ต่อใบขับขี่รถสาธารณะ หลังพ้นโทษ 3 ปี | คมชัดลึก

 

                      รบกวนสอบถามลุงแจ่ม กรุณาช่วยหาคำตอบเกี่ยวกับเรื่อง การต่ออายุใบขับขี่ชนิดที่ 4 ทุกประเภท สำหรับคนที่ต้องโทษจำคุก และกำลังจะพ้นโทษในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้แล้ว ก่อนหน้านี้พี่ชายผมถูกศาลตัดสินจำคุก 5 ปี ในข้อหาฆ่าคนตาย คดีถึงที่สุดแล้ว 

 

                      ตอนนี้พี่ชายติดคุกมาได้เกือบ 4 ปี และใกล้ถึงกำหนดพ้นโทษ จึงคิดถึงชีวิตหลังพ้นโทษว่าจะทำมาหากินอะไร เพราะไปสมัครงานที่ไหนก็คงไม่มีใครรับเข้าทำงาน พี่ชายเคยขับรถแท็กซี่มาก่อนที่จะติดคุก มีใบขับขี่รถสาธารณะ หรือใบขับขี่ชนิดที่ 4 ทุกประเภท เมื่อพ้นโทษแล้วก็คงออกมายึดอาชีพขับรถแท็กซี่เหมือนเดิม 

 

                      แต่ปัญหาคือ กว่าพี่ชายจะพ้นโทษ ใบขับขี่สาธารณะคงหมดอายุและต้องต่ออายุใหม่ ผมโทรศัพท์สอบถามเจ้าหน้าที่ขนส่งที่สำนักงานใหญ่ตรงจตุจักร เจ้าหน้าที่บอกว่า คนที่เคยติดคุก ใบขับขี่สาธารณะ หรือใบขับขี่ชนิดที่ 4 ทุกประเภทไม่สามารถต่ออายุได้ ต้องรอให้พ้นโทษไปแล้ว 3 ปีจึงจะต่อได้ ทราบแล้วก็ตกใจมาก แล้วแบบนี้จะไปทำมาหากินอะไรกัน

 

                      ทางบ้านวางแผนไว้ว่าเมื่อพี่ชายออกจากคุกแล้ว ก็จะดาวน์รถแท็กซี่ให้พี่ชายขับเพื่อหารายได้ เพราะเคยทำมาก่อน แต่ถ้าหากต่อใบขับขี่ไม่ได้ หนทางก็มืดมน พี่ชายทำผิดพลาดไปเพราะป้องกันตัว ไม่ได้เจตนาทำร้ายคู่กรณีถึงตาย ตอนที่อยู่ในคุกก็เสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปและสำนึกผิดแล้ว พี่ชายพูดเสมอว่า พ้นโทษเมื่อไหร่จะตั้งหน้าตั้งตาทำงาน ประกอบอาชีพสุจริต หาเงินจุนเจือครอบครัว

 

                      ผมถามเจ้าหน้าที่ว่า หลังพ้นโทษ จะขอคัดคำพิพากษามายื่นประกอบ แสดงว่าพ้นโทษแล้วมายืนยันให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้หรือไม่ เจ้าหน้าที่บอกว่า สามารถทำใบขับขี่ส่วนบุคคลได้ แต่ถ้าจะนำมายื่นเพื่อต่อใบขับขี่สาธารณะนั้นทำไม่ได้ ใบขับขี่ส่วนบุคคลทำมาแล้วก็ประกอบอาชีพขับแท็กซี่ไม่ได้ หาเงินส่งค่างวดรถก็ไม่ได้ จะทำอย่างไรดี รบกวนลุงแจ่มแนะนำแนวทางด้วย

 

 

 

 

 

 

                      ส่วนใบอนุญาตขับรถ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 5 (สขพ.5 จตุจักร) กรมการขนส่งทางบก ชี้แจงว่า ตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 96 วรรค 9 กำหนดคุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจำรถตามมาตรา 93 ในประเภทการขนส่งประจำทาง การขนส่งไม่ประจำทาง หรือการขนส่งโดยรถขนาดเล็กต้องไม่เป็นผู้เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดหรือคำสั่ง ที่ชอบด้วยกฎหมายให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดอันได้กระทำโดยประมาทที่มิใช่เกี่ยวกับการใช้รถในการกระทำผิดหรือความผิดลหุโทษ หรือได้พ้นโทษมาแล้วเกินสามปี

 

                      และคุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตขับขี่รถสาธารณะ (รถแท็กซี่) ที่กฎหมายกำหนด ต้องไม่เคยเป็นผู้ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ หรือความผิดเกี่ยวกับความสงบสุขของประชาชน ความผิดเกี่ยวกับการก่อให้เกิดภยันตรายต่อประชาชน ความผิดเกี่ยวกับเงินตรา ความผิดเกี่ยวกับเพศ ความผิดต่อชีวิต ความผิดต่อร่างกาย ความผิดต่อเสรีภาพ ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ความผิดฐานรับของโจร และความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา หรือความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ หรือโดยคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ หรือพ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี ในกรณีที่เป็นผู้ขาดคุณสมบัติดังกล่าว ต้องพ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า

 

                      (ก) หกเดือนสำหรับโทษจำคุกตามคำพิพากษาไม่เกินสามเดือน

 

                      (ข) หนึ่งปีสำหรับโทษจำคุกตามคำพิพากษาไม่เกินสามเดือนในคดีเกี่ยวด้วยการใช้รถกระทำความผิด หรือ

 

                      (ค) หนึ่งปีหกเดือนสำหรับโทษจำคุกตามคำพิพากษาเกินสามเดือนแต่ไม่เกินสามปี และได้ยื่นคำร้องต่อนายทะเบียนโดยชี้แจงถึงเหตุผลที่ตนต้องโทษพร้อมกับแสดงหลักฐานว่าคนเป็นบุคคลที่มีความประพฤติเรียบร้อยควรไว้วางใจให้ขับรถยนต์สาธารณะหรือรถจักรยานยนต์สาธารณะได้ แล้วแต่กรณี

 

                      กรณีร้องเรียนนี้ ถ้าใบอนุญาตขับขี่ดังกล่าวยังไม่หมดอายุในขณะที่พ้นโทษแล้วไม่เกิน 3 ปี ผู้ถือใบอนุญาตขับขี่สามารถใช้ใบขับขี่ได้จนกระทั่งหมดอายุ แต่เมื่อดำเนินการต่อใบอนุญาตขับขี่ในปีต่อมา และขณะนั้นผู้ถือใบอนุญาตขับขี่พ้นโทษไม่เกิน 3 ปี กรมการขนส่งทางบกไม่สามารถต่ออายุใบขับขี่ให้ได้ เนื่องจากผู้ถือใบอนุญาตขับขี่มีคุณสมบัติต้องห้ามตามกฎหมายข้างต้น

 

                      สำหรับการคัดคำพิพากษาและการขอใบพ้นโทษเพื่อขออนุโลม นั้น ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากกฎหมายไม่เปิดช่องให้ทำเช่นนั้น ส่วนการนำใบขับขี่ส่วนบุคคลมาใช้ในการขับรถรถยนต์สาธารณะ เป็นการใช้ใบอนุญาตขับขี่ผิดประเภท หากเจ้าหน้าที่ตรวจพบ จะมีความผิดต้องระวางโทษปรับ และอาจถูกนายทะเบียนเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่