ไลฟ์สไตล์

ตรวจ 'หลอดเลือดหัวใจ' ด้วยการ ฉีดสีสวนหัวใจ

ตรวจ 'หลอดเลือดหัวใจ' ด้วยการ ฉีดสีสวนหัวใจ

22 ก.ย. 2558

ดูแลสุขภาพ : ตรวจ 'หลอดเลือดหัวใจ' ด้วยการ ฉีดสีสวนหัวใจ

 
                      ปัจจุบันโรคหัวใจ (Heart disease) เป็นสาเหตุการตายอันดับต้นๆ ของประเทศ ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สาเหตุนั้น เกิดจากหลายปัจจัยรวมกัน เช่น การสูบบุหรี่ ภาวะความดันโลหิตสูง ภาวะไขมันในเลือดสูง โรคเบาหวาน อ้วนลงพุง ขาดการออกกำลังกาย ความเครียด และพันธุกรรม ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะมีอาการเจ็บแน่นหน้าอกโดยจะรู้สึกเหมือนมีอะไรหนักๆ กดทับบริเวณกลางหน้าอก เยื้องไปทางด้านซ้าย บางรายอาจจะแน่นแล้วร้าวไปถึงหัวไหล่ แขน หรือจุกแน่นบริเวณคอหรือกราม หรือมีอาการจุกแน่นตรงยอดอกบริเวณลิ้นปี่ โดยอาการดังกล่าวสัมพันธ์กับการออกแรง เช่น ยกของหนัก หรือออกกำลังโดยแพทย์จะทำการวินิจฉัยด้วยการ “ฉีดสีสวนหลอดเลือดหัวใจ” เป็นวิธีการตรวจดูหลอดเลือดหัวใจว่าหลอดเลือดตีบหรือไม่แต่ไม่ได้บอกการสะสมของไขมันในผนังหลอดเลือดหัวใจถึงแม้จะเห็นว่าหลอดเลือดหัวใจดูปกติไม่ตีบแต่อาจมีไขมันไปสะสมที่ผนังหลอดเลือดโดยที่การสะสมนี้อาจยังไม่มากพอที่จะให้เห็นการตีบจากการฉีดสี
 
                      ทางการแพทย์การสวนหัวใจคือการทำหัตถการที่ใช้ได้ทั้งการ “ตรวจ” และ “รักษา” โรคหัวใจการสวนหัวใจเมื่อพิจารณาให้ดีก็มีทั้งการสวนแบบย้อนทาง และแบบตามทางเดินของเลือดเพราะการสวนหัวใจคือการใส่สายสวน ซึ่งมีลักษณะคล้ายสายยางขนาดจิ๋วที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 1-2 มิลลิเมตร ยาวประมาณ 1 เมตร ทำด้วยวัสดุที่นิ่มคล้ายสายยาง มีรูปร่างต่างๆ กันการใส่สายสวนมีทั้งการใส่เข้าไปในหลอดเลือดแดง และหลอดเลือดดำ หากใส่สายสวนเข้าทางหลอดเลือดแดงจะต้องใส่สายสวนนี้ย้อนทางเดินเลือดไปเรื่อยๆ จนถึงหัวใจ จึงสามารถวัดความดันโลหิตในห้องหัวใจหรือหลอดเลือดรอบๆ หัวใจที่ปลายสายสวนนั้นไปถึงได้ หรือบางครั้งอาจฉีดสารทึบรังสีเข้าไปที่บริเวณดังกล่าวเพื่อถ่ายภาพเอกซเรย์ เพื่อตรวจบริเวณหัวใจด้านซ้ายได้ด้วย นอกจากนี้การใส่สายสวนเข้าทางหลอดเลือดดำก็สามารถค่อยๆ ใส่สายนี้กลับไปที่หัวใจทางหลอดเลือดดำ ตามทางเดินของเลือด เพราะเลือดดำคือเลือดที่ไหลกลับสู่หัวใจ ในการสวนหัวใจผ่านทางหลอดเลือดดำนี้ แพทย์ก็สามารถวัดความดันและฉีดสารทึบรังสีที่หัวใจหรือหลอดเลือดรอบๆ หัวใจอีกด้านได้เช่นกัน
 
                      การสวนหัวใจไม่ว่าจะเป็นการทำผ่านทางหลอดเลือดแดงหรือหลอดเลือดดำสามารถทำผ่านบริเวณที่ขาหนีบข้อพับแขนหรือข้อมือก็ได้ ขึ้นอยู่กับโรคที่ผู้ป่วยเป็นและความชำนาญของแพทย์ในปัจจุบันนี้หลังการสวนหัวใจ ผู้ที่ถูกสวนหัวใจไม่จำเป็นต้องนอนถูกผูกขา เหยียดแขนเป็นเวลาหลายชั่วโมงเหมือนสมัยก่อน เพราะสายสวนมีขนาดเล็กลงมาก และปัจจุบันยังมียาและอุปกรณ์ที่ช่วยอุดผนังหลอดเลือดตรงบริเวณที่ถูกใส่สายสวนเพื่อช่วยให้เลือดหยุดไหลอีกด้วย
 
                      ในการสวนตรวจหลอดเลือดที่เลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจจะทำผ่านหลอดเลือดแดง ที่บริเวณขาหนีบ ข้อมือ หรือ ข้อพับที่แขน โดยการฉีดยาชาเฉพาะที่คนไข้ไม่ต้องโดนวางยาสลบตอนเริ่มต้นจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยบริเวณที่ถูกฉีดยาชาเท่านั้นหลังจากนั้นผู้ป่วยจะไม่รู้สึกเจ็บอีกเลยเพราะภายในหลอดเลือด ที่มีสายสวนอยู่นั้นไม่มีเส้นประสาทที่รับความรู้สึกเจ็บปวดการสวนหัวใจเพื่อการตรวจทั่วๆ ไปจะใช้เวลาประมาณ 20-60 นาที หลังตรวจเสร็จแพทย์จะนำสายสวนออกจากตัวคนไข้แล้วกดตรงบริเวณที่ใส่สายเข้าไปเพื่อให้เลือดหยุด หรือใช้ยาและอุปกรณ์เพื่อช่วยให้เลือดหยุดได้เร็วขึ้นก็แล้วแต่กรณีหากไม่มีปัญหาแทรกซ้อนในการตรวจ ส่วนมากแล้วผู้ป่วยก็สามารถดื่มน้ำและรับประทานอาหาร (ที่ต้องงดก่อนมาตรวจอย่างน้อย 6 ชั่วโมง) ได้ทันที
 
                      การตรวจในปัจจุบันเครื่องมือเอกซเรย์เป็นระบบดิจิทัล จึงทำให้แพทย์สามารถรู้ผลได้ในทันทีดังนั้นส่วนใหญ่หลังจากตรวจสวนหัวใจและฉีดสีแล้วก็สามารถสวนรักษาหลอดเลือดหัวใจที่อาจจะมีการตีบตันต่อไปได้เลย ถ้าผู้ป่วยได้รับการเตรียมพร้อม เพราะการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบในปัจจุบันมักจะรักษาด้วยการทำบอลลูน ใช้ลูกโป่งขยายหลอดเลือดและใส่ขดลวดแทนการผ่าตัดทำบายพาสเนื่องจากการรักษาด้วยการขยายหลอดเลือดนั้นทำได้เร็วกว่า มีผลข้างเคียงน้อยกว่า ระยะพักฟื้นน้อยกว่า เสี่ยงน้อยกว่าโดยผลการรักษาทั้งในระยะสั้นและยาวไม่แตกต่างจากการทำผ่าตัดบายพาส
 
                      อย่างไรก็ตามวิธีที่ดีที่สุดก็คือ การป้องกันและควบคุมโรคต่างๆ ที่เป็นสาเหตุหรือปัจจัยเสี่ยง โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำรงชีวิต เช่น การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง อาหารรสเค็มจัด ควบคุมน้ำหนัก ไม่เครียด งดการสูบบุหรี่ และที่สำคัญควรได้รับการตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงและโอกาสเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
 
 
 
 
ศ.นพ.นิธิ มหานนท์
 
อายุรแพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือด
 
สถาบันหัวใจเพอร์เฟคฮาร์ท
 
โรงพยาบาลปิยะเวท