กรณี ดังนี้ 

 

                              (1) มีอยู่ก่อนวันที่ พ.ร.บ.งาช้าง พ.ศ.2558 ใช้บังคับ (22 ม.ค.2558) ต้องแจ้งการครอบครองภายในวันที่ 21 เมษายน 2558 ฝ่าฝืนไม่แจ้งการครอบครองภายในกำหนดเวลา มีโทษปรับไม่เกิน 3 ล้านบาท 

 

                              (2) ได้มาหลังจาก พ.ร.บ.งาช้าง พ.ศ.2558 ใช้บังคับ (ได้มาตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค.2558) ต้องแจ้งการครอบครองภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้งาช้างนั้นมา ฝ่าฝืนไม่แจ้งการครอบครองภายในกำหนดเวลา มีโทษปรับไม่เกิน 3 ล้านบาท 

 

 

2.จะตรวจสอบได้อย่างไรว่างาช้างของเราเป็นงาช้างชนิดใด 

 

                              ถ้าเป็นการตรวจสอบทางกายภาพด้วยตาสามารถตรวจแยกได้เฉพาะงาช้างแมมมอธกับงาช้างปัจจุบัน (งาช้างเอเชียและงาช้างแอฟริกา) โดยดูจากมุมของเส้นลายงาที่หน้าตัดขวางของงาช้างนั้น หากเป็นงาช้างแมมมอธมุมของเส้นลายงาจะเป็นมุมแหลมกว่างาช้างปัจจุบัน 

 

                              การจำแนกงาช้างแอฟริกา กับงาช้างเอเชีย ไม่สามารถจำแนกทางกายภาพได้ โดยเฉพาะงาช้างที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก และงาช้างที่นำไปทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ แล้ว เพราะการตรวจจำแนกชนิดต้องใช้วิธีการตรวจสอบทางพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) โดยหากเป็นผลิตภัณฑ์งาช้างชิ้นเล็กๆ แล้วการตรวจสอบอาจทำให้ผลิตภัณฑ์นั้นเสียหายเพราะต้องทำการบดผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเพื่อนำมาสกัดสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) 

 

 

3.ถ้ามีงาช้างบ้านอยู่เล็กน้อยและไม่ได้ทำการค้าไม่ต้องแจ้งการครอบครองได้หรือไม่ 

 

                              กฎหมายยกเว้นให้หน่วยงานของรัฐที่ไม่ต้องแจ้งการครอบครองงาช้างทุกลักษณะทุกขนาด แต่สำหรับบุคคลทั่วไปยกเว้นการแจ้งการครอบครองให้เฉพาะการครอบครองผลิตภัณฑ์งาช้างบ้านที่ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อการค้า คนละไม่เกิน 4 ชิ้น (โดยใน 4 ชิ้นนั้นเป็นอย่างเดียวกัน ได้อย่างละไม่เกิน 2 ชิ้น) และรวมทั้งครอบครัวไม่เกิน 12 ชิ้น และรวมน้ำหนักทั้งหมดไม่เกิน 0.5 กิโลกรัม (ครึ่งกิโลกรัม) และกฎหมายกำหนดหากใช้สิทธิ์ยกเว้นไม่แจ้งการครอบครอง ก็จะไม่สามารถจำหน่าย จ่าย โอน งาช้างนั้น เว้นแต่เป็นการโอนหรือตกทอดทางมรดก ซึ่งผู้รับมรดกต้องครอบครองไม่เกินจำนวนที่กำหนดยกเว้นนี้ด้วย 

 

                              ดังนั้นหากเป็นงาช้างสมบูรณ์หรืองาท่อนต้องแจ้งการครอบครอง หรือหากเป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นใหญ่รวมน้ำหนักเกินครึ่งกิโลกรัมต้องแจ้งการครอบครอง 

 

 

 

 

 

กระทรวงการต่างประเทศ