ไลฟ์สไตล์

‘นมแม่แช่แข็ง’‘สายใยรักจากแม่ส่งตรงถึงลูกแม้ห่างไกล’

‘นมแม่แช่แข็ง’‘สายใยรักจากแม่ส่งตรงถึงลูกแม้ห่างไกล’

30 ก.ค. 2558

‘นมแม่แช่แข็ง’‘สายใยรักจากแม่ส่งตรงถึงลูกแม้ห่างไกล’ : ปฏิญญา เอี่ยมตาล ทีมข่าวรายงานพิเศษ

              องค์การเครือข่ายพันธมิตรนมแม่โลก หรือ WABA (WORLD ALILIANCE BREASTFEEDING ACTION) กำหนดให้ทุก วันที่ 1-7 สิงหาคม ของทุกปี เป็น สัปดาห์นมแม่โลก รณรงค์ให้ประชาคมโลกตระหนักถึงความสำคัญของนมแม่ อาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารกน้อย

              เป็นที่น่าเสียดายว่า ประเทศไทยมีแม่เพียงร้อยละ 12 เท่านั้น ที่ให้ลูกกินนมแม่อย่างเดียวตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 เดือน จัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีอัตราต่ำที่สุดในเอเชียของการให้ลูกกินนมแม่ทันทีหลังคลอด

              ทั้งที่การให้นมแม่ทันทีหลังคลอด และการให้นมแม่เพียงอย่างเดียวตั้งแต่แรกเกิด เป็นสิ่งแรกที่ช่วยให้ทารกรอดชีวิต ได้รับโภชนาการที่เหมาะสม ทำให้เด็กมีสุขภาพและพัฒนาการเติบโตที่ดี

              การให้ทารกอยู่แนบเนื้อกับอกแม่หลังคลอด ช่วยปรับอุณหภูมิในร่างกาย จังหวะการหายใจ สร้างสายสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูก ช่วยให้แม่เลี้ยงลูกได้ง่ายขึ้น กรมอนามัย สำนักส่งเสริมสุขภาพ พบว่า มีทารกและแม่เพียงร้อยละ 46 ในไทยเท่านั้นที่มีประสบการณ์ แนบเนื้อหลังคลอดบุตร

              ด้วยปัจจัยหลายอย่างเอื้ออำนวยให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ลดลง หนึ่งในนั้นคือ การโฆษณาและส่งเสริมการตลาดนมผง จนแม่เชื่อว่า นมผงช่วยให้ลูกฉลาดและแข็งแรง จึงตัดสินใจซื้อให้ลูกกินแทนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

              กว่า 80 ประเทศทั่วโลกมีกฎหมายควบคุมการโฆษณาเกินจริงของตลาดนมผงและอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็กตามหลักเกณฑ์สากล แต่ในไทยยังไม่มี ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน อาทิ พม่า ลาว เวียดนาม ฯลฯ กำลังจะมีแล้วอยู่ระหว่างดำเนินการ

              ของไทยมีเพียงประกาศ กฎกระทรวงสาธารณสุข ยังไม่เป็นกฎหมายทำให้บริษัทผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้จำหน่าย ละเลย มองข้ามและโฆษณาสรรพคุณเกินจริง เพราะไม่มีบทลงโทษที่เด็ดขาด

              อีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญคือ แม่ต้องทำงาน เพราะลาคลอดได้ 90 วันเท่านั้น เมื่อครบกำหนด ต้องกลับไปฝากลูกไว้กับพ่อแม่(ปู่ย่าตายาย)ต่างจังหวัด ไม่มีเวลาหรือวันหยุดยาวกลับไปให้นมลูกต่อเนื่อง จึงหันไปให้ลูกกินนมผงแทน เพื่อความสะดวก

              ปัจจุบันหารู้ไม่ว่า ข้อจำกัดที่เกิดขึ้น ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อีกต่อไป  แม่ที่ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมหรือบริษัท สามารถ ปั๊มนมจากเต้าตัวเองส่งไปให้ลูกกินได้

              ด้วยแรงส่งเสริมผลักดันของ มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย กรมอนามัยฯ และองค์การยูนิเซฟ ให้สถานประกอบการในไทยจัด มุมนมแม่ สำหรับแม่ลูกอ่อนที่เพิ่งคลอดลูกปั๊มนมในระหว่างทำงานได้เมื่อรู้สึกคัดนม แล้วใส่ถุงซีลที่บริษัทจัดหาให้แช่แข็งที่อุณหภูมิ -10 องศา เก็บน้ำนมแม่ได้นาน 6 เดือนถึง 1 ปี

              ส่งกลับไปให้ลูกที่ต่างจังหวัด ทางรถทัวร์หรือเครื่องบิน ตามแต่สะดวกของครอบครัว โดยมีผู้มารับนม ปลายทาง นำนมไปละลายในน้ำอุ่นใส่ขวดให้ลูกหลานกินได้รวดเร็ว ถูกต้องตามหลักโภชนาการ สะอาด ปลอดภัย ไม่มีสารพิษ สารเคมีเจือปน          

              พีระพงษ์ สุนทรวิภาต ผจก.สำนักพัฒนาองค์กร บริษัทไทยซัมมิท ฮาร์เนส จำกัด (มหาชน) นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จ.ชลบุรี บอกว่า บริษัทเห็นความสำคัญของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ สนับสนุนพนักงานเลี้ยงลูกและปั๊มนมแม่ในเวลางาน จัดห้องนมแม่ในมุมห้องพยาบาลให้แม่ลูกอ่อนที่คัดนมปลีกเวลามาบีบปั๊มเก็บน้ำนมให้ลูกได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องทดเวลาทำงาน

              “พนักงานที่นี่ 85 เปอร์เซ็นต์เป็นผู้หญิงหรือประมาณ 1,700 คน เป็นโรงงานต้นแบบนมแม่ในไทยตั้งแต่ปี 2553 มีแม่ลูกอ่อนใช้บริการมุมนมแม่วันละ 20-30 คน วันละ 5-7 ครั้งต่อคน ใช้เวลาต่อครั้ง 15-20 นาที ถือว่าไม่นานไม่เสียงาน เป็นนโยบายบริษัทที่ยินดีและมีความสุขที่เห็นลูกได้กินนมแม่ มีทั้งส่งทางไกลและปั๊มเก็บไว้เอาไปให้ลูกกินที่บ้านด้วย" พีระพงษ์กล่าว    

              พรทิพย์ เอกจีน หรือบี อายุ 30 ปี พนักงานโรงงาน เล่าว่า  มีความสุขมากที่ได้ปั๊มนมให้ลูก ทุกครั้งที่มาห้องนมแม่จะคิดถึงลูก ทำให้มีกำลังใจ น้ำนมได้เยอะ น้ำนมออกดี มาปั๊มนมให้น้องตาต้าลูกชายวัย 5 เดือนทุกวัน เขาอยู่กับปู่ย่าที่หาดใหญ่ ส่งนมไปให้ทุกอาทิตย์ใส่ลังโฟมใหญ่ ค่าส่งรถทัวร์ 300-350 บาทต่อครั้ง ตกเดือนละ 1,500 บาท ถูกกว่าซื้อนมผงหลายเท่า

              “ตอนแรกสามีจะให้ลูกกินนมผง เพราะสะดวก เลยค้านว่าให้กินนมแม่ดีกว่า มีประโยชน์และประหยัดด้วย แค่ละลายน้ำร้อน ใส่ขวดกินได้ไม่ยุ่งยาก จะยุ่งตอนไปส่งและมารับนมเท่านั้น ที่ทำงานก็สนับสนุนด้วย ความที่เป็นแม่ก็อยากให้ลูกกินในสิ่งที่ดีที่สุด แม่ทำให้ลูกได้ทุกอย่าง แม้จะเหนื่อยไม่เคยท้อ เห็นลูกกินนมแม่แล้วแข็งแรง ฉลาด โตเร็ว อารมณ์ดี ไม่เคยเจ็บป่วยก็ดีใจ"  พรทิพย์กล่าวระหว่างปั๊มนมให้ลูกชายในห้องนมแม่ เธอบอกด้วยว่า

              วันนี้จะเอานมแช่แข็งที่ปั๊มเก็บได้ทั้งอาทิตย์ 90 ถุง 360 ออนซ์ส่งไปให้ลูกชายที่หาดใหญ่ พร้อมพาทีมข่าวขึ้นรถไปด้วย โดยนำนมแช่แข็งออกจากตู้แช่ห้องนมแม่ ใส่กระเป๋าเก็บความเย็น ขับรถออกจากโรงงานมาแพ็กใส่กล่องรวมกับนมที่ปั๊มที่บ้าน อีกครึ่งหนึ่งใส่กล่องโฟมใหญ่ปิดผนึกอย่างดี

              เขียนจ่าหน้าถึงคุณปู่น้องตาต้า ไปส่งที่ ท่ารถทัวร์ระยองหาดใหญ่ในตัวเมืองระยอง ห่างจากที่ทำงาน 85 กม. นับเป็นความพยายามของแม่คนนี้ที่จะให้สิ่งดีๆ สำหรับลูก โดยบอกกับทีมข่าวว่า “ไม่เหนื่อยเลย แถมภาคภูมิใจเสียอีกที่ลูกได้กินนมแม่ทำให้รู้สึกผูกพันแม่ลูกเหมือนไปให้นมด้วยตัวเอง" หลังยกกล่องโฟมไปชั่งน้ำหนักได้ 13 กิโลกรัม เธอบอกว่า ครั้งนี้หนักกว่าทุกครั้งที่เคยส่งมา  

              นมแช่แข็ง แพ็กในลังโฟมอย่างแน่นหนา มีน้ำแข็งแห้งบรรจุอยู่ด้วย ถูกนำขึ้นรถทัวร์ต้นทางระยองช่วงสี่โมงเย็นวันที่ 20 กรกฎาคม ถึงปลายทางหาดใหญ่ จ.สงขลา เวลา 10 โมงครึ่ง วันที่ 21 กรกฎาคม ใช้เวลาในการเดินทางทั้งหมด 18 ชั่วโมงครึ่ง

              ที่ปลายทางหาดใหญ่ คุณปู่น้องตาต้าวัย 60 ปีกล่าวทักทายทีมข่าวอย่างอารมณ์ดีพร้อมชะเง้อรอดูรถทัวร์ที่เข้ามาอย่างใจจดจ่อ รอเพียง 10 นาทีรถทัวร์เป้าหมายก็ขับเข้ามาจอด คุณปู่น้องตาต้ารีบเดินไปที่ห้องเก็บของด้านหลังรถ บอกเด็กรถว่ามารับ กล่องนมแม่ เมื่อพนักงานส่งให้ปู่น้องตาต้าไม่รีรอรีบยกกล่องเดินไปหาเจ้าหน้าที่เพื่อเซ็นรับของอย่างไม่รอช้า เอากล่องโฟมใส่หลังรถกระบะขับกลับบ้านพักห่างจากจุดรับของประมาณ 5 กิโลเมตร

              ทันทีที่มาถึงบ้าน ย่าและอาของน้องตาต้าออกมาต้อนรับ และช่วยยกกล่องโฟมไปเปิดหลังบ้านเอานมออกมาแช่แข็งต่อในช่องฟรีซตู้เย็น เมื่อจับดูนมที่ส่งมายังแข็งอยู่ มีบางส่วนละลายนิดหน่อย สีสันยังสดเหมือนเดิม  เมื่อครั้งเปิดตู้เย็น พบนมแช่แข็งยังเหลืออยู่หลายแพ็ก ย่าน้องตาต้าบอกว่า ต้องกินนมเก่าให้หมดก่อน หลานชายกินเก่งวันละ 5-6 ถุงทีเดียว

              ระหว่างที่ลำเลียงนมใส่ช่องแช่แข็ง “น้องตาต้า”นอนหลับอยู่ในเปลที่ผูกด้วยผ้าโสร่งยึดกับขื่อเพดานตัวบ้าน แบบวิถีชาวบ้านโบราณ ย่าไกวเปลได้ไม่นาน น้องก็ตื่น อาจเพราะเสียงดัง

              ทันทีที่ตื่นแล้วไม่ร้องงอแง ทำหน้างงๆ สักพักก็ยิ้มได้ ปู่ย่าจึงอุ้มหลานมาหยอกเล่นอย่างอารมณ์ดีและให้กินนมแม่ที่ส่งมาให้ เป็นภาพแห่งความสุขที่ประทับใจไม่รู้ลืม แม้ว่า ผู้เป็นแม่จะไม่ได้ให้นมลูกในอ้อมอกของตัวเองก็ตาม แต่ก็สัมผัสได้ถึงไออุ่นของน้ำนม ที่ส่งมาให้ลูกได้ดื่มกิน