เที่ยวนี้ขอเล่า : คลาสสิก...คิวบา | คมชัดลึก

 

                       ถ้าไม่ไปตอนนี้ บางทีฉันอาจไม่ได้เห็น คิวบา(Cuba) ในแบบที่ร้อยเรียงไว้ในตัวอักษรก็เป็นได้ และบางทีอาจไม่ใช่คิวบาในแบบที่จินตนาการไว้ ไม่มีเซียนหน้าไหนขู่ แต่ฉันขู่ตัวเองแท้ๆ

 

                       อุปสรรคดาหน้าถาโถมเข้ามาเหมือนฝนห่าใหญ่ คิวบารอแล้วรอเล่า ส่วนคนจะไปก็อับเฉาไม่แพ้คิวบา

 

                       แต่ฉันพูดเสมอว่า คนเราถ้าไม่ยอมอ่อนข้อให้ปัญหาและอุปสรรคซะอย่าง จะช้าหรือเร็วก็ได้ไปอยู่ดี 

 

                       ชีวิตวนเวียนอยู่กับการแก้ปัญหาอันชุลมุนเกี่ยวกับการเดินทางอยู่หลายเดือน ทั้งหมดนี้ปัญหาใหญ่ๆ เกิดจาก อเมริกาและคิวบาเขาไม่นับญาติกัน แต่ถ้าเป็นแถวบ้านเรียกเกลียดกันชนิดไม่เผาผี นั่นทำให้การหาเรือบินจากอเมริกาเข้าคิวบา ไม่อาจทำได้อย่างง่ายดายนัก ทั้งที่มีข่าวหนาหูในช่วงปีสองปีนี้ว่า 2 ประเทศนี้น่าจะเริ่มหันหน้ามาคุยกันมากขึ้น นั่นหมายถึงว่า หลังจากอะไรต่อมิอะไรคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น การเดินทางจากอเมริกาไปสู่คิวบาคงง่ายดายขึ้น ในเวลาเดียวกัน คิวบาอันสุดแสนเอ็กซอติกของฉันก็อาจจะเปลี่ยนโฉมหน้าไปในแบบที่หวาดหวั่นก็ได้ 

 

                       จะอะไรก็ช่างเถอะ ฉันยังคงเดินหน้าบินเข้าไปตั้งหลักที่อเมริกา ด้วยสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส (www.qatarairways.com) จากกรุงเทพฯ ไปตั้งหลักที่โดฮาก่อน พักยืดเส้นยืดสายสัก 2 ชั่วโมง จากนั้นบินตรงรวดเดียวจากโดฮาถึงไมอามี่เลย สิริรวมแล้วใช้เวลาแค่ 20 กว่าชั่วโมงเท่านั้น สบายๆ ไม่เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวเหมือนไปไมอามี่ครั้งก่อนที่ต้องบินหลายตลบจนเพลียไปหมด แถมในช่วงที่พักต่อเครื่องที่สนามบินฮามัด อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์พอร์ต ก็แสนสบายเพราะสนามบินนี้อำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารอย่างครบครัน จะเรียกว่าเป็นสนามบินห้าดาวก็ได้ 

 

                       ที่จริงกาตาร์แอร์เวย์ส ไม่ได้มีเที่ยวบินเข้าอเมริกาแค่ที่ไมอามี่เท่านั้น แต่ยังสามารถบินเข้าออกได้อีกหลายพอร์ต ไม่ว่าจะเป็นนิวยอร์ก วอชิงตันดีซี ชิคาโก ฮุสตัน ใครที่วางแผนจะเที่ยวอเมริกาจะบินเข้าเมืองนั้นออกเมืองนี้ได้ 

 

                       ส่วนฉันจะต่อเครื่องไป กรุงฮาบานา(Havana) ซึ่งที่จริงอยู่ไม่ห่างจากไมอามี่เท่าไหร่ แต่ความที่ยังไม่จูบปากกัน เดือดร้อนต้องนั่งคลิกเข้าไปที่เว็บไซต์เอ็กซ์พีเดีย เพื่อมองหาตั๋วเครื่องบินเข้าไปที่ประเทศโดมินิกัน รีพับลิกก่อน จากนั้นค่อยบินจากที่นั่นไปคิวบากันต่อ 

 

                       ที่ปวดหัวไม่แพ้กันคือเรื่องที่พัก เพราะคิวบายังเป็นประเทศที่ยังไม่เปิด โรงแรมอาจจะมีพอสมควร แต่ถ้าเป็นฤดูท่องเที่ยวอาจไม่เพียงพอกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เวลานี้ ใครๆ ก็พากันแห่แหนเข้าไปเที่ยวคิวบากัน

 

                       ยังดีที่ฉันมีตัวช่วยอย่างเว็บไซต์จองที่พักอย่างเอ็กซ์พีเดีย (www.expedia.co.th) ที่เมื่อคลิกเข้าไปแล้วจะช่วยค้นหาโรงแรมโดยไล่ไปตามความนิยม ไล่ตามดาว หรือไล่จากราคาของเรือนพักก็ได้ และถ้าไม่แน่ใจว่าอยู่ตรงไหนก็มีแผนที่อธิบายอย่างละเอียด ดีตรงที่เขาแยกโซนไว้เสร็จว่าใครจะพักย่านเมืองเก่า ย่านริมทะเล หรือย่านเมืองใหม่ ฉันเลือกปักหลักแถวเมืองเก่าของฮาบานา เพราะอยากเห็นเมืองเก่าสุดคลาสสิกของฮาบานามากกว่า  

 

                       แล้วก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เมืองเก่าของฮาบานาเก่าคร่ำอย่างที่จินตนาการเอาไว้ รถราเก่าได้ใจ แม้ผู้คนจะอยู่กันท่ามกลางความยากไร้ แต่พวกเขาก็มีรอยยิ้มให้คนต่างถิ่นเสมอ และเสียงดนตรีดูเหมือนเป็นสิ่งที่กล่อมเกลาพวกเขาให้ยิ้มให้แก่ทะเลแคริบเบียนได้ทุกเมื่อเชื่อวัน

 

                       ข้อพิสูจน์ว่าชาวคิวบาเป็นแบบนั้น ต้องไปเดินแถวริมทะเลที่เรียกว่า มาเลกอง (Malecon) ละแวกนี้ ถ้าเป็นเย็นย่ำจะมีชาวคิวบามานั่งเล่นกินลมชมวิวกัน จะเรียกว่าเป็นมุมพักผ่อนหย่อนอารมณ์ของชาวเมืองก็ว่าได้ ไม่ว่าลูกเด็กเล็กแดง วัยรุ่น หรือคนชราก็พากันมาจิบทะเลกันมุมนี้ 

 

                       ความจริงคิวบายังมีหลายเมืองให้สัญจรไปท่องเที่ยวกัน ฉันเองก็เดินทางจากฮาบานา ไปหาเมืองริมทะเลอย่างวาราเดโร (Varadero) สูดกลิ่นอายทะเลสักวันสองวัน แล้วจึงนั่งรถต่อไปหาเมืองซานตา คลารา (Santa Clara) เมืองที่คนตั้งใจมาตามรอยเรื่องราวของชายชื่อ เช เกบารา (Che Guevara) ต้องแวะกันทุกคน ที่จริงถ้าจะตามรอยเชจริงๆ บอกเลยว่ามีเรื่องราวของเชให้ตามกันทุกเมือง แต่ไฮไลท์คงจะอยู่ที่ซานตา คลารา 

 

                       จากนั้น ฉันยังดั้นด้นไปหาเมืองมรดกโลกอย่างตรินิแดด (Trinidad) เมืองประเภทโคโลเนียล ซิตี้ ที่ทำให้นักท่องเที่ยวหลงรักกันทุกคน ยังมีเมืองเก๋ๆ สวยๆริมทะเลอย่างเซียนฟวยกอส(Cienfuegos) ที่แวะไปแล้ว พูดได้คำเดียวว่าไม่เสียเที่ยวเลยจริงๆ

 

                       ใครที่อยากจะไปถ่ายรูปพวกรถเก่าๆ คลาสสิกๆ  ตึกเก่าๆ ไม่ต้องขังตัวเองไว้แค่ฮาบานา เพราะทุกเมืองที่ว่ามานี้ มีให้ดูกันไม่หวาดไม่ไหว 

 

                       สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่อยากไปเที่ยวคิวบา บอกเลยว่า มีเรื่องเดียวที่ง่ายดายคือการทำวีซ่า เพราะมีสถานทูตคิวบาในไทย (0-2665-2803) ที่พร้อมจะให้ข้อมูลการท่องเที่ยวในคิวบาและใช้เวลาทำวีซ่าเพียงไม่กี่วันเท่านั้น 

 

                       พูดเลยว่า เป็นคิวบาแบบที่วาดภาพรางๆ เอาไว้ งดงาม คลาสสิกทุกองศาจริงๆ

 

 

 

 

 

--------------------

 

(เที่ยวนี้ขอเล่า : คลาสสิก...คิวบา : โดย...กาญจนา หงษ์ทอง [email protected] IG - kan_hongthong)