ไลฟ์สไตล์

ดูแลตัวเองอย่างไรถ้า'ไต'เหลือแค่ข้างเดียว

ดูแลตัวเองอย่างไรถ้า'ไต'เหลือแค่ข้างเดียว

05 ต.ค. 2558

ดูแลตัวเองอย่างไร ถ้า “ไต” เหลือแค่ข้างเดียว : คอลัมน์ ดูแลสุขภาพ

 
          ถือเป็นเรื่องราวอันน่าประทับใจมากๆ สำหรับข่าวของนักแสดงลูกกตัญญูท่านหนึ่งที่ตัดสินใจสละไตของตนเองเพื่อมอบไตให้คุณแม่ของตน ที่ป่วยเป็นโรคไตเรื้อรังและต้องเข้าออกโรงพยาบาลเพื่อฟอกเลือดอยู่เป็นประจำ วันนี้เราเลยมีข้อมูลดีๆ จากอายุรแพทย์โรคไตว่าถ้าหากเราได้บริจาคไตให้แก่ผู้อื่นแล้ว เราจะมีวิธีดูแลตัวเองอย่างไร และการบริจาคไตแก่ผู้อื่นนั้นเป็นอันตรายหรือไม่
 
          “การปลูกถ่ายไตหรือการเปลี่ยนไต (kidney transplant) คือวิธีการรักษาผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย โดยการนำไตของผู้อื่นที่ยังดีอยู่ อาจจะมาจากไตของคนที่มีชีวิต (living donor) หรือจากผู้ที่เสียชีวิต (deceased donor) แล้วก็ได้ แต่ต้องผ่านการตรวจสอบแล้วว่าเข้ากันได้กับผู้ป่วย มาทำหน้าที่ทดแทนไตเดิมที่ไม่สามารถใช้งานได้แล้ว
 
          ซึ่งปัจจุบันการปลูกถ่ายไตนับว่าเป็นวิธีการรักษาที่ประสบความสำเร็จสูง ทำให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายไม่ต้องฟอกเลือดไปตลอดชีวิต และสามารถมีคุณภาพชีวิตใกล้เคียงคนปกติ อีกทั้งยังสามารถมีชีวิตยืนยาวมากกว่าการรักษาด้วยวิธีการอื่น ดังนั้นผู้ป่วยโรคไตที่โรคดำเนินเข้าสู่ไตวายระยะสุดท้ายทุกรายที่ไม่มีข้อห้ามในการปลูกถ่ายไต แพทย์มักจะแนะนำให้ทำการรักษาด้วยวิธีนี้ สำหรับข้อควรทราบและการเตรียมตัวของผู้ที่จะบริจาคไตนั้น ผู้บริจาคต้องมีความเต็มใจที่จะบริจาคด้วยความบริสุทธิ์ใจและต้องเข้ารับการตรวจร่างกาย ตรวจทางห้องปฏิบัติการ และตรวจสภาพจิตใจให้พร้อม ก่อนที่จะทำการผ่าตัด คำถามต่อมาคือ ผู้บริจาคไตจะมีอันตรายหรือไม่
 
          และหลังจากผ่าตัดแล้วจะมีภาวะแทรกซ้อนอะไรเกิดขึ้นได้บ้าง กล่าวคือ การผ่าตัดไตก็คือการผ่าตัดชนิดหนึ่งซึ่งย่อมมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เพราะการผ่าตัดปลูกถ่ายไตต้องมีการวางยาสลบเหมือนการผ่าตัดอื่นๆ แต่ความเสี่ยงที่เกิดจากการผ่าตัดนั้นพบว่ามีน้อยมาก ซึ่งไม่ได้แตกต่างจากการผ่าตัดไส้ติ่งหรือการผ่าตัดคลอดเลย หลังผ่าตัดต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลโดยเฉลี่ยประมาณ 3-4 วัน หากไม่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น แผลติดเชื้อ ก็สามารถกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้ และสามารถกลับมาทำงานตามปกติได้ประมาณ 4-6 สัปดาห์
 
          ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับผู้ป่วยแต่ละราย โดยปกติหากเรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง การบริจาคไต 1 ข้าง ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการทำงานในชีวิตประจำวัน สามารถทำงานและทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ การมีไตข้างเดียวสามารถที่จะรับภาระในการกำจัดของเสียและน้ำส่วนเกิน ตลอดจนทำหน้าที่อื่นๆ ของไตได้มีประสิทธิภาพและเพียงพออยู่แล้ว และพบว่าหลังจากที่เหลือไตข้างเดียวแล้วก็ไม่ได้เป็นสาเหตุของการเกิดโรคไตอื่นๆ ตามมาในภายหลัง เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่ได้บริจาคไต มีข้อมูลจากวารสารในต่างประเทศได้ศึกษาพบว่า
 
          ผู้ที่บริจาคไตสามารถมีอายุยืนยาวไม่ได้แตกต่างจากคนทั่วไปเลย ดังนั้นไม่ว่าจะมีไต 2 ข้างหรือเหลือไตข้างเดียว หากเราดูแลตัวเองโดยดื่มน้ำให้เพียงพอ ลดอาหารเค็ม หลีกเลี่ยงยาสมุนไพรหรือยาที่มีผลกระทบต่อไต ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และหมั่นตรวจสุขภาพเป็นประจำ โอกาสที่จะเกิดโรคไตก็น้อยมาก แต่ในผู้ที่เหลือไตข้างเดียวควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุหรือมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายกับไตที่เหลืออยู่ด้วย นอกจากการบริจาคไตจะไม่ส่งผลต่อสุขภาพแล้วผู้ที่ให้จะรู้สึกมีความภาคภูมิใจและยังได้บุญกุศลที่ได้ให้ชีวิตใหม่แก่ผู้ป่วยและครอบครัวของผู้ป่วยที่เป็นโรคไตวายอีกด้วย”
 
          สำหรับในประเทศไทยนั้นกฎหมายแพทยสภา ระบุแหล่งที่มาของไตบริจาคที่ผู้ป่วยจะได้รับมาจาก 2 แหล่ง คือ ผู้บริจาคที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยตามกฎหมายระบุว่าต้องเป็นญาติทางสายเลือด คือ พ่อแม่พี่น้องร่วมสายเลือด บุตรหลานที่เป็นสายเลือดเดียวกันอย่างแท้จริง และรวมถึงสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยการบริจาคไตจากคนที่มีชีวิตจะต้องยินยอมด้วยความเต็มใจ ไม่เป็นการซื้อขายไต ส่วนผู้ประสงค์ที่จะบริจาคไตหลังจากเสียชีวิตไปแล้ว เนื่องจากปัจจุบันยังมีผู้บริจาคไตตรงส่วนนี้ค่อนข้างน้อย ถือโอกาสนี้ขอเชิญชวนและฝากข้อมูลเบื้องต้นหากมีผู้สนใจที่ต้องการบริจาคไต โดยสามารถติดต่อได้ที่ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย นอกจากผู้บริจาคจะได้บุญกุศลใหญ่หลวงแล้ว ยังสามารถช่วยให้ชีวิตใหม่แก่คนไข้โรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายอีกด้วย
นพ.สุรวัฒน์ อดิเรกเกียรติ
อายุรแพทย์โรคไต โรงพยาบาลปิยะเวท
.......................................
 
          ให้ความรู้ - พญ.อรอุมา บรรพมัย อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ และ ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.เสน่ห์ เจียสกุล ประธานคณะกรรมการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ รพ.สมิติเวช ให้ความรู้เรื่อง วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ ที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคเพิ่มมากขึ้น และลดการเสี่ยงการเสียชีวิต พร้อมบริการแล้วที่ รพ.สมิติเวช
 
........................................
(หมายเหตุ ดูแลตัวเองอย่างไร ถ้า “ไต” เหลือแค่ข้างเดียว : คอลัมน์ ดูแลสุขภาพ)