
ควันหลง'ป่าไผ่เวฬุวัน'วันเพ็ญเดือนมาฆะ
ควันหลง'ป่าไผ่เวฬุวัน'วันเพ็ญเดือนมาฆะ
เพ็ญกลางเดือนสามนี้ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าถึงซึ่งพุทธประวัติมากขึ้น กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) โดยกรมการศาสนา (ศน.) เนรมิต มณฑลพิธีท้องสนามหลวง จำลองเป็น ป่าไผ่เวฬุวัน ภายใต้ชื่องาน “พุทธอุทยานเวฬุวัน เพ็ญเดือนมาฆะ” จัดระหว่างวันที่ 16–22 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เพื่อฉายภาพสมัยพุทธกาลที่พระภิกษุจำนวน 1,250 รูป มารวมตัวกันโดยไม่ได้นัดหมายในบริเวณที่เป็น “สวนไผ่” ของ “วัดเวฬุวันมหาวิหาร” รับฟัง “โอวาทปาติโมกข์” จาก “องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า”
สำรวย นักการเรียน เลขานุการกรมการศาสนา บอกว่า สาเหตุที่กรมการศาสนาจัดสร้างจำลองป่าไผ่ขึ้นมา เพราะคนรุ่นหลัง ไม่ค่อยรู้ว่า สถานที่ที่พระภิกษุมาประชุมกันโดยไม่ได้นัดหมายในวันเพ็ญกลางเดือนสามนั้น เป็นป่าไม้ในมณฑลวัดเวฬุวันมหาวิหาร จึงจำลองเหตุการณ์สมัยพุทธกาลให้เห็นของจริง ซึ่งเป็นปีแรกที่กรมการศาสนาจัดกิจกรรมวันสำคัญทางศาสนาในรูปแบบดังกล่าว
เหนืออื่นใด ได้คัดเลือก “พุทธวจนะ” ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และ “คติธรรม” ของพระอริยสงฆ์ มาจัดแสดงไว้เพื่อให้เป็นคำสอนคติเตือนใจแก่ผู้ร่วมงาน พร้อมจัดกิจกรรมเพิ่มทักษะความรู้พระพุทธศาสนา อาทิ การบรรยายให้ความรู้วันมาฆบูชา ประกวดแข่งขันสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัยทำนองสรภัญญะ ประกวดแข่งขันบรรยายธรรมแข่งขันตอบปัญหาธรรมะ การประกวดมารยาทไทย เล่นเกมคุณธรรม
ไม่เพียงเท่านั้น ในช่วงเย็นของทุกวัน จะมีการนำญาติโยม “สวดบทสวดโอวาทปาติโมกข์” โดยพระภิกษุสงฆ์จำนวน 90 รูป ซึ่งจะเป็นการส่งให้พุทธศาสนิกชนได้พึงปฏิบัติได้ครบองค์ตามแนวปฏิบัติในวันมาฆบูชา การให้ทาน ถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสามเณรในช่วงเช้าหรือเพล บริจาคทรัพย์ช่วยเหลือเกื้อกูลผู้ยากไร้และบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ รักษาศีล สำรวมระวังกายและวาจา ด้วยการรักษาศีล 5 หรือศีล 8 พร้อมทั้งบำเพ็ญเบญจธรรมสนับสนุน เจริญภาวนา บำเพ็ญภาวนาด้วยการไหว้พระสวดมนต์และปฏิบัติสมาธิและวิปัสสนาตามแนวสติปัฏฐาน 4 เวียนเทียน การเวียนเทียนเป็นการบูชาพระรัตนตรัยด้วยอามิสบูชาและปฏิบัติบูชา
พุทธศาสนิกชนที่เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้จะได้ตระหนักถึงความสำคัญของวันมาฆบูชา มีความรู้ความเข้าใจในหลักธรรมคำสอน สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้
ด้าน กฤษศญพงษ์ ศิริ อธิบดีกรมการศาสนา บอกว่า เนื่องในวันมาฆบูชาปี 2559 นี้ เมื่อเร็วๆ นี้ กระทรวงวัฒนธรรมโดยกรมการศาสนา ได้จัดสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาเนื่องในเทศกาลมาฆบูชา โดยประสานงานกับส่วนราชการอื่นๆ อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงคมนาคม กระทรวงยุติธรรม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดกิจกรรมตามวัดทั่วประเทศหรือสถานที่สำคัญที่จังหวัดกำหนด
สอดรับกับนโยบายของรัฐบาล "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ที่ให้ความสำคัญกับศาสนา โดยให้รัฐมนตรีและผู้บริหารของกระทรวงต่างๆ มาร่วมกิจกรรมวันสำคัญทางศาสนา ไม่ว่าจะเป็นการทำบุญตักบาตรในช่วงเช้า การร่วมกิจกรรมต่างๆ ในระหว่างวัน และการเวียนเทียนในช่วงเย็น ตรงนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมความเป็นไทย โดยการนำศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมและความเป็นไทยมาสร้างสรรค์สังคมไทย ให้มีการธำรงรักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ให้คงอยู่คู่สังคมไทย สนับสนุนทุกพื้นที่เป็นสังคมคุณธรรมด้วยการน้อมนำหลักธรรมทางศาสนา หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและการดำรงชีวิตตามวิถีวัฒนธรรมไทยที่ดีงามมาปฏิบัติ