อาคิตะอินุ ซื่อสัตย์...รักสันโดษ | คมชัดลึก

 

                      น้องหมา อาคิตะอินุ (Akita Inu) ในบ้านเรานับได้ว่านิยมเลี้ยงกันพอสมควรทีเดียว อาจเพราะรูปร่างหน้าตาที่ดูเท่ สง่างาม ลักษณะนิสัยที่ชอบสันโดษ มาดขรึม ที่สำคัญมันเป็นอีกสายพันธุ์ที่ได้รับการยอมรับว่ามีความสัตย์ซื่อต่อเจ้าของอย่างสูง

 

                      มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่เกาะฮอนชู ประเทศญี่ปุ่น แต่เดิมใช้เป็นสุนัขอารักขาให้โชกุน และใช้เพื่อการล่าสัตว์ เนื่องจากมันมีทักษะในการดมกลิ่น การมองเห็น และการได้ยินในระดับสูง

 

                      ทว่า ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พวกมันเกือบตกอยู่ในภาวะสูญพันธุ์ เพราะจำนวนลดลงอย่างมากจากสาเหตุขาดแคลนอาหาร

 

                      กระทั่งสงครามจบสิ้นลงจึงเริ่มฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ ช่วงนี้เองที่มันถูกชาวอเมริกันนำเข้าไปยังอเมริกา ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ จนกลายเป็น อเมริกันอาคิตะ นอกเหนือจากเจแปนนิสอาคิตะ ที่เป็นสายพันธุ์ดั้งเดิม

 

 

 

 

                      ต่อเมื่อสมาคมผู้พัฒนาพันธุ์สุนัขของสหรัฐอเมริกาและของแคนาดา ได้ร่วมกันวิเคราะห์อเมริกันอาคิตะและเจแปนิสอาคิตะ ได้ข้อสรุปว่ามีลักษณะต่างกันแต่เป็นสายพันธุ์เดียวกัน ราวปี 2006 สมาคมของประเทศอังกฤษ วิเคราะห์และสรุปว่า เจแปนนิสอาคิตะเป็นของแท้ดั้งเดิมที่ไม่มีการผสมข้ามสายพันธุ์แต่อย่างใด

 

                      โดยทั่วไปมีขนาดกลาง วัดจากการยืนนับจากไหล่วัดได้ 60 ถึง 66 ซม. (24 ถึง 26 นิ้ว) เพศเมีย หนัก 30-45 กก. (70-100 ปอนด์) เพศผู้หนัก 35-54 กก. (75-119 ปอนด์) และมีเพียงห้าสี ได้แก่ สีแดง เทาแกมเหลือง สีเมล็ดงา แบบเป็นลาย และสีขาวบริสุทธิ์

 

                      มีความเป็นตัวของตัวเองสูง รักสันโดษ ฉลาด อดทน มีพลังห้าวหาญ กล้าตัดสินใจ ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกออกมาให้เห็นไม่ว่าจะกับเจ้าของ คนแปลกหน้า หรือสัตว์เลี้ยงด้วยกันเอง

 

                      ทว่า อุปนิสัยที่โดดเด่นของสุนัขสายพันธุ์นี้ คือความซื่อสัตย์และความจงรักภักดีต่อเจ้าของ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้คนทั่วโลกหันมาสนใจเลี้ยงกันมากขึ้นตามลำดับ รวมทั้งในบ้านเราด้วย

 

 

 

 

                      สำหรับคุณๆ ที่คิดจะเลี้ยง ด้วยที่มันไม่ค่อยเข้าใกล้คนแปลกหน้า จึงจำเป็นต้องฝึกฝนให้มันมีการเข้าสังคมอย่างเพียงพอ เพื่อลดความก้าวร้าวที่อาจเกิดขึ้นเมื่อพบคนแปลกหน้า ขณะเดียวกันมันเป็นสุนัขที่เบื่อง่าย หากหงุดหงิดอาจรื้อและทำลายข้าวของในบ้านเสียหายได้ ดังนั้น จึงควรพามันไปออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อลดความเครียดให้กับพวกมันครับ!

 

                      ปกติจะผลัดขนปีละ 2 ครั้ง ในเรื่องความสะอาดง่ายจึงไม่ต้องกังวล ทว่า ก็ควรอาบน้ำแปรงขน ทำความสะอาดร่างกาย ทำความสะอาดใบหู รูหู ให้มัน 2 สัปดาห์/ครั้ง จะช่วยให้พวกมันไม่เครียด มีอารมณ์ดีขึ้น

 

                      อีกเรื่องที่ต้องระวัง ถึงแม้จะทนกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นได้ดี ทางตรงข้ามพวกมันทนอากาศร้อนได้ในระดับต่ำ ดังนั้น ผู้เลี้ยงจึงควรหลีกเลี่ยงการเลี้ยงไว้ในที่ที่มีอากาศร้อนจัด

 

                      ส่วนเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งเมื่อคิด จะเลี้ยงแล้วก็ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดด้วย ทั้งเรื่องของขนที่อาจหลุดร่วงเป็นโรคตามมา เรื่องของกระดูกที่อาจเกิดปัญหาจากการออกกำลังกาย 

 

                      ฉะนั้น ควรพาไปพบสัตวแพทย์ตรวจเช็กร่างกายทุกเดือนได้ยิ่งดี เพื่อที่จะได้อยู่กับเราไปนานๆ ครับ!

 

 

--------------------

 

 

 

--------------------