
แปลงร่างเจ้าของเพจหมอตุ๊ดเป็นหนังสือ
13 ก.ย. 2558
อมหมึกเคี้ยวกระดาษ : แปลงร่างเจ้าของเพจ หมอตุ๊ด เป็นหนังสือ กว่าเจ้จะเป็นหมอ : โดย...ปลวกหวาน
กรี๊ด..แฟนคลับยิ้มแป้นยินดี เมื่อทราบว่าเพจ “หมอตุ๊ด” ได้กลายมาเป็นหนังสือแล้ว กับ “กว่าเจ้จะเป็นหมอ” By…เจ้หมอ โดย สำนักพิมพ์สยามอินเตอร์บุ๊ค ในเครือสยามอินเตอร์มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) เปิดตัวในงานจัตุรัสจามจุรีบุ๊คแฟร์ ครั้งที่ 7 วันก่อน
“กว่าเจ้จะเป็นหมอ” เรื่องเม้าท์มอยสุดแซบจากแวดวงเสื้อกาวน์ กับเรื่องราวอินไซด์ของนักศึกษาแพทย์ที่หลายคนคงเคยอ่านในเพจสุดฮอต “หมอตุ๊ด” ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 1 แสนคน ด้วยภาษาที่สนุกและเผ็ดร้อนในฉบับของเจ้หมอ
เรื่องราวของหนังสือน่าจะเป็นเหมือนเราได้แอบอ่านไดอารี่ของคนที่ทำอาชีพที่เราคุ้นเคยมากที่สุด ภายใต้ชุดกาวน์สีขาวยาวๆ น้ำเสียงเรียบๆ ใบหน้านิ่งๆ เขาเป็นคนอย่างไร ทำไมถึงไม่เล่าเรื่องราวอะไรให้เรารู้บ้างเลย
ปริศนาหลายอย่างที่หลายคนสงสัย ค่อยๆ คลายออกมาผ่านมุมมองเรื่องเล่าของเจ้หมอที่จะสอดแทรกแนวคิด แรงบันดาลใจและชีวิตนักเรียนแพทย์ ตั้งแต่ตอนเตรียมตัวระหว่างเรียน จนกระทั่งกลายเป็นหมอเต็มตัว มาให้เราได้ปาดน้ำตา อมยิ้ม หรือหัวเราะไปด้วยกันตลอดทั้งเรื่องว่า กว่าเจ้จะเป็นหมอ แถมเป็นตุ๊ดด้วยมันหนักหนามากขนาดไหน ด้วยลีลาการเขียนสุดแซบในสไตล์... “เจ้หมอ”
ภายในงานอบอุ่นคับคั่งไปด้วยแฟนคลับที่เป็นหนอนนักอ่าน ทั้งที่เป็นคุณหมอ เป็นนักศึกษา และนานาอาชีพที่มาให้กำลังใจ “เจ้หมอ” หรือ นพ.อุเทน บุญอรณะ กันอย่างเนืองแน่น พร้อมด้วยแขกรับเชิญที่เป็นนักเขียนระดับเบสท์เซลเลอร์อย่าง นพ.ชัชพล เกียรติขจรธาดา และ พญ.ขวัญปีใหม่ พะนอจันทร์ ที่มาเซอร์ไพรส์เจ้หมอแบบไม่ทันตั้งตัว !
ไฮไลต์กิ๊บเก๋ของงานอยู่ที่การเสวนา ที่นอกจากเป็นการเปิดเผยโฉมหน้าของเจ้หมอเป็นครั้งแรกแบบตัวเป็นๆ แล้ว ยังมีโอกาสได้พูดคุยและรู้จักตัวตนที่แสนจะน่ารักของเขาอีกด้วย
งานนี้ได้ อธิคม ภูเก้าล้วน ดีเจจากสปอร์ต เรดิโอ รับหน้าที่ผู้ดำเนินรายการ ซึ่งคำถามส่วนใหญ่พูดถึง ธีม เนื้อหา และแรงบันดาลใจที่กลายมาเป็นหนังสือเล่มนี้
“เท่าที่เห็นหนังสือที่เกี่ยวกับชีวิตหมอ มักจะนำเสนอเรื่องซ้ำๆ เช่น เรียนหมอยากยังไง เรื่องอาจารย์ใหญ่ เรื่องอยู่เวร ก็คิดว่าคงต้องเขียนแนวนี้แหละ แต่เขียนให้เป็นชีวิต “คน” มากขึ้น ชีวิตที่มีครบทุกองศา คือมีเรื่องครอบครัว เรื่องความรัก และเรื่องความกังวลหลังจากเรียนจบ หนังสือพูดถึงชีวิตตอนปี 6 ที่กำลังจะกลายไปเป็นหมอเต็มตัว เราเขียนในฐานะคนคนหนึ่ง ไม่ได้เขียนในฐานะนักเรียนแพทย์ เรื่องราวจึงค่อนข้างสนุกออกแนวฮาๆ ตลกๆ”
จากเพจที่มีคนกดไลค์กว่าแสนคน พอกลายมาเป็นหนังสือเล่มแรกในชีวิต จึงเป็นเรื่องที่เจ้หมอต้องรู้สึกกดดันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่เจ้หมอก็ยังชื่นบานตอบว่า
“ถามว่ากดดันมั้ย ต้องบอกว่ากดดันมากกกก (หัวเราะ) เพราะคนที่มาอ่านเพจของเราเขาไม่ได้คาดหวัง เข้ามาเปิดอ่านเพื่อความสนุก แต่พอมาเป็นหนังสือคนอ่านเขาต้องเสียเงินซื้อ โจทย์คือ มันต้องคุ้ม ต้องสนุก อ่านหนังสือจบแล้ว อารมณ์ต้องยังต่อเนื่องคุกรุ่นอยู่ อย่างคนที่เป็นหมอ อ่านหนังสือจบแล้ว ก็อาจกลับไปคิดถึงตอนเรียน คิดถึงเพื่อน...
เรานำเสนอในฐานะที่เป็นมนุษย์ตุ๊ดคนนึงที่อยู่ท่ามกลางเพื่อนๆ ที่เป็นชะนี เป็นทอม เป็นผู้ชาย หรือแม้แต่เป็นผู้ชายที่กึ่งๆ ว่าจะเป็นเกย์หรือไม่เป็น เราต้องการพูดถึงมิตรภาพของนักเรียนแพทย์ การใช้ชีวิตของเด็กที่เป็นตุ๊ดในคณะแพทย์ ถึงได้บอกไงว่า เป็นหมอมันยากแล้วก็เหนื่อย เป็นตุ๊ดก็ยากแล้วก็เหนื่อย แล้วเราเป็นทั้งหมอเป็นทั้งตุ๊ด ที่อยู่ในสังคมที่รักตุ๊ดก็มี เกลียดตุ๊ดก็มี ก็เลยยิ่งเหนื่อย เลยอยากจะเล่าว่า ที่ทั้งเหนื่อยด้วย ตลกด้วยเนี่ยมันเป็นยังไง”
บรรยากาศในการสนทนาอุดมไปด้วยความสนุกสนาน จนมาถึงช่วงท้ายของกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้แฟนพันธุ์แท้ของเจ้หมอได้ตอบคำถามและรับรางวัลจากมือเจ้หมอ ก่อนที่ กำพล อมรวณิชย์กิจ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะมอบของที่ระลึกแก่เจ้หมอ
ปิดท้ายกิจกรรมกับบรรยากาศที่เจ้หมอแจกลายเซ็นให้แก่ผู้ที่ซื้อหนังสือ แถมยังได้พูดคุยและถ่ายรูปเซลฟี่เฮฮา ต้องบอกว่าแฟนคลับเจ้หมอมีทุกเพศทุกวัยจริงๆ